Final Fantasy IV นับเป็นหนึ่งในเกม RPG ระดับตำนานที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้เล่นทั่วโลกมาอย่างยาวนาน การมาถึงของ Final Fantasy IV Complete Collection บนเครื่อง PSP ในปี 2011 จึงเปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่การผจญภัยครั้งใหม่ ให้ผู้เล่นได้หวนคืนสู่ดินแดนแห่งมนตรา สัมผัสเรื่องราวอันลึกซึ้ง และร่วมต่อสู้ไปกับเหล่าตัวละครที่น่าจดจำอีกครั้ง ในฐานะที่ผมเป็นผู้เล่นที่ชื่นชอบในซีรีส์ Final Fantasy การได้กลับมาสัมผัสเรื่องราวของ Cecil และผองเพื่อนในรูปแบบ Complete Collection นี้ จึงเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก บทความนี้จะพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของ Final Fantasy IV Complete Collection พร้อมทั้งแบ่งปันความประทับใจและความคิดเห็นส่วนตัวที่ผมมีต่อเกมนี้ครับ การกลับมาของตำนานในรูปแบบที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น: Final Fantasy IV Complete Collection มิใช่เพียงการนำเกม Final Fantasy IV มาลงบนเครื่อง PSP เท่านั้น แต่เป็นการรวบรวมทุกองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ FFIV มาไว้ในที่เดียวอย่างครบครัน ทั้งภาคหลักอย่าง Final Fantasy IV ภาคต่อขยายเนื้อหาอย่าง Final Fantasy IV: The After Years และภาคเชื่อมโยงเนื้อเรื่องระหว่างสองภาคอย่าง Interlude นับเป็นการเติมเต็มช่องว่างของเรื่องราว ขยายจักรวาลของ FFIV ให้กว้างใหญ่ยิ่งขึ้น และมอบประสบการณ์การเล่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อผมเริ่มต้นเกม เสียงเพลง Prelude อันเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้นพร้อมกับหน้าจอไตเติ้ลที่งดงาม ความรู้สึกโหยหาอดีตก็ท่วมท้นเข้ามาในห้วงคำนึง เสมือนการได้กลับคืนสู่ถิ่นที่คุ้นเคย กลับสู่โลกที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์และความทรงจำอันล้ำค่า เพียงเริ่มต้นก็สัมผัสได้ถึงความพิเศษของการเดินทางครั้งนี้ เรื่องราวอันลึกซึ้ง ตัวละครที่น่าจดจำ: Final Fantasy IV โดดเด่นด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เต็มไปด้วยปมปริศนา การหักมุม การเสียสละ และเรื่องราวของความรัก การเดินทางของ Cecil อัศวินแห่งความมืดผู้หันหลังให้แก่ความชั่วร้าย มุ่งหน้าสู่หนทางการไถ่บาปและปกป้องโลกจากภัยคุกคาม ยังคงตราตรึงในความทรงจำของผม การได้ติดตามพัฒนาการของตัวละคร ความสัมพันธ์อันซับซ้อน และการเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทั้งน่าเกรงขามและน่าเห็นใจ ล้วนดึงดูดให้ผมดื่มด่ำไปกับเรื่องราวอย่างลึกซึ้ง ประทับใจในฉากการจากลาของ Tellah ตื่นเต้นกับฉากการต่อสู้กับ Golbez และซาบซึ้งไปกับมิตรภาพระหว่าง Cecil, Kain และ Rosa ตัวละครแต่ละตัวต่างมีมิติ มีปูมหลังที่น่าสนใจ ก่อเกิดเป็นความผูกพันและแรงสนับสนุนให้เราคอยเอาใจช่วยพวกเขาตลอดการเดินทาง ยิ่งไปกว่านั้น The After Years ยังสานต่อเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม เผยให้เห็นถึงการเติบโตของตัวละครรุ่นใหม่ ผู้สืบทอดเจตนารมณ์จากรุ่นสู่รุ่น เผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ และสะท้อนให้เห็นว่าการกระทำในอดีตส่งผลต่ออนาคตอย่างไร นับเป็นการขยายขอบเขตของจักรวาล FFIV ให้กว้างไกลยิ่งขึ้น และเติมเต็มอรรถรสของเนื้อเรื่องได้อย่างสมบูรณ์ ผมรู้สึกชื่นชมที่ทีมพัฒนากล้าที่จะนำเสนอเนื้อเรื่องบทใหม่ แทนที่จะยึดติดอยู่กับความสำเร็จเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเคารพต่อผู้เล่น และความมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ระบบการต่อสู้ที่คลาสสิก แต่ยังคงไว้ซึ่งความท้าทาย: ระบบการต่อสู้แบบ Active Time Battle (ATB) อันเป็นเอกลักษณ์ของ Final Fantasy ยังคงเป็นหัวใจหลักของเกมนี้ แม้จะเป็นระบบที่ผู้เล่นหลายท่านคุ้นเคย แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความท้าทายและต้องอาศัยกลยุทธ์ในการเอาชนะศัตรู การเลือกใช้คำสั่ง การวางตำแหน่งตัวละคร การใช้ไอเทมและเวทมนตร์อย่างเหมาะสม ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อชัยชนะ ผมจดจำได้ว่าในการเล่นครั้งแรก ยังขาดความเข้าใจในระบบการต่อสู้อย่างถ่องแท้ ส่งผลให้พ่ายแพ้ต่อศัตรูอยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่อได้กลับมาสัมผัสใน Complete Collection ด้วยความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมา ทำให้สามารถเอาชนะศัตรูได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในบางช่วงของเกมยังคงมีความยากและท้าทาย กระตุ้นให้ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ Final Fantasy IV การได้หวนกลับมาเผชิญหน้ากับเหล่าบอสที่น่าเกรงขาม อาทิ Demon Wall หรือ Four Fiends ในกราฟิกที่สวยงามยิ่งขึ้น นับเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุกสนานและน่าตื่นเต้น เสมือนการได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสความรู้สึกในวัยเยาว์ นั่งลุ้นระทึกอยู่หน้าจอ พยายามคิดหาวิธีเอาชนะเหล่าบอสให้จงได้ ความรู้สึกเช่นนี้เองที่ทำให้ Final Fantasy IV ยังคงเป็นเกมที่พิเศษและอยู่ในความทรงจำของผมเสมอมา กราฟิกที่งดงาม ดนตรีประกอบที่ไพเราะ: แม้จะเป็นเกมที่ได้รับการปรับปรุงมาจากเวอร์ชั่นก่อน แต่ Final Fantasy IV Complete Collection ก็ได้รับการพัฒนาในด้านกราฟิกให้สวยงามยิ่งขึ้น ตัวละครและฉากต่างๆ มีความคมชัด รายละเอียดที่ประณีต และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น โดยเฉพาะภาพตัวละครที่ออกแบบใหม่ ดูงดงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้จะยังคงไว้ซึ่งรูปแบบพิกเซลอาร์ต แต่ก็ผสานเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว สำหรับดนตรีประกอบนั้น คงไม่ต้องบรรยายอะไรมาก เพราะเป็นผลงานระดับ masterpiece ของ Nobuo Uematsu ตั้งแต่เพลง Prelude ที่แสนไพเราะ เพลงธีมของตัวละครต่างๆ ที่ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง ไปจนถึงเพลงประกอบฉากต่อสู้ที่เร้าใจ ทุกบทเพลงล้วนไพเราะและน่าจดจำ ผมมักจะเปิดเพลงประกอบเกมนี้ฟังเพื่อสร้างบรรยากาศและหวนรำลึกถึงความทรงจำอันแสนพิเศษเกี่ยวกับเกมนี้อยู่เสมอ ประสบการณ์ที่เติมเต็มความสมบูรณ์แบบ: ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น Final Fantasy IV Complete Collection มิใช่เป็นเพียงเกม แต่เป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับผู้เล่น การได้รับรู้เรื่องราวบทต่อจากภาคหลัก ได้เห็นพัฒนาการของตัวละคร และได้สัมผัสกับโลกของ FFIV ในรูปแบบที่ครบถ้วนที่สุด นับเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าและน่าประทับใจ ผมรู้สึกขอบคุณทีมพัฒนาที่ได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมา ซึ่งถือเป็นของขวัญอันล้ำค่าสำหรับแฟนเกม FFIV อย่างแท้จริง สรุป: Final Fantasy IV Complete Collection คือการหวนคืนสู่ตำนานอันยิ่งใหญ่ เพียบพร้อมไปด้วยเรื่องราวอันลึกซึ้ง ตัวละครที่น่าจดจำ ระบบการต่อสู้ที่ท้าทาย กราฟิกที่งดงาม และดนตรีประกอบที่ไพเราะ เป็นเกมที่ผู้ชื่นชอบ FFIV ควรได้สัมผัส และสำหรับผู้ที่ไม่เคยเล่น นี่คือโอกาสอันดีที่จะได้รู้จักกับหนึ่งในเกม RPG ที่ดีที่สุดตลอดกาล สำหรับผมแล้ว Final Fantasy IV Complete Collection มิใช่เพียงเกม แต่คือความทรงจำอันล้ำค่า คือการเดินทางที่ผมจะไม่มีวันลืมเลือน และผมเชื่อมั่นว่าเกมนี้จะยังคงอยู่ในใจของผู้เล่นอีกหลายท่าน เช่นเดียวกับผม ตราบนานเท่านาน เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !