รีเซต

คาด “แฮร์ริส-ทรัมป์” คงนโยบายกีดกันการค้า โบรกแนะหุ้น Defensive กลุ่มโรงไฟฟ้า-รพ.

คาด “แฮร์ริส-ทรัมป์” คงนโยบายกีดกันการค้า โบรกแนะหุ้น Defensive กลุ่มโรงไฟฟ้า-รพ.
ทันหุ้น
7 สิงหาคม 2567 ( 15:28 )
4
คาด “แฮร์ริส-ทรัมป์” คงนโยบายกีดกันการค้า โบรกแนะหุ้น Defensive กลุ่มโรงไฟฟ้า-รพ.

#หุ้นเด่น #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย

คะแนนเสียงผู้หญิงอาจเป็นตัวตัดสิน

ทรัมป์นำไบเดนในผลสำรวจ แต่ล่าสุดตามหลังแฮร์ริส เนื่องจากกลุ่มผู้หญิงทั้งคนผิวขาวและคนผิวสีดูเหมือนจะยืนหยัดร่วมกันสนับสนุนแฮร์ริส

คาดว่ารัฐสภาสหรัฐฯ จะยังคงแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย และมาตรการกีดกันทางการค้ามีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป ไม่ว่าทรัมป์หรือแฮร์ริสจะชนะการเลือกตั้ง

เราคงกลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นตั้งรับในกลุ่มโรงไฟฟ้าและโรงพยาบาล ท่ามกลางความผันผวนของตลาดที่สูงและความเสียงต่อภาวะเศรษฐก็จดดถอยของสหรัฐฯ

 

Key Highlights

ทรัมป์อาจไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้หญิงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2567 เท่าในปี 2559 บล.กสิกรไทยได้เชิญศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วม KS-expert series เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดย ศ.ดร.สิริพรรณ เผยว่าจากผลโพล โดนัลด์ ทรัมป์ นำโจ ไบเดน 3%แต่ตอนนี้ตามหลังกมลา แฮร์ริส แล้วอยู่ 1% อย่างไรก็ตาม ผู้ใดชนะการเลือกตั้งยังไม่แน่ชัด เนื่องจากแฮร์ริสอาจได้รับแรงสนับสนุนมากในช่วงแรกหรือที่เรียกว่าช่วงเวลาฮันนีมูนหลังไบเดนประกาศถอนตัว

 

อย่างไรก็ดี ศ.ดร.สิริพรรณ เชื่อว่าแฮร์ริสยังจำเป็นต้องทำงานอีกมากเพื่อเลียนแบบความสำเร็จของไบเดนในการรวบรวมคะแนนเสียงจากแรงงานชนชั้นกลาง คนผิวสี คนที่มีเชื้อสายลาตินอเมริกัน และคนรุ่นใหม่

 

นอกจากนี้ แฮร์ริสอาจต้องแก้ไขจุดอ่อนของเธอในเรื่องการสนับสนุนสิทธิ์การทำแท้งและนโยบายการต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการย้ายถิ่นฐาน บางคนกล่าวว่าเสรีนิยมเป็นสิ่งที่ดี แต่หลายคนมองว่าแฮร์ริสมีความเสรีนิยมมากเกินไปและอาจเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย นอกจากนี้ เธอยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าเธอล้มเหลวในบทบาทรองประธานาธิบดีของไบเดน

 

ด้านทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งได้ แต่เขาและคู่สมัครของเขา เจดี แวนซ์ จำเป็นต้องระมัดระวังบุคลิกโดยเฉพาะเรื่องการพูดอาจผลักคะแนนเสียงกลุ่มผู้หญิง กลุ่มคนผิวสี และกลุ่มชนกลุ่มน้อยไปฝั่งตรงข้าม ด้านทรัมป์ได้รับการสนับสนุนจากผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงผิวขาว จนสามารถชนะการเลือกตั้งเหนือฮิลลารี คลินตันในปี 2559 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในปี 2567 เปลี่ยนไป เมื่อผู้หญิงทั้งผิวขาวและผิวสีเหมือนจะร่วมกันสนับสนุนแฮร์ริส หลังจากที่เจดี แวนซ์เรียกแฮร์ริสและคนในพรรคเดโมแครตว่าเป็น "ผู้หญิงเลี้ยงแมวที่ไม่มีลูก"

 

ผู้สมัครคนที่สาม โรเบิร์ด เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เนื่องจากเขาเคยเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต แต่ขณะนี้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามอิสระ เขาถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อพรรคเดโมแครต เนื่องจากกลุ่มเสียงสนับสนุนอาจเป็นกลุ่มเดียวกันทำให้เกิดการดึงคะแนนเสียงกันเอง ดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นกับ จอร์จ เอช ดับเบิลยู บุชในปี 2535 เมื่อบุชแพ้การเลือกตั้งให้กับ บิล คลินตัน หลังจากรอสส์ เปโรต์ ผู้สมัครที่มาจากรัฐเท็กซัสเช่นเดียวกัน ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามอิสระ

 

Valuations and Recommendation

นโบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ มีแนวโน้มดำเนินต่อไม่ว่าใครชนะ คาดว่าสภาครองเกสสหรัฐฯ จะยังคงแบ่งออกเป็นสองฝ่าย และนโยบายกีดกันทางการค้าจะดำเนินต่อไปไม่ว่าทรัมป์หรือแฮร์ริสจะชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากสมัยไบเดนเองก็ยังคงเก็บภาษีนำเข้าที่เริ่มใช้มาตั้งแต่จากยุคทรัมป์ทั้งหมด

 

อย่างไรก็ดี อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ อาจเร่งตัวขึ้นอีกครั้งและกิจกรรมการผลิตอาจลดลง หากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าจะเพิ่มขึ้นมากในสภาวะที่ตลาดมีความผันผวนสูงและมีความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ เรายังคงกลยุทธ์การลงทุนอย่างระมัดระวัง โดยเน้นหุ้นกลุ่ม Defensive ในกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF และ BGRIM) และโรงพยาบาล (BDMS, BH)

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง