สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวเกมเมอร์ทุกคน! วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดำดิ่งสู่โลกของ The Legend of Heroes: Ao no Kiseki หรือ Trails to Azure ในภาษาอังกฤษ เกม JRPG ภาคต่อจาก The Legend of Heroes: Zero no Kiseki ที่สานต่อเรื่องราวการผจญภัยของหน่วย Special Support Section (SSS) แห่งกรมตำรวจครอสเบล ในฐานะแฟนเกม Trails Series ตัวยง ผมขอบอกเลยว่าภาคนี้เป็นอีกหนึ่งภาคที่ผมรอคอยมานานแสนนาน และเมื่อได้สัมผัสประสบการณ์จริง บอกเลยว่า "ไม่ผิดหวัง" จริงๆ ครับ เนื้อเรื่อง: ความเข้มข้นที่ทวีคูณ เมื่อปริศนาเก่าคลี่คลาย และภัยร้ายใหม่คืบคลาน Ao no Kiseki เริ่มต้นขึ้นหลังจากเหตุการณ์ใน Zero no Kiseki ไม่นานนัก สมาชิก SSS ที่นำโดย Lloyd Bannings ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ เมื่อครอสเบลต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากองค์กรลับที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆ รวมถึงการปรากฏตัวของ "KeA" เด็กสาวปริศนาผู้กุมความลับแห่งโชคชะตาของครอสเบลเอาไว้ สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในภาคนี้คือการดำเนินเรื่องที่เข้มข้นขึ้นกว่าภาคก่อนอย่างเห็นได้ชัด ปมปริศนาต่างๆ ที่ทิ้งไว้ใน Zero no Kiseki เริ่มคลี่คลาย เผยให้เห็นถึงความเชื่อมโยงอันซับซ้อนของตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ที่สำคัญคือการพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครในทีม SSS ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทำให้เรารู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยพวกเขามากขึ้นไปอีก แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึก "ว้าว" จริงๆ คือการที่เนื้อเรื่องไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในครอสเบลอีกต่อไป แต่ยังขยายขอบเขตไปยังสถานที่ใหม่ๆ เปิดโอกาสให้เราได้สำรวจโลกของ Zemuria มากยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าการปรากฏตัวของตัวละครจากภาคอื่นๆ ก็เป็นอะไรที่ทำให้แฟนๆ Trails Series อย่างผมรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ ระบบการเล่น: ปรับปรุงและต่อยอด สร้างประสบการณ์ที่ลื่นไหลและท้าทาย Ao no Kiseki ยังคงรักษาแก่นหลักของระบบการเล่นจากภาคก่อนเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นระบบ Orbment ที่เปิดโอกาสให้เราปรับแต่งความสามารถของตัวละครได้อย่างอิสระ ระบบ Turn-Based Combat ที่เน้นการวางแผนและใช้กลยุทธ์ แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาคือการปรับปรุงและต่อยอดระบบต่างๆ ให้มีความลื่นไหลและท้าทายมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ระบบ Burst ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ช่วยให้เราสามารถปลดปล่อยท่าไม้ตายสุดอลังการได้เมื่อสะสมเกจ Burst เต็ม หรือระบบ Team Rush ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกในทีมร่วมมือกันโจมตีศัตรูอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายมหาศาล นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงระบบ Master Quartz ให้มีความหลากหลายและน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทำให้การปรับแต่งตัวละครมีความลึกซึ้งและสนุกยิ่งกว่าเดิม กราฟิกและเพลงประกอบ: ความลงตัวของภาพและเสียงที่สร้างบรรยากาศอันน่าจดจำ แม้ว่ากราฟิกของ Ao no Kiseki อาจจะไม่ใช่จุดเด่นที่สุดเมื่อเทียบกับเกม JRPG ยุคใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าภาพสไตล์อนิเมะ 2.5D ของเกมนี้ก็ยังคงมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะการออกแบบตัวละครที่น่ารักและมีชีวิตชีวา แต่สิ่งที่ผมประทับใจที่สุดคือเพลงประกอบของเกม ที่ยังคงรักษามาตรฐานระดับสูงของ Falcom Sound Team J.D.K. เอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม เพลงแต่ละเพลงล้วนไพเราะและเข้ากับบรรยากาศของเกมได้อย่างลงตัว ช่วยเสริมสร้างอารมณ์ร่วมในการเล่นได้เป็นอย่างดี ประสบการณ์ส่วนตัว: ความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งสุข เศร้า ตื่นเต้น และประทับใจ ตลอดระยะเวลาที่ผมได้เล่น Ao no Kiseki ผมรู้สึกเหมือนได้ร่วมผจญภัยไปกับ Lloyd และเพื่อนๆ จริงๆ ผมได้หัวเราะไปกับมุกตลกของตัวละคร ได้เศร้าไปกับเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจ ได้ตื่นเต้นไปกับการต่อสู้ที่ดุเดือด และได้ประทับใจไปกับฉากจบที่ยิ่งใหญ่ มีหลายช่วงเวลาที่ผมรู้สึกอินกับเนื้อเรื่องมากๆ จนน้ำตาซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะฉากที่เกี่ยวข้องกับ KeA และความลับเบื้องหลังตัวตนของเธอ มันเป็นอะไรที่สะเทือนอารมณ์มากๆ และแน่นอนว่าการได้เห็นตัวละครจากภาคอื่นๆ กลับมามีบทบาทอีกครั้ง ก็เป็นอะไรที่ทำให้ผมรู้สึกดีใจมากๆ มันเหมือนกับการได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน ข้อสังเกต: ไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน และอาจมีช่วงที่น่าเบื่อบ้าง แม้ว่า Ao no Kiseki จะเป็นเกมที่ยอดเยี่ยม แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่เกมสำหรับทุกคน ด้วยความที่เป็นเกม JRPG ที่มีเนื้อเรื่องยาวและซับซ้อน อาจทำให้ผู้เล่นบางคนรู้สึกเบื่อหน่ายกับบทสนทนาที่ยาวเหยียด หรือระบบการเล่นที่ต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ นอกจากนี้ ยังมีบางช่วงของเกมที่ผมรู้สึกว่าเนื้อเรื่องดำเนินไปค่อนข้างช้า และอาจมีฉากต่อสู้บางฉากที่รู้สึกว่ามันง่ายเกินไปหน่อย สรุป: ตำนานบทใหม่ที่แฟนๆ Trails Series ไม่ควรพลาด โดยรวมแล้ว The Legend of Heroes: Ao no Kiseki เป็นเกม JRPG ที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าแก่การรอคอย มันเป็นเกมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวอันน่าติดตาม ตัวละครที่น่าจดจำ ระบบการเล่นที่ท้าทาย และเพลงประกอบที่ไพเราะ สำหรับแฟนๆ Trails Series ภาคนี้คือภาคที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะมันจะเติมเต็มเรื่องราวของครอสเบลให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และเปิดประตูไปสู่การผจญภัยครั้งใหม่ในอนาคต แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ที่สนใจอยากจะลองสัมผัสโลกของ Trails Series ผมขอแนะนำให้เริ่มจากภาค Zero no Kiseki ก่อน เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่องและความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างครบถ้วน เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !