ยับยั้งโควิด! "ออสเตรเลีย" ปิดพรมแดนระหว่างรัฐในรอบ 100 ปี

วันนี้( 6 ก.ค.63) นายแดเนียล แอนดรูว์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ และ รัฐวิกตอเรียที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 1 และ 2 ของออสเตรเลียจะปิดพรมแดนระหว่างกันครั้งแรกในรอบ 100 ปีตั้งแต่วันพรุ่งนี้และจะปิดไปอย่างไม่มีกำหนด หลังไวรัสโควิด-19 ระบาดอย่างหนักในรัฐวิกตอเรีย    

แอนดรูว์ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทางรัฐวิกตอเรียกำลังเผชิญปัญหาอย่างหนักในการควบคุมโควิด-19และการปิดพรมแดนน่าจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจออสเตรเลีย ซึ่งกำลังเข้าสู่การถดถอยครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี และการตัดสินใจปิดพรมแดนซึ่งจะมีผลตั้งแต่ 23.59 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันอังคาร เป็นการดำเนินการร่วมกันกับนายกรัฐมนตรีสกอต มอร์ริสัน และมุขมนตรีรัฐนิวเซ้าท์เวลส์

โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเมืองเมลเบิร์นของรัฐวิกตอเรีย พุ่งขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทำให้ทางการบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ตามชุมชนรอบนอกเมือง 30 จุด และล็อกดาวน์ปิดอาคารการเคหะ 9 แห่ง ส่งผลกระทบต่อผู้อาศัยรวมกันกว่า 3,000 คน

รัฐวิกตอเรีย รายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 127 ราย ถือว่า มากสุดในวันเดียวนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาด นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 รายซึ่งเป็นคนแรกในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 106 ราย  

ทั้งนี้ ออสเตรเลีย จัดการการระบาดของโควิด-19 ได้ดีกว่าหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อสะสม ราว  8,500 คน แต่การระบาดที่เมลเบิร์นก่อให้เกิดความวิตกและเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ออสเตรเลียพบผู้ติดโควิด-19 รายวันเฉลี่ย 109 ราย เมื่อเทียบกับช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน พบผู้ติดโควิด-19 เฉลี่ยวันละ 9 ราย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระบาดต่อเนื่อง! ยอดติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียพุ่งขึ้นไม่หยุด

ออสเตรเลียพบผู้ติดโควิด-19 สูงสุดในรอบ 2 เดือน

ออสเตรเลียส่งสัญญาณล็อกดาวน์สกัดโควิด-19