ผมจำได้ดีถึงช่วงเวลาที่การ์ตูนเรื่อง Astro Boy หรือเจ้าหนูปรมาณู กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในประเทศไทย เด็กๆ แทบทุกคนต่างเฝ้ารอคอยการออกอากาศทางโทรทัศน์ เพื่อติดตามการผจญภัยของหุ่นยนต์เด็กผู้มีพลังพิเศษคนนี้ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่จินตนาการว่าตัวเองเป็น Astro Boy บินไปท่องฟ้า ปราบเหล่าร้าย และเมื่อเกม Astro Boy เวอร์ชั่น Playstation 2 วางจำหน่าย ความฝันในวัยเด็กของผมก็เป็นจริงขึ้นมาทันที ผมใช้เวลาอ้อนวอนคุณพ่อ พร้อมกับสัญญาว่าจะตั้งใจเรียน (และแอบหยอดกระปุกเงินค่าขนมช่วยด้วย) จนในที่สุดก็ได้เกมนี้มาครอบครอง วันนี้ผมจะขอพาทุกคน ย้อนเวลากลับไปสัมผัสกับความสนุกในวันวาน ผ่านรีวิวเกม Astro Boy PS2 พร้อมแชร์ประสบการณ์และความรู้สึกในวัยเด็กที่ยังคงตราตรึงอยู่ในใจผมจนถึงทุกวันนี้ กราฟิกและการนำเสนอ แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 20 ปี แต่กราฟิกของ Astro Boy PS2 ก็ยังคงดูดีในสายตาผม ตัวละคร ฉาก และเอฟเฟกต์ต่างๆ ถูกออกแบบมาในสไตล์เซลเฉด ซึ่งเป็นเทคนิคการเรนเดอร์ภาพแบบหนึ่งที่ทำให้ภาพดูคล้ายกับการ์ตูน มีมิติ สีสันสดใส และสวยงาม ตัวอย่างเช่น เส้นขอบของตัวละครจะถูกวาดให้มีความหนา และมีการไล่เฉดสีอย่างชัดเจน ทำให้ภาพดูโดดเด่น การออกแบบตัวละคร Astro ทำออกมาได้อย่างน่ารัก เหมือนกับตัวละครในการ์ตูนไม่มีผิดเพี้ยน ดวงตาโต ผมทรงแหลม และชุดสีแดง-น้ำเงิน เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผมจำได้ไม่ลืม ผมยังจำความรู้สึกตื่นเต้นตอนที่ได้เห็น Astro เคลื่อนไหว บินไปมา และใช้พลังพิเศษต่างๆ ในเกมได้ มันเหมือนกับว่า ตัวละครที่ผมชื่นชอบ ได้มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ฉากในเกมก็มีความหลากหลาย และออกแบบมาได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเมือง Metro City ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้าสูงระฟ้า รถยนต์ลอยฟ้า และผู้คนมากมาย ฐานทัพลับใต้ดิน ที่มีบรรยากาศลึกลับ น่ากลัว เต็มไปด้วยกับดักและอุปสรรคต่างๆ หรือแม้แต่โลกใต้น้ำ ที่มีพืช สัตว์ และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลแปลกๆ ให้เราได้พบเห็น การได้บินสำรวจฉากต่างๆ ในเกม ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ผจญภัยไปในโลกของ Astro Boy จริงๆ เพลงประกอบและเสียงเอฟเฟกต์ เพลงประกอบของเกม Astro Boy PS2 เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและอารมณ์ให้กับเกมได้เป็นอย่างดี เพลงธีมหลักของเกม มีทำนองที่สนุกสนาน เร้าใจ และฟังแล้วฮึกเหิม ทุกครั้งที่ได้ยินเพลงนี้ ผมจะรู้สึกเหมือนได้รับพลัง พร้อมที่จะออกไปปราบเหล่าร้าย และช่วยเหลือผู้คน นอกจากเพลงธีมหลักแล้ว เพลงประกอบในฉากต่างๆ ก็ถูกเลือกมาอย่างเหมาะสม เช่น เพลงในฉากต่อสู้ จะมีจังหวะที่เร็ว และหนักแน่น ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการต่อสู้ ส่วนเพลงในฉากที่ Astro กำลังเดินทาง หรือพูดคุยกับตัวละครอื่นๆ จะเป็นเพลงที่ฟังสบายๆ ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ในเกม ก็ทำออกมาได้สมจริง ไม่ว่าจะเป็นเสียงพลังหมัดของ Astro ที่ดังสนั่นหวั่นไหว เสียงยิงลำแสง ที่คมกริบ เสียงระเบิด ที่ดังตูมตาม หรือเสียงร้องของเหล่าร้าย ที่ฟังดูน่ากลัว เสียงเอฟเฟกต์เหล่านี้ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่น และทำให้ผมรู้สึกอินไปกับเกมมากยิ่งขึ้น รูปแบบการเล่น Astro Boy PS2 เป็นเกมแนวแอ็คชั่นผจญภัย มุมมองบุคคลที่สาม ที่เราจะได้รับบทเป็น Astro Boy ออกเดินทางทำภารกิจต่างๆ เพื่อปกป้องเมือง Metro City และช่วยเหลือผู้คน รูปแบบการเล่นค่อนข้างเรียบง่าย เข้าใจง่าย แต่ก็มีความท้าทาย เราสามารถควบคุม Astro ให้เดิน วิ่ง กระโดด บิน และใช้พลังพิเศษต่างๆ ในการต่อสู้กับศัตรู เช่น พลังหมัด ที่สามารถโจมตีศัตรูได้อย่างรุนแรง ลำแสง ที่ยิงได้ไกล และแม่นยำ ปืนใหญ่ ที่สามารถสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และเจ็ตบูสเตอร์ ที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการบิน นอกจากการต่อสู้แล้ว เรายังต้องแก้ไขปริศนาต่างๆ เพื่อผ่านด่าน เช่น การหาทางเปิดประตู การกดสวิตช์ หรือการเคลื่อนย้ายสิ่งของ ซึ่งปริศนาเหล่านี้ ไม่ได้ยากจนเกินไป และช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับเกม สิ่งที่ผมชอบที่สุดในเกมนี้ คือระบบการบิน ที่ให้ความรู้สึกอิสระ เสมือนกับว่า เราได้กลายเป็น Astro Boy บินไปท่องเที่ยวในโลกกว้างจริงๆ เราสามารถบินขึ้นลง เลี้ยวซ้ายขวา และบินวนไปมาได้อย่างอิสระ ในช่วงแรก การควบคุมการบินอาจจะยากสักหน่อย เพราะต้องใช้ปุ่มหลายปุ่มในการควบคุม แต่เมื่อเล่นไปสักพัก ก็จะเริ่มชิน และสนุกไปกับการบิน เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องของเกม Astro Boy PS2 อ้างอิงมาจากการ์ตูนต้นฉบับ แต่ก็มีการเพิ่มเติมรายละเอียด และตัวละครใหม่ๆ เข้าไป เพื่อให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้ว เนื้อเรื่องของเกม ทำออกมาได้ดี มีทั้งฉากแอ็คชั่น ที่ตื่นเต้นเร้าใจ ฉากดราม่า ที่สะเทือนอารมณ์ และฉากตลก ที่ทำให้เราอมยิ้ม ตัวอย่างเช่น ในช่วงต้นเกม เราจะได้เห็นฉากที่ Astro ถูกสร้างขึ้นมา และเรียนรู้เกี่ยวกับพลังพิเศษของตัวเอง จากนั้น Astro ก็ได้ออกไปผจญภัย และต่อสู้กับเหล่าร้าย เพื่อปกป้องเมือง Metro City ระหว่างทาง Astro ได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ และศัตรูตัวฉกาจ เช่น Atlas หุ่นยนต์ที่แข็งแกร่งที่สุด ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลาย Astro เนื้อเรื่องของเกม มีการดำเนินเรื่องที่ดี มีปมปริศนาให้เราได้ติดตาม และมีการหักมุม ที่ทำให้เราคาดไม่ถึง ผมชอบที่เกมสามารถนำเสนอประเด็นต่างๆ เช่น ความแตกต่างระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ มิตรภาพ ความรัก และการเสียสละ ได้อย่างลึกซึ้ง ความยากของเกม Astro Boy PS2 เป็นเกมที่ไม่ได้ยากมาก เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย แม้แต่เด็กๆ ก็สามารถเล่นได้ แต่ก็มีบางด่าน ที่ค่อนข้างท้าทาย โดยเฉพาะด่าน Boss ที่ศัตรูจะมีพลังชีวิตเยอะ และมีรูปแบบการโจมตีที่หลากหลาย เราต้องใช้ทักษะในการต่อสู้ การหลบหลีก และการใช้ไอเทม เพื่อเอาชนะ Boss ให้ได้ ผมจำได้ว่า ตอนที่ผมเล่นเกมนี้ตอนเด็กๆ ผมต้องใช้เวลาฝึกฝน และลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง กว่าจะผ่านด่าน Boss บางด่านไปได้ แต่เมื่อผ่านไปได้ ก็รู้สึกภูมิใจ และมีความสุขมาก จุดเด่น กราฟิกสไตล์เซลเฉด สวยงาม มีเอกลักษณ์ เพลงประกอบสนุกสนาน เร้าใจ ระบบการบินที่ให้ความรู้สึกอิสระ เนื้อเรื่องน่าติดตาม มีครบทุกรสชาติ เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย จุดด้อย การควบคุมการบินอาจจะยากในช่วงแรก ความยาวของเกมค่อนข้างสั้น (สามารถเล่นจบได้ภายใน 10-15 ชั่วโมง) มุมกล้องบางครั้ง อาจจะทำให้มองเห็นศัตรูได้ยาก ประสบการณ์ในการเล่น ผมจำได้ว่าตอนที่ได้เล่น Astro Boy PS2 ครั้งแรก รู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเป็นเกมที่ผมรอคอยมานาน และตัวเกมก็ไม่ได้ทำให้ผมผิดหวัง กราฟิกสวยงาม เพลงประกอบเพราะ เนื้อเรื่องสนุก และที่สำคัญ คือได้เล่นเป็น Astro Boy ตัวละครในฝันของผม ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบินสำรวจเมือง Metro City บินไปตามซอกตึก บินขึ้นไปบนยอดตึกสูงๆ เพื่อชมวิว ผมชอบความรู้สึกที่ได้บินอย่างอิสระ เสมือนกับว่า ตัวเองเป็นซูเปอร์ฮีโร่จริงๆ นอกจากนี้ ผมยังชอบการต่อสู้กับ Boss แต่ละตัว ซึ่งมีความท้าทาย และต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น การสู้กับ Atlas ผมต้องคอยหลบหลีกการโจมตีของเขา และหาจังหวะโจมตีกลับ ซึ่งกว่าจะเอาชนะได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยเลยทีเดียว แม้ว่า Astro Boy PS2 อาจจะไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่สำหรับผมแล้ว มันเป็นมากกว่าเกม มันคือความทรงจำในวัยเด็ก คือช่วงเวลาแห่งความสุข ที่ผมไม่มีวันลืม สรุป Astro Boy PS2 เป็นเกมแอ็คชั่นผจญภัย ที่สนุก น่าเล่น และเหมาะสำหรับผู้เล่นทุกเพศทุกวัย แม้จะมีจุดด้อยอยู่บ้าง เช่น ความยาวของเกมที่ค่อนข้างสั้น และมุมกล้องที่บางครั้งอาจจะทำให้เล่นยาก แต่ก็ถือว่าเป็นเกมที่คุ้มค่า และน่าสะสม สำหรับแฟนๆ Astro Boy และคนที่ชื่นชอบเกมแนวนี้ เครดิตภาพ ทางผู้เขียนได้ซื้อเกมนี้มาเล่นเองถ่ายรูปลงเอง เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !