Clock Tower 3 เป็นเกมแนวสยองขวัญที่พัฒนาโดย Sunsoft และ Capcom ออกวางจำหน่ายในปี 2002 สำหรับเครื่อง PlayStation 2 เกมนี้เป็นภาคที่สามในซีรีส์ Clock Tower แต่มีเนื้อเรื่องและตัวละครที่แยกออกมาจากสองภาคแรก ทำให้ผู้เล่นใหม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เนื้อเรื่อง: เรื่องราวของ Clock Tower 3 เริ่มต้นด้วยตัวเอกคือ Alyssa Hamilton เด็กสาววัย 14 ปี ที่ถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนประจำในอังกฤษ วันหนึ่งเธอได้รับจดหมายจากแม่ให้กลับบ้านและซ่อนตัว แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอกลับพบว่าแม่หายตัวไป และบ้านของเธอถูกรุกรานโดยสิ่งชั่วร้าย Alyssa ต้องเดินทางข้ามกาลเวลาเพื่อไขปริศนาและต่อสู้กับวิญญาณร้ายที่เรียกว่า Subordinates เนื้อเรื่องของเกมนี้ค่อนข้างซับซ้อนและน่าติดตาม มีการผสมผสานระหว่างเรื่องราวในปัจจุบันและอดีตได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังสืบสวนคดีฆาตกรรมข้ามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม บางครั้งเนื้อเรื่องอาจสับสนและยากที่จะติดตามได้ทั้งหมด กราฟิกและเสียง: สำหรับเกมในยุค PS2 Clock Tower 3 มีกราฟิกที่ค่อนข้างดี โดยเฉพาะการออกแบบตัวละครและฉากหลังที่มีรายละเอียดสูง บรรยากาศของเกมสร้างความน่ากลัวได้อย่างดีผ่านการใช้แสงเงาและสีสันที่หม่นหมอง อย่างไรก็ตาม บางฉากอาจดูล้าสมัยไปบ้างเมื่อเทียบกับมาตรฐานในปัจจุบัน ด้านเสียงประกอบ Clock Tower 3 ทำได้ยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบสร้างบรรยากาศน่าขนลุกได้อย่างดี เสียงประกอบต่างๆ ทั้งเสียงฝีเท้า เสียงประตูลั่น หรือเสียงกรีดร้องล้วนเพิ่มความตื่นเต้นและหวาดกลัวให้กับผู้เล่น การพากย์เสียงตัวละครก็ทำได้ดี แม้บางครั้งอาจจะดูเกินจริงไปบ้าง ระบบการเล่น: Clock Tower 3 เป็นเกมแนว Survival Horror ที่เน้นการหลบหนีมากกว่าการต่อสู้โดยตรง ผู้เล่นต้องควบคุม Alyssa ให้หลบซ่อนและหนีจากการไล่ล่าของเหล่า Subordinates โดยใช้สิ่งของในฉากเพื่อขัดขวางหรือทำให้ศัตรูชะงัก ระบบการเล่นที่น่าสนใจคือการใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อชะลอการเคลื่อนไหวของศัตรู และการใช้ "Panic Meter" ที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อ Alyssa เผชิญหน้ากับอันตราย หากเมเตอร์เต็ม เธอจะวิ่งหนีอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้ผู้เล่นต้องบริหารความกลัวของตัวละครด้วย นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของแต่ละด่าน ผู้เล่นจะได้ต่อสู้กับบอสด้วยการใช้ธนูวิเศษ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแนวเกมจาก Survival Horror เป็น Action ชั่วคราว สร้างความหลากหลายให้กับเกมเพล่ย์ ประสบการณ์การเล่น: การเล่น Clock Tower 3 เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ ความรู้สึกของการถูกไล่ล่าโดยฆาตกรที่น่ากลัวสร้างความตื่นเต้นและหวาดกลัวได้อย่างดี ฉากที่น่าจดจำที่สุดสำหรับผมคือการถูกไล่ล่าโดย Subordinate ชื่อ Sledgehammer ในโรงเรียนร้าง เสียงค้อนที่ลากไปบนพื้นและเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งของเขาทำให้รู้สึกหวาดกลัวจนต้องหาที่ซ่อนตัวตลอดเวลา อีกฉากที่ประทับใจคือการเดินทางย้อนเวลาไปยังลอนดอนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง บรรยากาศของเมืองที่ถูกทิ้งระเบิดและความมืดมิดจากการดับไฟเพื่อหลบเครื่องบินทิ้งระเบิดสร้างความรู้สึกโดดเดี่ยวและหวาดกลัวได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม เกมนี้ก็มีจุดอ่อนบางประการ เช่น การควบคุมตัวละครที่บางครั้งรู้สึกไม่ตอบสนอง โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องหลบหนีอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ ระบบการต่อสู้ด้วยธนูในช่วงบอสไฟต์ก็ค่อนข้างง่ายและซ้ำซากเมื่อเล่นไปสักพัก สรุป: Clock Tower 3 เป็นเกมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในวงการเกมสยองขวัญ แม้จะมีข้อบกพร่องบางประการ แต่ก็สามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับผู้เล่นได้ เนื้อเรื่องที่น่าสนใจ บรรยากาศที่น่ากลัว และระบบการเล่นที่เน้นการหลบหนีมากกว่าการต่อสู้ ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกมสยองขวัญทั่วไป หากคุณเป็นแฟนเกมแนว Survival Horror และกำลังมองหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ Clock Tower 3 ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้ว่าเกมจะมีอายุกว่า 20 ปีแล้ว แต่ความน่ากลัวและบรรยากาศของมันก็ยังคงสร้างความประทับใจได้จนถึงปัจจุบัน คะแนน: 7.5/10 จุดเด่น: - เนื้อเรื่องที่น่าสนใจและซับซ้อน - บรรยากาศน่ากลัวที่สร้างได้อย่างยอดเยี่ยม - ระบบการเล่นที่เน้นการหลบหนีสร้างความตื่นเต้น - เสียงประกอบและดนตรีที่สร้างอารมณ์ได้ดี จุดด้อย: - การควบคุมตัวละครบางครั้งไม่ตอบสนอง - ระบบการต่อสู้กับบอสค่อนข้างง่ายและซ้ำซาก - กราฟิกบางส่วนอาจดูล้าสมัยในปัจจุบัน Clock Tower 3 อาจไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นเกมที่มีเสน่ห์และน่าจดจำ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมสยองขวัญแนวคลาสสิก เกมนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !