บังคับคดี ยันเข้าดูแลทรัพย์สิน บ.ทุ่งคำ แจงขายสินแร่ 190 ถุง แล้ว จ่อขนย้ายออกจากพื้นที่

จากกรณีศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด การจัดการทรัพย์สินของบริษัททุ่งคำ จำกัด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2561

เมื่อวันที่ 12 มกราคม นางอรัญญา ทองน้ำตะโก อธิบดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงถึงความคืบหน้าต่อ ผู้ทำเหมืองทองในพื้นที่ คดีดังกล่าว มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ รวม 176 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,285 ล้านบาท  เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขายสินแร่ผ่านการขายทอดตลาด จำนวน 190 ถุง ในราคา 8.2 ล้านบาท และผู้ซื้อทรัพย์สินได้ชำระค่าสินแร่ครบถ้วนแล้ว

ดังนั้นจึงอยู่ระหว่างการขนย้ายที่ผู้ซื้อต้องขออนุญาตต่อสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเลย เพื่อครอบครองและขนย้ายตามประกาศของกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานการเหมืองแร่ ขณะที่ทรัพย์รายการอื่นๆ คือ อาคารโรงงานเลขที่ 179 หมู่ 3 ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย, เครื่องจักร, สิ่งของต่างๆ ภายในโรงงาน และสินแร่อีกจำนวน 32 ถุง จากจำนวนที่ยึดได้ทั้งหมด 222 ถุง นั้นอยู่ระหว่างการประกาศขายทอดตลาด

“เครื่องจักร และอาคารโรงงานบางส่วนมีของเหลวปนเปื้อนสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการแต่งแร่ และประกอบโลหะกรรมค้างอยู่ ต้องรับการบำบัด กำจัด อย่างถูกวิธีเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ กรมบังคับคดี อยู่ระหว่างหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเงื่อนไขในการขายทอดตลาด เพื่อให้กำจัดของเสีย และสารเคมีได้อย่างถูกวิธี และเกิดความปลอดภัย” นางอรัญญา กล่าว

นางอรัญญา กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิด จำนวน 6 หมู่บ้าน ในพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบ ระบุว่ามีบุคคลที่คาดว่าจะมีอิทธิพลพยายามเข้าถึงสินทรัพย์นั้น ทางกรมบังคับคดี ได้ดูแลในส่วนที่รับผิดชอบ คือ ดูแลรักษาทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดไว้ ได้แก่ สินแร่ อาคารโรงงาน และเครื่องจักร โดยที่ผ่านมาได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการและฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับพื้นที่ จังหวัดเลย และ กทม. รวมถึงจ้างคนในพื้นที่เพื่อเฝ้าสินทรัพย์ ดังนั้นขอให้กลุ่มคนรักษ์บ้านเกิดคลายกังวลในประเด็นดังกล่าว.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ปิดตำนานเหมืองทองคำภูทับฟ้า จ.เลย ชาวบ้านหวังฟื้นฟูเป็นแหล่งท่องเที่ยว