เรามาคุยกันก่อนดีกว่าว่าทำไมเราถึงอยากมีสมาธิตอนอ่านหนังสือ - อยากอ่านหนังสือให้รู้เรื่องหรอ ถ้าอยากอ่านหนังสือให้รู้เรื่องสิ่งที่เราควรปรับเปลี่ยนหลักๆเลยคือ สภาพแวดล้อมลองเปลี่ยนสภาพแวดล้อมรอบตัวทำให้ตัวของคุณมีสมาธิมากที่สุดดูสิเช่น สถานที่ที่เงียบๆ หรือถ้าหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบนั้นไม่ได้เราก็แค่หาสิ่งที่สามารถมาช่วยเราในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์นั้นๆได้มาดูสิ เช่น การสวมหูฟังฟังเพลงแต่เดี๋ยวก่อน! อย่าพึ่งเอะใจในสิ่งที่ผมกำลังเขียนอยู่มีงานวิจัยรองรับว่าการฟังเพลงขณะอ่านหนังสือสามารถทำให้คนมีสมาธิได้จริงๆ “แต่” ต้องเป็นเพลงที่มีลักษณะที่ - ไม่มีเนื้อร้อง เพราะถ้ามีเนื้อร้องมันจะทำให้ทักษะหรือสกิลการอ่านของเรานั้นลดลงเป็นอย่างมากยิ่งโดยเฉพาะถ้าเป็นเพลงภาษาของตัวเราเองหรือเป็นภาษาที่เราสามารถแค่ฟังแล้วแปลในหัวได้เลยเพลงแบบนั้นจะยิ่งทำให้สมาธิและทักษะการอ่านและการเขียนตกลงเป็นอย่างมากเพราะฉะนั้นควรเลือกฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้องดีกว่า - หรือว่าอยากนำความรู้หรือวิธีการที่หนังสือให้ไปไปปรับใช้ในชีวิตของตัวคุณเองแต่อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจหรือไม่เข้าหัวสักที การอ่านหนังสือให้มีสมาธิกับอ่านหนังสือให้เข้าใจผมมีความคิดเห็นว่ามันต่างกันนะครับเพราะการอ่านให้มีสมาธิสำหรับผมมันคือการอ่านหนังสือให้ไหลลื่นพร้อมจดจำทุกอย่างได้เหมือนเป็นกระแสน้ำในลำธารที่ไหลไปเรื่อยๆ แต่สำหรับการอ่านให้เข้าใจมันคือการอ่านจับใจความว่าสิ่งๆนั้นมันคืออะไรทำหน้าที่อะไรก็เหมือนการไหลเวียนของเหลือดนั่นแหละครับว่าต้องไปที่ไหนและแต่ละที่ที่ไปมีความสำคัญยังไงบ้างถ้าไม่ไปหรือไม่เข้าใจเราจะเสียอะไรไปบ้างเพราะฉะนั้นการอ่านให้เข้าใจนั้นฟังเหมือนจะเป็นเรื่องยากแต่ถ้าเราให้เวลากับมันหรือสังเกตจับจุดดีๆก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของคุณหรอกครับเพราะฉะนั้นการอ่านให้เข้าใจผมจะยกมาประมาณ 3 ขั้นตอนด้วยกันนะครับ 1.จับประเด็นสำคัญ ทำไมเราต้องจับประเด็นสำคัญล่ะเพราะถ้าให้เลือกอ่านระหว่าง สไลด์ 5 หน้าและประเด็นสำคัญแค่ 5 บรรทัด โดยทั้งสองมีใจความสำคัญที่เหมือนกันคุณจะอ่านอันไหนครับแน่นอนว่าถ้าอยากได้รายละเอียดมากๆผมก็เลือก อ่านสไลด์ 5 หน้าครับแต่ถ้าอยากได้แค่ใจความสำคัญจริงๆผมก็ขอเลือกแค่ 5 บรรทัดครับเพราะฉะนั้นการจับประเด็นคือการที่เรานึกถึงมันคือรายละเอียดต่างๆมันจะเข้ามาในหัวเราทันทีเลยครับเหมือนกับสิ่งที่คุณชอบนั่นแหละลองนึกถึงเวลามีคนมาถามในสิ่งที่คุณชอบคุณก็สามารถตอบกลับคำถามนั้นได้แทบทุกคำถามเลยใช่ไหมล่ะ 2.จดโน้ต ถ้าการจับประเด็นสำคัญคือ “การเข้าใจเนื้อหา” การจดโน้ตก็เหมือนกับ “การบันทึกใจความของเนื้อหา” อ่าวแล้วมันต่างกันยังไงล่ะเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังครับ คืออย่างนี้ครับการอ่านจับประเด็นเนี่ยมันคือการที่เราอ่านและเราเข้าใจเนื้อหาสาระนั้นแล้วใช่ไหมครับแต่ในทางกลับกันการจดโน๊ตคือการจดไว้เพื่อ “ทบทวน” ในสิ่งที่อ่านไปแต่เป็นการจดให้สั้นลงหรือให้กระชับขึ้นเพื่อที่เราจะได้เข้าใจในเนื้อหาตรงนั้น 3.อ่านเพื่อเชื่อมโยง การอ่านเชื่อมโยงถ้าจะให้เปรียบก็เหมือนกับแม่น้ำที่ไหลมาบรรจบกันนั่นแหละครับทุกอย่างไหลมาล้วนแล้วแต่มีเหตุและผลของมันและเรามีหน้าที่หาว่าเหตุนั้นคืออะไร มาได้ยังไง แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไรพยายามทำให้ทุกอย่างมันไหลไปพร้อมกันให้ได้ครับถ้าคุณสามารถทำให้มันไหลไปพร้อมกันได้แล้วยินดีด้วยครับคุณสามารถทำเรื่องนั้นได้อย่างง่ายดายแล้ว - อยากอ่านเอาไปสอบให้ได้คะแนนดีๆ หรอ ใช้ 3 ขั้นตอนนั้นสิครับถ้าคุณทำทั้งสามขั้นตอนนั้นได้การเก็บเอก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของคุณหรอกครับ และสุดท้ายนี้การพักผ่อนก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่เกือบจะที่สุดเลยครับเพราะถ้าไม่พักผ่อนต่อให้อ่านเป็นร้อยร้อยรอบคุณก็ไม่มีทางเข้าใจหรอกครับอย่าลืมแบ่งเวลาด้วยว่าเวลาไหนควรพักเวลาไหนควรอ่านตอนพักก็ไม่ต้องไปสนใจเรื่องที่กำลังอ่านอยู่ก็ได้ครับเพราะเวลาพักมันจะกลายเป็นเวลาเรียนแทน ภาพที่ถ่าย : ผู้เขียนเป็นคนถ่ายเองทุกรูปภาพ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !