อาร์เอส เล็งก้าวสู่องค์กรต้นแบบ ทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัลสำเร็จ
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทถือเป็นองค์กรในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง ที่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับดิจิทัล ดิสรัปชั่น และก้าวข้ามสู่ธุรกิจคอมเมิร์ซอย่างเต็มตัว จนได้รับการยกย่องจากทุกวงการทั้งในและต่างประเทศว่าเป็นต้นแบบในการปรับเปลี่ยนธุรกิจ ทั้งยังได้กลายเป็นองค์กรผู้กำหนดทิศทางการตลาด โดยใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนทุกธุรกิจ ตั้งแต่ธุรกิจคอมเมิร์ซหรือธุรกิจมีเดีย ด้วยการเปลี่ยนผู้ชมหรือผู้ฟังเป็นผู้ซื้อ จากการขายสินค้าภายใต้แพลตฟอร์ม RS Mall และ COOLanything
และช่องทางทั้งของอาร์เอส และพันธมิตร ทั้งช่องทางออนแอร์และออน์ไลน์ ทำให้เรามีความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง สามารถเข้าใจลูกค้าเรามากขึ้น ไม่ได้เป็นองค์กรที่ซื้อฐานข้อมูลลูกค้ามาจากที่อื่น แต่เป็นการสะสมฐานข้อมูลลูกค้าจริงที่เคยซื้อสินค้าและใช้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีฐานข้อมูลลูกค้าแล้วกว่า 1.5 ล้านราย และยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีทำให้ อาร์เอส กรุ๊ป สามารถคิดผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้รวดเร็วและตรงกับความต้องการ จนส่งผลให้รายได้ของธุรกิจคอมเมิร์ซ ในไตรมาส 3 ของปีนี้อยู่ที่ 644 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาส 2 ถึง 10%
“ปัจจุบันบริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริหารข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการรีแบรนด์องค์กร ทั้งสร้างทีมเทคโนโลยีของตนเองสำหรับการพัฒนาระบบแบบ In-House เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะธุรกิจและกลยุทธ์ของบริษัทฯ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวสูงที่สุด ร่วมถึงพัฒนาทีม Data Analytics เพื่อดูแลและบริหารระบบข้อมูลรอบด้านของ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งเทคโนโลยีที่บริษัทฯ ได้นำมาใช้ อาทิ ระบบ Salesforce เพื่อดูแลงานขายและบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ระบบ Avaya Contact Center System เพื่อดูแลเทเลเซลล์ ระบบPredictive Dialer System เพื่อใช้ AI ในการบริหารและจัดการการโทรออกหาลูกค้า และ Infor Warehouse Management System เพื่อดูแลและจัดการคลังสินค้า” นายสุรชัย กล่าว
นายสุรชัย กล่าวว่า ในอนาคต บริษัทจะนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการข้อมูลให้ดีและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าพร้อมกับการลงทุนและเตรียมการเพื่อปฏิบัติตามข้อกฎหมาย PDPA อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังมีทีมงานด้าน IT Governance และ Risk and Compliance เข้ามาดูแลในเรื่องของความปลอดภัยของข้อมูลโดยเฉพาะ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ทุกฝ่ายว่า บริษัทฯ จะสามารถดูแลและบริหารข้อมูลของลูกค้าและส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการยกเครื่อง Enterprise Business Intelligence Dashboard ที่จะทำให้ผู้บริหารทุกระดับ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของตนเอง เพื่อนำมาวิเคราะห์การทำงานของทีมได้อีกด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนงานเพื่อให้เข้าใจลูกค้าให้มากและละเอียดขึ้น เช่น นำระบบ Voice Analytics มาใช้วิเคราะห์เสียงสนทนาทางโทรศัพท์ การใช้ Artificial Intelligence (AI) เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนและแม่นยำขึ้น รวมถึงการเรียนรู้ลูกค้าในเชิงลึกเพื่อให้ได้รับข้อมูลในมิติต่างๆ ได้มากขึ้น การทำ Digitalization แปลงข้อมูลและกระบวนการที่ยังเป็น Paper-based ทั้งหมดให้เข้าสู่ระบบ Enterprise Portal เพื่อประสานงานข้อมูลและขั้นตอนการทำงานทั้งหมดขององค์กรเข้าด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความความมั่นคงและต่อเนื่องของธุรกิจ
โดยข้อมูลของลูกค้าและพันธมิตรทางธูรกิจยังคงปลอดภัยสูงสุด ดังนั้น IDC DX Gamechanger ประจำประเทศไทย ปี 2020 จาก IDC Thailand จึงเป็นอีกหนึ่งรางวัลที่การันตีว่าการลงทุนเพื่อพัฒนาองค์กรในส่วนงานทั้งหมด และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีของ อาร์เอส กรุ๊ป นั้นดำเนินมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ อาร์เอส กรุ๊ป เข้าสู่องค์กรแห่งความยั่งยืนได้อย่างแท้จริง ทั้งในแง่เป็นองค์กรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการใช้กระดาษ ในแง่การบริหารความเสี่ยง ในแง่การแข่งขันทางธุรกิจ และยังช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริหารและพนักงานในการทำงานเพื่อเข้าสู่ระบบ Self Service เต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้