กรมอนามัย แนะ 9 ข้อปฏิบัติให้ผู้สูงอายุเตรียมพร้อมก่อนฉีดวัคซีนโควิด
วันนี้ ( 13 ก.ค. 64 )นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ยังคงรุนแรงกลุ่มผู้สูงอายุนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่น่าเป็นห่วง กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการได้รับบริการฉีดวัคซีนของกลุ่มผู้สูงอายุอย่างทั่วถึง โดยก่อนเข้ารับบริการควรเตรียมตัวให้พร้อมดังนี้
1.พักผ่อนให้เพียงพอ
2.กินอาหารและยาให้เรียบร้อย
3.วันที่ฉีดควรกินน้ำอย่างน้อย 500-1,000 ซีซี งดชากาแฟหรือของที่มีคาเฟอีน รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
4.ให้ญาติหรือลูกหลานไปด้วยอย่างน้อย1คน
5.นำบัตรประชาชนบัตรประจำตัวผู้ป่วยและยาที่กินประจำไปด้วย
6.ฉีดแขนข้างที่ไม่ค่อยถนัดและหลังฉีดสองวัน งดใช้แขนข้างที่ฉีดไม่เกร็งและยกของหนัก
7.การฉีดวัคซีนโควิดควรห่างจากการวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่อย่างน้อย 1 เดือน
8.กรณีกินยาละลายลิ่มเลือดอยู่ก็ให้กินยาตามปกติ แต่เมื่อฉีดยาแล้วให้กดนิ่งตรงตำแหน่งที่ฉีดต่ออีก1นาทีและ
9.ศึกษาและทำความเข้าใจกับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ว่าอาจจะเกิดอาการข้างเคียงหลังรับวัคซิน เพื่อสร้างความเข้าใจก่อนไปรับบริการเช่น อาการที่พึงประสงค์ และ อาการไม่พึงประสงค์
นายแพทย์สุวรรณชัยกล่าวต่อไปว่า หลังการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุต้องปฏิบัติดังนี้
1.นั่งพักสังเกตอาการอย่างน้อย30นาที
2.ดื่มน้ำมากๆ
3.พักผ่อนให้เพียงพอ
4.งดออกกำลังกายยกของหนักและทำงานหนักอย่างน้อย 2 วัน หากพบอาการไม่พึงประสงค์ทั่วไปเช่นปวดบวมแดงร้อน ไข้ต่ำ ปวดศีรษะ คันบริเวณที่ฉีด อ่อนเพลียไม่มีแรง ท้องเสีย ให้รักษาตามอาการหรือรอให้อาการทุเลาลง ซึ่งส่วนมากจะหายได้เองใน1-2วัน หากไม่ดีขึ้นควรไปโรงพยาบาล
ส่วนอาการไม่พึงประสงค์ที่ควรพบแพทย์เช่น ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะรุนแรง เหนื่อย แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง มีจ้ำเลือดออกจำนวนมาก ใบหน้าเบี้ยว หรือ ปากเบี้ยวแขนขาอ่อนแรงกล้ามเนื้ออ่อนแร งและ ชักหรือหมดสติ ในกรณีที่รุนแรงมากรีบแจ้ง 1669 และ 1422 ทันที
ทั้งนี้ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากผู้สูงอายุจะต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดแล้ว การดูแลสุขภาพด้วยหลัก 5อ. ยังคงต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องดังนี้
1.อ.อาหารกินอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ๆเลี่ยงอาหารหวานหรือเค็ม เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงเสริมภูมิคุ้มกันและครบ5หมู่ และดูสุขภาพช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ
2.อ.อารมณ์อย่ารับข่าวสารมากเกินไป ให้ทำกิจกรรมที่ผู้สูงอายุชื่นชอบหลีก เลี่ยงการดื่มสุราแต่หากเกิดความเครียด และต้องการปรึกษาให้ โทรสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323
3.อ.ออกกำลังกายหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ หรือทำเท่าที่ทำได้ตามสภาพร่างกาย
4.อ.เอนกายพักผ่อนนอนหลักพักผ่อนให้เพียงพอ 7-9 ชั่วโมงต่อวัน
5.อ.ออกห่างสังคมนอกบ้านทั้งผู้สูงอายุและผู้ดูแลควรเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านให้มากที่สุด เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตรสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และล้างมือด้วยน้ำสบู่ และน้ำหรือแอลกอฮอล์เจลเป็นประจำ”อธิบดีกรมอนามัยกล่าวในที่สุด