รีเซต

บลจ.ทิสโก้AUMโตเฉลี่ย7%ต่อปี จังหวะผันผวน-ทริกเกอร์ฟอร์มดี

บลจ.ทิสโก้AUMโตเฉลี่ย7%ต่อปี จังหวะผันผวน-ทริกเกอร์ฟอร์มดี
ทันหุ้น
4 กุมภาพันธ์ 2568 ( 11:46 )
3

#บลจ.ทิสโก้#ทันหุ้น บลจ.ทิสโก้ ผลงานบริหารAUM 5 ปี เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 7 % ต่อปี พร้อมเดินหน้าผุดกองทริกเกอร์ จับจังหวะสร้างโอกาสทำผลตอบแทนให้นักลงทุนยามตลาดผันผวน เปิดกลยุทธ์ลงทุนปี 2568 ด้วย 2ธีมลงทุนเด่น คือ ธีมที่ได้ประโยชน์จากนโยบายทรัมป์ 2.0และธีมหุ้นแลคการ์ด ส่วนหุ้นไทย ฟังธงปีนี้แตะ 1,530 จุด


นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเข้าใจของนักลงทุนที่มีมากขึ้น ส่งผลให้ ส่งผลให้มูลค่าสินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) ของ บลจ.ทิสโก้ เติบโต 40% จาก 290,239ล้านบาท ในปี 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 406,802ล้านบาท ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเติบโต 7%ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา


สำหรับในปีนี้ บลจ.ทิสโก้ยังคงมุ่งเน้นการเติบโต การขยายฐานลูกค้า และ AUM ในทั้ง 3 ธุรกิจ ทั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนส่วนบุคคล และโดยเฉพาะธุรกิจกองทุนรวม บลจ.ทิสโก้มุ่งมั่นที่จะขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางตัวแทนผู้สนับสนุนการขาย และ ช่องทางออนไลน์ โดยมุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการออกผลิตภัณฑ์กองทุนใหม่ๆ รวมถึงการนำเสนอกองทุน ที่ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง


*หุ้นผันผวนจังหวะทำทริกเกอร์

นายสาห์รัช กล่าวว่า บลจ.ทิสโก้เชื่อมั่นว่าจะเป็นกลุ่มกองทุนที่ช่วยจับจังหวะ หรือกองทุนทริกเกอร์ สามารถสร้างผลตอบแทนระยะสั้นให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดหุ้นทั้งในและต่างประเทศมีความผันผวน หรือปรับตัวลดลง บลจ.ทิสโก้ อาศัยโอกาสดังกล่าวในการจับจังหวะที่หุ้นมีอิกาสปรับตัวขึ้นเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ ดังจะเห็นได้จากในปี 2567 ที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้เปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์ทั้งหมด 6กองทุน สามารถบริหารและถึงเป้าหมายในระยะเวลาได้ทั้งหมด 5กองทุน ถึงเป้าหมายเร็วที่สุดคือภายใน 8วัน

ทั้งนี้ ณ วันที่ 27มกราคม 2568บลจ.ทิสโก้ออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์มาแล้วทั้งหมด 152กองทุน (ถึงเป้าหมายในระยะเวลา 88 กองทุน และถึงเป้าหมายนอกระยะเวลาลงทุน 32 กองทุน) มีกองทุนที่อยู่ระหว่างลงทุน 1กองทุน (ยังไม่ถึงเป้าหมายและเกินกว่ากำหนดเวลาลงทุน 11กองทุน) และกองทุนไม่ถึงเป้าหมายและเลิกกองทุนแล้ว 20กองทุน


*แนะ 2 ธีมสำหรับปี68

ขณะเดียวกันบลจ.ทิสโก้ จะเดินหน้าแนะนำ 2 ธีมกองทุนรวมที่โดดเด่นของปี 2568ได้แก่ ธีมที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย 2.0ของนายโดนัลด์  ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกอบด้วย กองทุนที่มีนโยบายลงทุนในธุรกิจ AI ของสหรัฐ กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ และกองทุนหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐ รวมถึงธีมกองทุนที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาด (Laggard Play) ในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย กองทุนหุ้นขนาดกลาง - เล็กของสหรัฐ กองทุนหุ้นเอเชีย และกองทุนหุ้นเวียดนาม


“จากความสำเร็จในการบริหารจัดการกองทุนทริกเกอร์ในปีที่ผ่านมาสะท้อนว่า บลจ.ทิสโก้เป็นตัวจริงเรื่องกองทุนทริกเกอร์ ซึ่งในปี 2568เรายังคงเดินหน้าจับจังหวะการลงทุนและนำเสนอกองทุนทริกเกอร์ฟันด์อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมุ่งบริหารทุกกองทุนให้มีผลตอบแทนเหนือดัชนีชี้วัด โดยเฉพาะกองทุนหุ้นไทยที่หลายกองมี Performance อยู่ในระดับต้นๆ ของประเภทกองทุนหุ้นไทย ทั้งในช่วงระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว (ข้อมูลจาก Morningstar Thailand ณ 25 ม.ค. 68) และมั่นใจว่าผู้จัดการกองทุนจะยังคงบริหารกองทุนให้มีผลตอบแทนที่ดีเช่นนี้อย่างสม่ำเสมอ” นายสาห์รัชกล่าว


นายสุพงศ์วร เมี้ยนโภคา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้มองว่าภาพรวมการลงทุนในปี 2568ยังคงมีความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันราคาหุ้นทั่วโลกมีมูลค่า (Valuation) ค่อนข้างแพง โดยเฉพาะฝั่งตลาดประเทศพัฒนาแล้วประกอบกับความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ที่เดินหน้ามาตรการสงครามการค้าส่งผลกระทบต่อการเติบโตเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งบลจ.ทิสโก้คาดว่าทรัมป์จะดำเนินนโยบายทรัมป์ 2.0ที่หาเสียงไว้ในครั้งนี้อย่างจริงจังมากกว่าการดำรงตำแหน่งครั้งก่อนอย่างแน่นอน


ดังนั้น ในมุมมองของ บลจ.ทิสโก้ยังคงคาดว่าหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินของสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มการบริโภคที่เกี่ยวข้องกับประเทศสหรัฐ หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ (Healthcare) จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นในปีนี้ โดยหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินจะได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของทรัมป์ ขณะที่หุ้นกลุ่มการบริโภคของสหรัฐฯ จะได้รับประโยชน์จากการบริโภคในประเทศที่แข็งแกร่ง และหุ้นกลุ่มHealthcare ที่ราคาหุ้นไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นมากนักในช่วงปีที่ผ่านมา


นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนเป็นอีกตลาดหุ้นหนึ่งที่น่าจับตาเพราะราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เริ่มเห็นผล แต่ยอมรับว่าความเสี่ยงต่างๆ ที่จีนได้เผชิญในปีที่ผ่านมาก็ยังคงอยู่ และยังมีความเสี่ยงจากนโยบายของทรัมป์เข้ามาเพิ่มในปีนี้


หุ้นไทย1,530 จุด

สำหรับตลาดหุ้นไทยในปี 2568 บลจ.ทิสโก้คาดว่าดัชนีจะปิดปีที่ 1,530 จุด หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปี 2567 แม้ในปีนี้เศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน  แต่เป็นการเติบโตในกลุ่มอุตสาหกรรมที่กระจุกตัวอยู่เฉพาะบางอุตสาหกรรมเท่านั้น เช่น อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก พลังงาน อาหาร และซอฟต์แวร์ ซึ่งไม่ได้เป็นการเติบโตในวงกว้างจึงยังไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม ขณะที่อุตสาหกรรมที่มีแรงงานจำนวนมากนั้นยังไม่เติบโตดีเท่าที่ควร

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง