"นพ.ปิยะสกล" แจงไม่ได้ซื้อ "วัคซีนโควิด" ม.ออกซ์ฟอร์ด

วันนี้ (24 ก.ค.63) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวถึงกรณีข่าวไทยเตรียมเจรจาขอซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด 600 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ข้อเท็จจริง คือ วัคซีนโควิดที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดพัฒนา มีการทดลองในคนกว่า 1,000 คน ซึ่งการฉีดในคนเข็มแรกให้การตอบสนองที่ดีมาก 90% มีภูมิต้านทาน และมีวัตถุประสงค์ว่าหากพัฒนาสำเร็จจะให้คนทั้งโลกได้ใช้ด้วย ในราคาที่ไม่มีกำไร แต่ถ้าผลิตเองคงไม่เพียงพอ จึงมีการพิจารณาโรงงานผลิตวัคซีนในแต่ละทวีปว่ามีที่ไหนมีศักยภาพที่จะผลิตได้ ก็จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ ซึ่งในเอเชียก็ได้ที่อินเดีย

ประเทศไทยมีบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่สามารถรองรับการผลิตได้ จึงมีการหารือว่า ถ้าเราสามารถรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาได้ ก็จะเป็นการผลิตวัคซีนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ดังนั้น ตนจึงขอให้รัฐบาลเป็นตัวแทนไปเจรจามหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เพื่อขอถ่ายทอดเทคโนโลยีมาให้คนไทยผลิต

ส่วนงบ 600 ล้านบาท จะใช้เพื่อพัฒนาบริษัทของคนไทยให้มีประสิทธิภาพพอที่จะรองรับกับเทคโนโลยีที่เขาจะให้มา โดยอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ลงไปตรวจสอบโรงงานผลิตแล้ว คาดว่าจะสามารถให้การรับรองมาตรฐาน GMP ได้ประมาณ ก.ย.นี้

หลังการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมานั้น เราจะสามารถผลิตได้หลังจากนั้นประมาณ 6 เดือน ซึ่งกำลังการผลิตของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด จะผลิตได้คือ 200 ล้านโดส ถือว่าเป็นปริมาณมากจึงสามารถนำไปช่วยเหลือกลุ่มประเทศในอาเซียนได้อีกด้วย

Sinopharm (ชิโนฟาร์ม) ซึ่งเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ ด้านเภสัชกรรมของจีน ประกาศว่า วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด 19 ที่นักวิจัยของทาง Sinopharm กำลังพัฒนาอยู่นั้น จะสามารถใช้งานได้จริงในช่วงปลายปีนี้ จากนั้นก็จะผลิตในจำนวนมาก เพื่อกระจายให้กับประชาชนในช่วงต้นปีหน้า 

ขั้นตอนในขณะนี้ ก็คือ การทดสอบทางคลินิก กับมนุษย์ในเฟสที่ 3 ที่ห้องทดลอง Abu Dhabi ประมาณ 15,000 คน และจะใช้เวลาอีก 3 เดือน ในการติดตามผล  โดยนายหลิว จิงเฉิน ประธานของ Sinopharm มั่นใจกับวัคซีนที่พัฒนาขึ้นมาก เพราะได้ทดสอบวัคซีนด้วยตัวเอง

ขณะนี้ ประเทศจีนมี 3 บริษัทที่อยู่ระหว่างการทดสอบวัคซีน เฟสที่ 3 ได้แก่ Sinopharm, CanSino แคนซิโน และ Sinovac Biotech  (ซิโนแวกไบโอเทค)