รีเซต

Mร้านแน่นสู่ปกติ90% ปรับเมนู-อัดโปรแหลก

Mร้านแน่นสู่ปกติ90% ปรับเมนู-อัดโปรแหลก
ทันหุ้น
5 สิงหาคม 2565 ( 06:22 )
149
Mร้านแน่นสู่ปกติ90% ปรับเมนู-อัดโปรแหลก

#M #ทันหุ้น – M ลูกค้าแห่เข้าร้านใกล้เคียงปกติ 90% แม้โลว์ซีซัน มั่นใจครึ่งปีหลังฟื้นตัวต่อเนื่อง ไตรมาส 4 ยอดขายพุ่งสูงสุดของปี ย้ำเป้ายอดขายปีนี้โต 35-40% กลยุทธ์ปรับเมนูใหม่ - จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง จัดการต้นทุนอยู่หมัด ขึ้นราคารักษามาร์จิ้น โบรกคาดกำไรไตรมาส 2 โต 59% มีอัพไซด์จากประมาณการทั้งปี 1.7 พันล้านบาท เป้า 58 บาท

 

นางสุดารัตน์  พัทธ์วิวัฒน์ศิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M กล่าวว่า บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังของปี 2565   มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี หนุนจากช่วงเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม 2565 ซึ่งเป็นช่วงต้นไตรมาส 3/2565 ซึ่งตามปกติจะเป็นช่วง “โลว์ซีซัน” ทางธุรกิจ แต่ปีนี้มีวันหยุดยาวหลายช่วง ประกอบกับประชาชนสามารถปรับตัวดำเนินชีวิตควบคู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ดีขึ้น ส่งผลให้ปริมาณลูกค้าที่กลับเข้ามานั่งทานอาหารภายในสาขา (Traffic) เฉลี่ยเร่งตัวขึ้นแตะระดับ 90% เมื่อเทียบกับปี 2562

 

“ปกติไตรมาส 3/2565 จะเป็นโลว์ซีซัน แต่ปีนี้มีแนวโน้มว่า “ยอดขาย” จะทรงตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2565 ได้เพราะเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีวันหยุดยาว 2 ช่วง ประกอบกับลักษณะอาการของโรคติดเชื้อโควิด-19 ก็ลดความรุนแรงลง ประชาชนเองก็คุ้นเคยกับการป้องกันตนเอง จึงออกมาใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติมากขึ้น ซึ่งหากยังคงสถานการณ์เช่นนี้ได้ต่อเนื่อง ช่วงไตรมาส 4/2565 ก็จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 ได้ และผลประกอบการก็น่าจะกลับสู่สภาวะปกติ (ปี 2562) ได้ในปี 2566 ตามที่คาดหวัง”

 

ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทยังคงดำเนินกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย และการเข้ามาใช้บริการซ้ำต่อสาขา (SSSG) ด้วยการปรับเปลี่ยนโปรโมชั่นเฉลี่ยทุก 2 เดือน และคิดค้นเมนูใหม่ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกช่วงวัย พร้อมกันนี้ยังร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการระบบเดลิเวอรีทุกราย จัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นการสั่งซ้ำอย่างต่อเนื่อง

 

เบื้องต้นจึงยังคงเป้ายอดขายทั้งปี 2565 จะเติบโตได้ระหว่าง 35-40% YoY โดยมี SSSG สำหรับ MK Restaurant ที่ 30% และ Yayoi ที่ 50% ควบคู่กับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาระดับกำไรขั้นต้น (Margin) ให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

 

“ต้นทุนหลัก คือวัตถุดิบประกอบอาหารโดยเฉพาะเนื้อสัตว์เร่งตัวขึ้นเฉลี่ย 10% YoYจากปกติที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 2-3%เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่ “ผิดปกติ” ช่วงที่ผ่านมาบริษัทจึงทยอยปรับขึ้นราคา “บางเมนู” เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เร่งตัวขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนคงที่ อาทิ ค่าเช่า, เงินเดือนพนักงาน, ไลน์การขนส่งวัตถุดิบ ฯลฯ อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะกลุ่มบริษัทมีร้านอาหารหลากหลายทั้ง MK Restaurant, Yayoi, ณ สยาม, แหลมเจริญซีฟู้ด ก็จะจัดไลน์ขนส่งให้อยู่ในเส้นทางเดียวกัน เป็นต้น”

 

@โค้งสองกำไร 430 ล้านบาท

 

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดการณ์กำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/2565 ของ M ที่ 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2565 (QoQ) และพลิกจากขาดทุยสุทธิ 99 ล้านบาท เมื่อไตรมาส 2/2564 (YoY) และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GPM) จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หนุนจาก 1.ยอดขายที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% YoY  และ 14% QoQ2.ปริมาณลูกค้าที่รับประทานอาหารภายในร้านเร่งตัวเพิ่มขึ้นเป็น 80% 3.การทยอยปรับขึ้นราคา และ 4.ความสามารถในการประหยัดต่อขนาดที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขายและการบริหาร (SG&A) ลดลงได้ต่อเนื่องทุกไตรมาส แม้ว่าบริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขา “ร้านสุกี้ MK” “ยาโยอิ” “แหลมเจริญ” เพิ่มต่อเนื่อง

 

ท้งนี้หากกำไรงวดไตรมาส 2/2565 ของ M เป็นไปตามประมาณการ กำไรสุทธิงวดครึ่งแรกของปี 2565 (1H/65) จะคิดเป็น 42% ของประมาณการทั้งปี 2565 ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 131 ล้านบาทเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ประมาณการกำไรสุทธิดังกล่าว ยังมี Up Side จาก SSSGต่อสาขาที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 (2H/65) จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 58 บาท

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง