SNNPชูอาหารท่านเล่น เจเล่-เบนโตะยอดขายดี

ทันหุ้น – SNNP รับอานิสงส์ลดเวลาเคอร์ฟิว-ปลดล็อกต่างชาติเข้าไทยไม่ต้องกักตัว พ่วงเปิดสถานบันเทิงและให้ขายสุราและสังสรรค์ได้ช่วงธันวาคมนี้ หนุนยอดขายไตรมาส 4/2564 พีค เตรียมจัดแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายเพิ่ม ด้านผู้บริหาร "วิโรจน์ วชิรเดชกุล" ปักหมุดปี 2565 ผลงานทะยานต่อเนื่อง รับพอร์ตลูกค้าขยายตัว

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ล่าสุดทางศบค. มีมติปรับลดเวลาการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในช่วงเวลากลางคืน หรือเคอร์ฟิว จากเดิม 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. รวมทั้งขยายเวลาการเปิดร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า เป็นถึง 22.00 น. จากเดิมที่ 21.00 บาท เริ่มวันที่ 16ตุลาคมนี้นั้นบริษัทมองเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ เพราะช่วยสนับสนุนให้ยอดขายสินค้าต่างๆ อาทิ เจเล่, เบนโตะ ฯลฯ ปรับตัวดีขึ้น

ขณะเดียวกันการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศให้สามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องกักตัวสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว และเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป รวมทั้งเตรียมจะมีการให้สถานบันเทิงต่างๆ กลับมาเปิดบริการและขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในวันที่ 1ธันวาคม 2564 นั้นเชื่อน่าจะกลายเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย

*ยอดขายไตรมาส 4 พุ่ง

"การลดเวลาเคอร์ฟิวนั้นทำให้ร้านค้าต่างๆ สามารถเปิดได้นานขึ้น ซึ่งถือเป็นแรงหนุนยอดขายให้ของธุรกิจเติบโต และไม่เพียงเท่านั้นนักท่องเที่ยวต่างประเทศเองในอดีตก็ถือเป็นอีกหนึ่งฐานลูกค้าที่สำคัญของบริษัท รวมทั้งสินค้าประเภทเบนโตะเองก็ถือเป็นอาหารทานเล่นที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ชอบสังสรรค์กินดื่ม ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นผลดีต่อยอดขายของ SNNP ทั้งสิ้น" นายวิโรจน์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลงานในไตรมาส 4/2564 บริษัทคาดน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนจากไตรมาส 3/2564 จากกำลังซื้อในประเทศจะฟื้นตัว หลังภาครัฐมีการผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ ประกอบกับมีแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเติม หลังภาครัฐมีการปลดล็อกการเดินทางเข้าประเทศ รวมทั้งการผ่อนคลายการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนบริษัทเตรียมจัดแคมเปญการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงที่เหลือปีนี้เพิ่มเติม ซึ่งเชื่อคงช่วยสนับสนุนยอดขายสินค้าต่างๆ ให้เติบโตยิ่งขึ้น

*ปี 65 ผลงานโตต่อ

อย่างไรก็ดี ในปี 2564 บริษัทประเมินว่ารายได้น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อนที่ 4.43 พันล้านบาท หลังช่วงแรกบริษัทมีรายได้แล้วราว 2.18พันล้านบาท ประกอบกับทิศทางยอดขายในช่วงที่เหลือปีนี้ยังดีขึ้นต่อเนื่อง หลังธุรกิจมีการทำตลาดและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งควบคู่ไปกับการขยายช่องทางขายและการทำแคมเปญการตลาดเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนยอดขายให้เป็นไปตามที่วางไว้ ส่วนปี 2565 คาดรายได้น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2564 ผลมาจากมองว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเสริม

ส่วนกลยุทธ์ทางการตลาดนั้นบริษัทยังจะมุ่งให้ความสำคัญกับการต่อยอดแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดและมีศักยภาพ อาทิ เจเล่ เบนโตะ เมจิกฟาร์ม โลตัสขาไก่ และเครื่องดื่มอควาวิตซ์ ฯลฯ และสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความหลากหลาย รวมทั้งพัฒนารสชาติ ขนาดและราคา ให้เหมาะกับเทรนด์การบริโภคและกำลังซื้อในแต่ละประเทศ (Localization) ซึ่งจะสามารถยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าสูงขึ้น

*กำไรเด่นอนาคต 15.5 บ.

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SNNP ว่า แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 15.50 บาท เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์กำไรในไตรมาส 3/2564 น่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง ผลมาจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังบริษัทได้นำเงินจาก IPO ไปชำระหนี้ไปแล้วบางส่วน ซึ่งคงจะช่วยลดผลกระทบจากการบริโภคในประเทศที่ปรับตัวลดลง เพราะ SNNP มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยการทำ Bubble and Seal ทำให้กำลังผลิตชะลอตัวลงในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2564 และเริ่มฟื้นตัวในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2564 และกลับเข้าสู่สภาวะปกติในเดือนสิงหาคม 2564 รวมทั้งมีความชัดเจนเกี่ยวแผนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชงเข้ามาช่วยเสริม