ตะวันตกลงดาบเพิ่ม ตัดธนาคารรัสเซีย พ้นระบบชำระเงินสวิฟต์ อายัดทรัพย์ธ.กลาง
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ระบุว่า สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรตะวันตก ประกาศที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วยการตัดบรรดาธนาคารรัสเซียหลายแห่ง ออกจากระบบสมาคมธุรกิจโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก หรือ “สวิฟต์” (SWIFT) ระบบสื่อสารด้านการเงินระหว่างธนาคารผ่านระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงทั่วโลก มีหน้าที่เชื่อมโยงสถาบันการเงินทั่วโลกโอนเงินกว่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในแต่ละวัน
โดยการประกาศมาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังหลังจากก่อนหน้านี้ชาตตะวันตกมีการชะลอเรื่องนี้ไปเนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจเกิดผลกระทบกับเศรษฐกิจของชาติตะวันตกเองด้วย
อย่างไรก็ตามล่าสุดผู้นำคณะกรรมาธิการยุโรป, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, อังกฤษ, แคนาดา และสหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์ร่วมประกาศมาตรการดังกล่าวซึ่งนอกจากการตัดรัสเซียจากระบบ “สวิฟต์” แล้วยัง รวมไปถึงมาตรการจำกัดการเข้าถึงกองทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางรัสเซียด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ใช้เงินสำรองที่เป็นสกุลเงินต่างชาติมูลค่า 630,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยจะมีการบังคับใช้มาตรการล่าสุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นอกจากนี้แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่าจะมีมาตรการอื่นๆตามมาด้วย
ทั้งนี้รัสเซียพึ่งพาระบบชำระเงิน “สวิฟต์” อย่างมากในการส่งออกน้ำมันและก๊าซอันสำคัญของรัสเซีย โดยระบบนี้เป็นระบบส่งข้อความที่ปลอดภัยที่ทำให้สามารถชำระเงินข้ามพรมแดนได้อย่างรวดเร็วในการทำการค้าระหว่างประเทศ โดยสวิฟต์ มีฐานดำเนินงานอยู่ในเบลเยี่ยม เป็นช่องทางในการทำธุรกรรมของธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆทั่วโลกมากกว่า 11,000 แห่ง และมีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจโลก แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจคว่ำบาตรด้วยตัวเอง
ซึ่งการตัดธนาคารหรือสถาบันการเงินใดๆ ออกจากสวิฟต์ ถือเป็นมาตรการควบคุมอย่างรุนแรง เพราะธนาคารส่วนใหญ่พึ่งพาระบบนี้
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับบรรดานักลงทุนที่มองว่าการตัดรัสเซียออกจากระบบนั้นจะไม่ได้ส่งผลต่อหายนะทางการเงินของรัสเซียเท่านั้น แต่จะส่งผลกระทบกับการค้าโลกที่จะชะลอตัวลง ซึ่งหมายถึงกระทบกับผลประโยชน์ของชาติตะวันตกเองด้วย