COM7จับตาQ1โตต่อ บุ๊กไอโฟน-สินค้าใหม่
#COM7 #ทันหุ้น - COM7 ส่งซิกไตรมาส 1/2566 แรงรับรู้สต๊อกไอโฟน บวกอุตสาหกรรมไอทีฟื้นตัว และการเปิดตัวสินค้าใหม่หนุน ขณะที่ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 15% วางเป้ามาร์เก็ตแชร์แตะ 35% ของมูลค่าตลาดไอทีและสมาร์ทโฟนในประเทศ เร่งขยายฐานตรียมเปิดสาขาเพิ่ม 134 สาขา คาดสิ้นปีแตะ 1,400 สาขา พร้อมรุกธุรกิจร้านขายยา-เพ็ท ช็อป-ประกัน
นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า ภาพรวมผลงานในช่วงไตรมาส 1/2566 คาดว่าจะออกมาดีมากเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/2565 เนื่องจากสต๊อกสินค้า iPhone มีเข้ามาช่วงปลายปี 2565 ซึ่งยังคงสร้างรายได้ต่อเนื่องมาถึงต้นปี 2566 ประกอบกับ ภาพรวมอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ไอที และเทคโนโลยี เติบโตขึ้น มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ และแบรนด์น้องใหม่เข้ามา โดยเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนซึ่งมีสินค้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัว ได้แก่ Samsung Oppo Vivo รวมถึงแบรนด์ Honor เข้ามาเสริมพอร์ต
สำหรับในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 2566 เติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปีก่อน พร้อมตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขยายมาร์เก็ตแชร์ให้อยู่ในระดับ 35% ของมูลค่าตลาดไอทีและสมาร์ทโฟนในประเทศไทย ภายใน 3 ปี โดยส่วนที่จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ คือ กลุ่มโทรศัพท์มือถือ และการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจยุคหลังโควิด มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ และแบรนด์น้องใหม่เข้ามาสร้างสีสันมากขึ้น
ขณะเดียวกันในปี 2566 บริษัทมีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 240 สาขา จาก ณ สิ้นปี 2565 ได้มีการขยายสาขา 116 สาขา เพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวทำให้มีสาขาทั้งหมด 1,160 สาขา โดยล่าสุดบริษัทได้รับสาขาจาก “BeBePhone” (เบเบ โฟน) ซึ่งเป็นศูนย์รวมอุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์ทุกชนิด จำหน่ายอุปกรณ์เสริมสำหรับโทรศัพท์หลากหลายรายการจากแบรนดังราว 106 สาขา ทำให้เหลือสาขาที่จะเปิดในปีนี้อีกราว 134 สาขา ซึ่งจะทำให้ ณ สิ้นปี 2566 บริษัทจะมีสาขารวมทั้งหมด 1,400 สาขา
“บริษัทมีแผนจะนำสินค้าอุปกรณ์เสริม House Brand ของบริษัทCOM7 ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนราว 5% เข้าไปขายใน BeBePhone (เบเบ โฟน) ซึ่งจะช่วยผลักดันการเติบโตมากขึ้น” นายณรงค์ กล่าว
*รุกร้านขายยา-เพ็ท ช็อป
โดยบริษัทได้วางกลยุทธ์การขยายสาขาในปี 2566 เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น และการโฟกัสรูปแบบสาขา Stand Alone เพิ่มเติม ควบคู่การขยายช่องทางออนไลน์ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ตามกลยุทธ์ Omni Channel หลังมีแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม และความสำเร็จของช่องทางออนไลน์ในปี 2565 มียอดขาย 3,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้ากว่า 30%
ซึ่งร่วมทุนกับบริษัท รอยัลบางกอก เฮ็ลธ์แคร์ จํากัด บริษัทย่อยของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาชื่อ บริษัท ดอกเตอร์ฟาร์มา เฮลธ์เทคโนโลยี จํากัด โดยจะเปิดร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma ปัจจุบัน 4 สาขา เเละคาดว่าในสิ้นปี 2566 มีมากกว่า 20 สาขา
นอกจากนี้ จากภาพรวมในประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการดูแลสัตว์เลี้ยงมากขึ้น จึงแตกไลน์ธุรกิจ เตรียมเปิดร้านอาหารสัตว์เลี้ยงในชื่อแบรนด์ “Pet Paw” เป็นการแตกไลน์สู่อุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต คาดเห็นสาขาแรกช่วง เมษายน 2566 คาดสิ้นปี 2566 จะมีร้านอาหารสัตว์เลี้ยง 25 สาขา และมีพื้นที่เปิดสาขาแล้วในปัจจุบันราว 10 สาขา และในอนาคตอาจจะจับมือร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อรุกธุรกิจร้านอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
*ลงสนามธุรกิจประกันภัย
และทางบริษัทได้ เข้าซื้อหุ้นของบริษัท พุทธธรรม ประกันภัย จํากัด (มหาชน) ในเดือนกันยายน ในอัตรา 96.75% ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไอแคร์ ประกันภัย จํากัด (มหาชน) สนับสนุนให้ COM7 สามารถขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจการประกันวินาศภัย และสามารถเพิ่มศักยภาพ ต่อยอดธุรกิจ และเพื่อรองรับธุรกิจหลักของบริษัทและบริษัทในเครือ อีกทั้งเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดีให้แก่บริษัทในอนาคต
ทั้งนี้บริษัทวางงบลงทุนปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เพื่อเข้าไปลงทุนเพิ่มเติม เพื่อต่อยอดระบบนิเวศทางธุรกิจได้อย่างครบวงจร และขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ ทำให้มองว่า COM7จะไม่ได้โตจากสินค้าไอทีและเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังสามารถต่อยอดไปยังธุรกิจที่มีอัตรากำไรที่ดีขึ้นได้ในอนาคต
ยอดนิยมในตอนนี้