หนังสือสำหรับมนุษย์วัยทำงานไร้รักที่จะพานักอ่านไปพบเจอกับความสัมพันธ์แบบใหม่ ชวนอบอุ่นหัวใจและแฝงข้อคิดของเรื่องราวแห่งชีวิต ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนไม่อยากรัก แต่ก็เหงาเกินกว่าจะอยู่คนเดียว นวนิยายแปลจากญี่ปุ่นเรื่อง"เราทั้งคู่ผู้ไม่อาจมีรัก" เขียนโดยนักเขียนบทชาวญี่ปุ่น โยชิดะ เอริกะ ผู้มากประสบการณ์ด้านงานเขียนบทซีรีส์ ภาพยนตร์ บทละคร ตลอดจนนวนิยายที่ถูกแปลให้คนไทยได้ลองอ่านกัน แน่นอนว่าเหล่าคนโสดชีวิตเงียบเหงาไม่ควรพลาด!!นอกจากนั้น นวนิยายเรื่องนี้ยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในญี่ปุ่น จนถูกนำมาสร้างเป็นซีรีส์เรื่อง"เราทั้งคู่ผู้ไม่อาจมีรัก" ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงมากความสามารถอย่างYukino Kishii รับบทเป็น'Sakuko Kodama'และTakahashi Issei รับบทเป็น'Takahashi Satoru' ท่ามกลางมนุษย์มากมายที่ผู้วิ่งตามหารัก ก็คงจะมีบ้างมนุษย์บางกลุ่มที่ไม่มีความรู้สึกรัก พวกเขาเหล่านั้นคงไร้อารมณ์ชมพูหวานชื่นและรักสงบเป็นที่หนึ่ง หากจะเปรียบก็คงเป็นสีดำหรือเทาอ่อนๆ และสีเขียวแห่งความสงบ อันเป็นสัญลักษณ์สีที่ปรากฏบนธงของเพศวิถีที่น้อยนักจะรู้จักอย่างAromantic-Asexual เรื่องย่อ เรื่องราวอบอุ่นหัวใจของ ‘โคดามะ ซาคุโกะ’ หญิงสาวผู้ไม่เข้าใจความรู้สึกรัก และ ‘ทาคาฮาชิ ซาโตรุ’ ชายเจ้าของเพจที่รู้ตัวว่าตนเป็นเอโรแมนติก-เอเซ็กชวนซึ่งเมื่อมนุษย์วัยทำงานที่ไร้รักดันบังเอิญจับพลัดจับผลูต้องมาอาศัยร่วมกันด้วยผลประโยชน์บางอย่าง เรื่องราวความวุ่นวายจากการเรียนรู้ ค้นพบตัวตน และการทำความเข้าใจถึงความหมายของ”ชีวิต”ก็ค่อยๆส่งกลิ่นไอหอมหวานอ่อนๆถึงหัวใจของผู้อ่านให้ได้ผ่อนคลาย หนังสือเล่มนี้จึงเป็นโลกแห่งอักขระแนวอบอุ่นหัวใจที่แฝงคำสอนและบทเรียนของความแตกต่างทางเพศ บอกเล่าปัญหาความรัก และมุมมองของคนบางกลุ่มที่มองความรักเป็นสีที่แตกต่างออกไป ค่านิยมของคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับความรัก หนังสือมีเรื่องราวสะท้อนค่านิยมของสังคมเกี่ยวกับหน้าที่อันพึงปฏิบัติของคนในครอบครัว เฉกเช่นซีรีส์เรื่อง””ที่สะท้อนเรื่องความเป็นแม่บ้านแม่เรือนของผู้หญิงเกาหลีในสมัยก่อน หนังสือเรื่อง”เรื่องเราทั้งคู่ผู้ไม่อาจมีรัก”เองก็มีเรื่องสะท้อนสังคมคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับการสร้างครอบครัว และการเป็นแม่ที่ดี โดยเปรียบเทียบกับเกม”Sugoroku” เกมของคนญี่ปุ่นที่ต้องก้าวเดินไปข้างหน้าทีละขั้นตามลำดับขั้นที่เป็นเหมือนดั่งบรรทัดฐานของสังคม ความรู้เรื่องAromantic และ Asexual เอโรแมนติก และเอเซ็กชวน เป็นเพศวิธีรูปแบบหนึ่งของมนุษย์ที่ไม่มีความรู้สึกดึงดูดต่อความรักเชิงโรแมนติก หรือการดึงดูดทางเพศ ซึ่งแน่นอนว่าในประเทศไทยเราน้อยคนนักจะรู้จักคำๆนี้และมีคนไม่น้อยที่มีเพศวิถีประเภทนี้เพียงแค่ไม่รู้ตัวหรือไม่รู้จัก ดังนั้น หนังสือเล่มนี้จึงเป็นแหล่งความที่อธิบายพฤติกรรมเกี่ยวกับเอโรแมนติก และเอเซ็กชวนได้เป็นอย่างดี ความรักคืออะไร ความหมายของ ‘ความรัก’ ในทางหลักจิตวิทยา หมายถึง เจตคติเกี่ยวกับความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมที่แสดงออกต่อบุคคลหนึ่ง ส่วนความหมายในทางวิทยาศาสตร์นั้น หมายถึง ปฏิกิริยาทางเคมีที่เกิดขึ้นเพื่อการดำรงเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ ความหมายของความรักมีมากมายเกินจะอธิบายให้เข้าใจอย่างชัดแจ้ง เพราะแม้แต่นักวิทยาศาสตร์หรือนักปรัชญาก็ไม่อาจมองหาความแน่นอนจากความรู้สึกพวกนั้น ตั้งอยู่บนความมีเป็นเหตุเป็นผล หรือเพียงความรู้สึกอ่อนไหว เป็นการให้ที่สูญเสีย หรือต่างฝ่ายต่างได้รับ เป็นเพียงภาพลวงตาจากความรู้สึกเหงา หรือความรักจริงแท้ที่สถิตอยู่ในใจ คำตอบล้วนแล้วแต่บุคคลทั้งสิ้น คำตอบหนึ่งที่ล้วนชัดเจนที่สุด อาจเป็นประโยคที่ว่า “ความรักคือสิ่งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของมนุษย์” ทั้งกับครอบครัว ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนพ้องก็ล้วนมีความรักเป็นทุนเดิมของความจริงใจ แต่นักเขียนก็ไม่อาจฟันธงโดยการเติมคำว่า’ทุกคน’ต่อท้ายประโยคได้ เพราะเมื่อได้ปิดหนังสือเรื่อง “เราทั้งคู่ผู้ไม่อาจมีรักแล้ว” ก็ได้เรียนรู้ว่าบนโลกที่มีมนุษย์หลายล้านชีวิต พร้อมความแตกต่างหลากหลายแบบ “รัก”อาจไม่ได้สำคัญสำหรับทุกคน ข้อคิดและสิ่งที่ควรตระหนัก ความเข้าใจที่มอบให้ สิ่งสำคัญที่ควรรักษาไว้ และการผูกมัดชีวิตไว้กับคำนิยามสั้นๆ คือข้อคิดเตือนสติบางส่วนที่ชวนให้นักอ่านได้ตระหนักว่าชีวิตคนเรานั้น ไม่ควรสูญเสียไปกับการเดินตามบรรทัดฐานของคนส่วนใหญ่ เมื่อเวลาอันแสนจำกัดนั้นมีไว้ให้เจ้าของวิญญาณดวงนั้นเป็นคนตามหาคำตอบด้วยตนเองว่า “สิ่งใดควรค่า และสิ่งใดช่างไร้ความหมาย” ความรู้สึกและความละเอียดอ่อนของมนุษย์ หากเปรียบหัวใจของมนุษย์เป็นดอกไม้ หนังสือเล่มนี้คงเล่าความรู้สึกอันเบิกบาน และเหี่ยวเฉาได้อย่างน่าติดตาม เพราะความรู้สึกของมนุษย์นั้นยากแท้จะตัดสินได้ด้วยตาเห็น แต่ต้องมองลึกเข้าไปถึงหัวใจอันซับซ้อนและอ่อนโยน ด้วยปัจจัยมากมายที่ล้วนส่งผลกระทบและสร้างตัวตนของมนุษย์คนหนึ่งให้ตัดสินใจทำบางสิ่ง แสดงออกบางอย่าง และรู้สึกต่อสิ่งๆหนึ่งได้ในมุมมองที่แตกต่างและหลากหลายอารมณ์ การเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นเสมอ ประเด็นข้อคิดที่มอบความเข้าใจอันลึกซึ้งเกี่ยวกับชีวิตได้ดีมากๆจากหนังสือเล่มนี้คือคำคำหนึ่งที่กล่าวถึง “การเปลี่ยนแปลง” เมื่อเช้าวันใหม่ถูกต้อนรับด้วยตะวันส่องแสง ก็ย่อมถูกอำลาด้วยตะวันลับขอบฟ้า เมื่อมีวันที่ฟ้าโปร่งเจิดจ้า ก็ย่อมมีวันที่เมฆหนาปกคลุม เปรียบเสมือนดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนต่างนิยามและขนานนามแก่พวกมันแตกต่างกัน สอนให้รู้ว่าเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งวิธีคิดและสิ่งสำคัญของชีวิตมนุษย์ ก็ย่อมค่อยๆแปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆในทุกๆช่วงของชีวิต เพราะจังหวะของชีวิตมนุษย์นั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ "บังเอิญพบ สานสัมพันธ์ และจากลากัน เป็นวัฏจักรเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา" หัวใจของมนุษย์ที่ไม่เข้าใจเรื่องความรัก แต่ก็หวาดกลัวเกินกว่าจะมีบั้นปลายชีวิตอยู่เพียงลำพัง เรื่องราวของครอบครัว(ชั่วคราว)ที่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกรักจากหนังสือ “เราทั้งคู่ผู้ไม่อาจมีรัก”จึงได้เกิดขึ้น เพราะบางครั้งมนุษย์ก็ต้องการเพียงสถานที่ที่ให้กลับไปเมื่อเจอวันที่เหนื่อยล้า และรู้สึกอุ่นใจทุกคราที่รู้ว่ามีใครสักคนอยู่เคียงข้าง แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นมนุษย์ที่ไม่เข้าใจความรักก็ตาม เครดิตภาพประกอบ ภาพนักเขียน: โดย yoshidaerika1121 ภาพหนังสือ by Hookeyes ช่องทางการติดต่อ: https://www.instagram.com/h_ookeyes/ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !