นักลงทุนหุ้นสายเทรดเก็งกำไรห้ามพลาดเก็งกำไรหุ้น ด้วย 3 Indicators เล่มนี้ถือเป็นภาคที่ 3 ของเทรดหุ้นด้วยกราฟฉบับมือใหม่ (ภาค 1) และจับจังหวะซื้อขายหุ้นด้วย Indicators (ภาค 2) โดยยังแยกเล่มอ่านได้อยู่ เพราะเนื้อหาจบในเล่ม ครั้งนี้จะเป็นการแนะนำการใช้เครื่องมือ Ichimoku Cloud ประกอบกับ Volume (ปริมาณ) การซื้อขายด้วย เพื่อเราจะได้เข้าใจ Indicators ที่ผู้เขียนใช้เป็นประจำ อีกตัวที่ใช้ก็คือ Fibonacci เป็น indicators ตัวสุดท้ายในการใช้อัตราส่วนเพื่อวัดเป้าหมายของราคา หนังสือเล่มนี้เขียนโดย พัชราภรณ์ เคนชมภู อีกทั้งยังมีหนูดอยและพี่เด้ง กูรูเต่าน้อยตัวการ์ตูนสุดน่ารักคอยให้คำอธิบายประกอบเป็นระยะ พร้อมตัวอย่างกราฟประกอบให้เข้าใจง่ายด้วยภาพสี่สีทั้งเล่ม สิ่งที่ประทับใจที่ได้เรียนรู้ภายในเล่ม ได้เรียนรู้ว่าประโยชน์ของ Volume หรือปริมาณการซื้อขายในตลาดนั้น ช่วยให้เรารู้สภาวะตลาด ใช้เทียบกับราคาเพื่ออ่านพฤติกรรมของราคา ใช้กับแนวรับ-แนวต้าน เพื่อดูแนวโน้ม ใช้กับแนวโน้มราคา และใช้กับดูสัญญาณซื้อขาย ได้เรียนรู้สัญญาณซื้อจาก Volume ต้องครบ 3 ข้อก่อนจึงเปิดสถานะ1.เปิด Time Frame week หาสัญญาณกลับตัวขึ้นในภาพใหญ่ หรือหาเทรนด์ขาขึ้น2.เปิด Time Frame Day หาสัญญาณเบรกราคาครั้งที่ 1 พร้อม Volume ที่สูง3.รอสัญญาณคอนเฟิร์ม คือแท่งราคาเบรกครั้งที่ 2 จากการยก High & Low ได้เรียนรู้สัญญาณขายจาก Volume โดยอิงจากสัญญาณใดสัญญาณหนึ่ง1.ราคาหลุด Trend Line หรือแนวรับ แนวต้าน2.ราคาปิดหลุด Low เดิม จากการยก Trailing stop3.ใช้การวัดเป้าจาก Fibonacci 1.618 หรือ 2.618 ได้เรียนรู้ว่า ถ้า Volume เพิ่มขึ้นจะสะท้อนความแข็งแรงของราคา ไม่ว่าจะทิศทางขึ้นหรือลง การดูว่า Volume นั้น สูงหรือต่ำ จะเกิดจากการเทียบ Volume ของหุ้นตัวนั้นในอดีต ให้ระวังว่า การใช้ Time Frame ที่เล็กเกินไปจะถูกสัญญาณหลอกได้ง่าย ได้เรียนรู้ว่า Volume ส่วนใหญ่มักเคลื่อนที่อย่างสอดคล้องตามราคาแนวโน้ม แต่หากเจอการขัดแย้ง มีนัยว่าแนวโน้มราคากำลังจะเปลี่ยน ทั้งนี้การเทรดหุ้นตัวเล็กราคาถูก ต้องระวัง เพราะราคาหุ้นถูก ทำให้เกิดการซื้อขายที่กระชากกราฟขึ้นลงผิดปกติได้ แล้ววิเคราะห์กราฟได้ยาก ได้เรียนรู้ว่า Ichimoku Cloud เป็น indicators ที่ใช้บอกเทรนด์แนวรับ-แนวต้าน หรือสัญญาณซื้อ-ขายได้ โดยประโยชน์ของมันคือ....1.ใช้ดูแนวโน้ม เช่น จากแท่งเทียนกับ Cloud2.ดูจุดกลับตัวของแนวโน้ม3.เพื่อดูต้นทุนเฉลี่ยของคนส่วนใหญ่ รู้ว่าจุดที่เราซื้อถูกหรือแพงกว่าคนทั่วไป4.ดูแนวรับ-แนวต้าน เช่น จาก Cloud5.ดูสัญญาณซื้อ-ขาย ได้เรียนรู้ว่าข้อเสียของ Ichimoku Cloud คือ การคำนวณของ Indicators คล้ายกับเส้นค่าเฉลี่ย จึงไม่เหมาะกับสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วง Sideway เพราะไม่ชัดเจนและกรอบแคบเกินไป ไม่เหมาะจะเทรดแบบซื้อขายที่เร็วเกินไป เงื่อนไขการเทรดหลายอย่างทำให้สัญญาณนานๆจะมาที ได้เรียนรู้ว่าFibonacci ในที่นี้คือ Fibonacci Retracement เป็น Indicators ที่เราใช้อัตราส่วนเพื่อวัดเป้าหมายของราคา อัตราส่วนที่นิยมใช้ คือ 0.382 (38.2%) , 0.618 (61.8%) , 1.618 (161.8%) ได้เรียนรู้ว่าประโยชน์ของ Fibonacci คือใช้บอกเป้าของราคา ใช้บอกแนวรับ-แนวต้าน และใช้เพื่อดูการแกว่งตัวและไปต่อของราคา ได้เรียนรู้ว่าการตีเป้าราคาก็เพื่อให้เห็นเป้าหมายเป็นขั้นๆ เมื่อราคายืนที่เป้าได้ค่อยขยับไปเป้าที่ 2 และ 3 ต่อไปจนเมื่อราคาหุ้นเกิดแตะเป้า แล้วยืนไม่ได้ อาจเกิดการกลับตัว เกิดการหลุด Trailing stop หรือเกิดสัญญาณขายตามหน้า Trade Setup ก็ให้ขายทำกำไรออกมา แต่ถ้าราคายืนได้ก็ให้ Let profit run ทนถือกำไรไปก่อน ได้เรียนรู้ว่าอย่างไรเสียก็ต้องเผื่อใจว่าอย่ายึดติดกับเป้าราคามากนัก เพราะมันเป็นเพียงการคาดการณ์จากหลักสถิติ ฉะนั้นเราก็ควรฝึกปรับเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ ได้เรียนรู้ว่าการลงทุนหุ้นแต่ละครั้งควรรู้ตัวว่าจะถือนานแค่ไหน เก็งกำไรระยะสั้นหรือถือลงทุนยาวแบบ Runtrend เมื่อเลือกหุ้นแล้ว ดูกราฟให้ออกว่าจะหาอะไรจากมันต่อ เช่น แนวรับ แนวต้าน ความแข็งแรง Momentum หรือหาสัญญาณซื้อขาย จากนั้นเลือกใช้ Trade Setup หรือ Indicators ที่ตอบโจทย์สิ่งที่เราหา ได้เรียนรู้ว่าถ้าราคาหุ้นกับ Indicators ให้สัญญาณขัดกัน เราจะให้ความสำคัญกับราคาหุ้นก่อน ให้ Indicators เป็นรอง ครีเอเตอร์ไม่ใช่สายเทคนิค ดูกราฟไม่เป็น และไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เราปักหมุดลงไปในกราฟมันใช่จุดที่เป็น Stop Loss หรือเปล่า จึงเกิดความไม่มั่นใจขึ้น....รู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังเดาอย่างผิดๆถูกๆ ครีเอเตอร์ยังต้องพัฒนาตัวเองอีกมากหากจะมุ่งเส้นทางสายเทรดอย่างจริงจัง หากทำไม่ได้...ก็คงต้องเปลี่ยนแนวเป็นสายพื้นฐานตลอดไป การดูกราฟไม่มีความแน่นอน 100% อยู่แล้ว หากทำกำไรได้เป็นส่วนใหญ่ก็ถือว่าผ่าน เอาตัวรอดเป็น ทั้งนี้ทางผู้เขียนก็ดูเหมือนจะเข้าใจมือใหม่อย่างครีเอเตอร์จึงไม่ได้ทำให้ผู้อ่านอย่างครีเอเตอร์รู้สึกแย่ที่ตัวเองดูลักษณะของกราฟไม่ออกที่กำหนดจุดเบรก High เดิมผิดไปหมด เป็นต้น อีกทั้งมีการให้กำลังใจคนที่ตั้งใจที่จะเป็นสายเทรด ซึ่งของแบบนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ ทิศทางราคาและแนวโน้มควบคู่กันไป พร้อมกับการทำการบ้านอย่าง Back Test (เทรดตามราคาหุ้นย้อนหลัง) หรือใช้การเทรดหุ้นจำลองผ่านทาง Click2win.com อีกด้วยครับ เครดิตภาพภาพปก โดย starline จาก freepik.com ภาพที่ 1 และ 2 โดยผู้เขียนภาพที่ 3 โดย freepik จาก freepik.comภาพที่ 4 โดย freepik จาก freepik.com บทความอื่นๆที่น่าสนใจรีวิวหนังสือ เทรดหุ้นด้วยกราฟรีวิวหนังสือ จับจังหวะซื้อขายหุ้นด้วย Indicatorsรีวิวหนังสือ รู้เทคนิคพลิกกำไร คู่มือเทรดหุ้นสายกราฟ ฉบับมือใหม่รีวิวหนังสือ 5 STEPS เทรดหุ้นจากเริ่มต้นจนเทรดเป็นรีวิวหนังสือ คู่มือเทรด FUTURES ในตลาด TFEX7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์