หมีขั้วโลกไร้บ้าน ต้องยึดสถานีวิจัยร้างอยู่ หลังน้ำแข็งละลายจนที่อยู่หาย

ท่ามกลางความเงียบสงบของเกาะโคลีอูชิน ในทะเลชุคชี ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซีย อาคารรกร้างจากยุคสหภาพโซเวียตยังคงตั้งอยู่เป็นพยานแห่งกาลเวลา หลังจากนักวิทยาศาสตร์ละทิ้งไปกว่า 30 ปี แต่แทนที่จะปล่อยให้ทรุดโทรมไปอย่างไร้ค่า ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้กลับถูกยึดครองโดยผู้อยู่อาศัยกลุ่มใหม่ นั่นคือ ฝูงหมีขั้วโลก

ภาพถ่ายจากโดรนเผยให้เห็นหมีเดินเข้าออกตามซากอาคาร บางตัวซ่อนตัวในห้องเก่า บางตัวออกมาเดินเล่นกลางลานร้าง ราวกับหมู่บ้านที่เคยมีผู้คนพลุกพล่านได้ถูกเปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่นของสัตว์นักล่าแห่งขั้วโลกเหนือ พื้นที่ที่ครั้งหนึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อมนุษย์ จึงกลายเป็นที่พักพิงชั่วคราวของสัตว์ป่าท่ามกลางสภาพอากาศที่โหดร้าย

หมีขั้วโลกถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัวผู้โตเต็มวัยอาจมีน้ำหนักมากถึง 600 กิโลกรัม แม้รูปร่างกำยำ แต่ชีวิตของพวกมันเปราะบางขึ้นทุกวัน อาหารหลักคือแมวน้ำซึ่งอาศัยน้ำแข็งทะเลเป็นที่ล่า ทว่าภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งละลายเร็วกว่าที่เคย พื้นที่ล่าหดสั้นลง หมีจำนวนมากจึงต้องเร่ร่อนเข้ามาใกล้เขตชุมชนมนุษย์ หรืออย่างกรณีนี้ คือเลือกใช้สิ่งก่อสร้างร้างเป็นที่พักอาศัย

ตามการจัดอันดับของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) หมีขั้วโลกอยู่ในกลุ่ม เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (Vulnerable) ประชากรของมันลดลงจากการสูญเสียแหล่งอาศัยและความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การเข้ามาใช้ชีวิตในสถานีวิจัยร้างบนเกาะโคลีอูชินจึงไม่เพียงเป็นภาพแปลกตา แต่ยังสะท้อนถึงการดิ้นรนของสัตว์สายพันธุ์นี้ที่จะปรับตัวให้อยู่รอด

เรื่องราวของหมีขั้วโลกบนเกาะเล็กแห่งนี้จึงไม่ใช่เพียงภาพน่ารักของสัตว์ใหญ่ในอาคารร้าง แต่คือสัญญาณเตือนเงียบๆ ถึงมนุษย์ว่า ความเปลี่ยนแปลงของโลกที่เราสร้างขึ้น กำลังผลักดันสัตว์ป่าให้ออกเดินหาที่อยู่ใหม่ และอาจไม่เหลือพื้นที่ให้มันอีกต่อไป