ช่วงนี้มีใครที่ใบขับขี่ใกล้หมดอายุ หรือใบขับขี่หมดอายุแล้วบ้างมั้ยคะ ตอนนี้ทางกรมการขนส่งทางบก ได้เปิดให้บริการต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการแล้วนะ! เราก็เป็นคนนึงที่ใบขับขี่หมดอายุไปเป็นปีแล้ว โชคดีที่ไม่ได้ขับรถเองเลย ก็เลยยังไม่ผิดกฎจราจร พอนึกอยากขับเองขึ้นมาเลยต้องรีบไปต่อใบขับขี่ ยิ่งเห็นว่าเปิดให้ต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการแบบนี้ก็ยิ่งสบายเลย แต่ถ้าใครยังงงๆ อยู่ว่าต้องทำยังไงบ้าง ตามมาทำด้วยกันไปทีละขั้นเลยค่ะ*หมายเหตุ : เราต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการประเภทรถยนต์ส่วนบุคคล (จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) ชนิดขาดต่ออายุเกิน 1 ปี โดยอบรมแบบออนไลน์ค่ะ ข้อมูลเบื้องต้นในการต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการกรมการขนส่งทางบกจะให้บริการต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการ ในวันธรรมดา ตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น. และในวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ถึงวันที่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น ซึ่งจะเปิดให้บริการนอกเวลาราชการเฉพาะสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5 และสำนักงานขนส่งจังหวัดและสาขา ในจังหวัดปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยวเท่านั้นนะคะจังหวัดที่ให้บริการรต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการ ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ลพบุรี สระบุรี ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี นครสวรรค์ พิษณุโลก เชียงใหม่ เชียงราย กำแพงเพชร ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ อุดรธานี มหาสารคาม ชัยภูมิ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต สงขลา นครศรีธรรมราช กาญจนบุรี ราชบุรี และเพชรบุรี ภาพรวม ขั้นตอนการต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการ (จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) ชนิดขาดต่ออายุเกิน 1 ปี โดยอบรมแบบออนไลน์1. จองคิววันและเวลาที่ต้องการไปต่อใบขับขี่ ในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น2. อบรมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์3. ขอใบรับรองแพทย์4. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ที่สำนักงานขนส่ง5. สอบข้อเขียน ที่สำนักงานขนส่ง6. ชำระเงิน ถ่ายรูปติดบัตร และรับใบขับขี่ได้เลย จองคิวต่อใบขับขี่ขั้นตอนแรกของการต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการ คือการจองคิววันและเวลาที่ต้องการไปต่อใบขับขี่ค่ะ โดยสามารถจองคิวได้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือทางเว็บไซต์จองคิว DLT Smart Queue ก็ได้ค่ะ (ช่วงนี้แอปพลิเคชั่นขัดข้อง แนะนำให้จองคิวผ่านเว็บไซต์แทนค่ะ)1. เข้าแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue หรือ เว็บไซต์จองคิว DLT Smart Queue2. เลือก ลงทะเบียน3. เลือกประเภทผู้ใช้งาน คนไทย4. กรอกข้อมูลส่วนตัวและรหัสผ่าน แล้วกดกดยืนยัน5. กดยอมรับเงื่อนไข และกดลงทะเบียน6. ระบบจะกลับมาหน้าแรกอีกครั้ง ให้กรอกเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน จากนั้นกดลงทะเบียน7. เลือกสำนักงานที่ต้องการไปต่อใบขับขี่ (มีแค่บางแห่งเท่านั้นนะคะที่เปิดให้บริการนอกเวลาราชการ ดูจากรายชื่อจังหวัดด้านบนได้เลยค่ะ)8. เลือกประเภทบริการ งานใบอนุญาต9. เลือกประเภทใบอนุญาตขับรถ ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล10. เลือกประเภทเข้ารับบริการ ต่ออายุใบอนุญาตขับรถ11. เลือกประเภทยานพาหนะ รถยนต์12. กรอกวันหมดอายุใบขับขี่ใบเดิม (ถ้าใบเดิมหาย / ไม่ทราบวัน / ใช้หนังสือรับรองการอบรบ ให้ติ๊กในช่องด้านล่างแทน)13. เลือกประเภทงานที่ต้องการ (นอกเวลา) ใบอนุญาตส่วนบุคคล: การขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ(จาก 5 ปี เป็น 5 ปี) สิ้นอายุ 1 ปีขึ้นไป (อบรมผ่าน e-learning)14. เลือกวันและเวลาที่ต้องการ วันที่มีคิวว่างจะขึ้นสีเขียว ถ้าคิวเต็มจะขึ้นสีแดง ให้กดเลือกวันที่ต้องการได้เลย (สีเขียว) แต่หากไม่มีคิวว่างเหลือ ต้องกลับไปเลือกสำงานอื่นใหม่นะคะ (กดย้อนกลับไปเริ่มข้อ 7 ใหม่)15. เลื่อนหน้าจอลงมา กดรอบเวลาที่ต้องการ16. ระบบจะไปหน้ายืนยันการจองคิว ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้อง แล้วกดยืนยันการจอง17. กดยินยอนเพื่อดำเนินการจองคิว แล้วกดยืนยัน18. แคปหน้าจอข้อมูลการจองคิวเอาไว้ เพื่อนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันต่อใบขับขี่ อบรมออนไลน์ หลังจากจองคิวต่อใบขับขี่แล้ว เราแนะนำให้อบรมออนไลน์ เพราะสะดวกและรวดเร็วกว่า ซึ่งเวลาในการอบรมจะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท โดยการขาดต่ออายุเกิน 1 ปีจะอบรมทั้งหมด 2 ชั่วโมง และผลการอบรมจะมีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับจากวันที่ผ่านการอบรม1. เข้าไปที่เว็บไซต์ DLT e-Learning ระบบการอบรมใบอนุญาตขับรถผ่านระบบออนไลน์2. เลือก ลงทะเบียนใหม่3. กรอกข้อมูลส่วนตัว กดดำเนินการต่อ4. กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข แล้วกดยืนยัน5. ระบบจะมาที่หน้าเข้าสู่ระบบ กรอกเลขบัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิด จากนั้นกดเข้าสู่ระบบ6. เลือกสมัครหลักสูตรอื่นๆ7. เลือกประเภทหลักสูตร อบรมต่ออายุใบอนุญาตรถส่วนบุคคล / รถขนส่ง / รถสาธารณะ กดสมัครอบรม8. เลือกหลักสูตรอบรม [ต่ออายุ] ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ขาดต่ออายุเกิน 1 ปี กดสมัครอบรม9. กดดำเนินการต่อ10. เริ่มอบรมโดยการดูคลิปวิดีโอให้ครบทั้งหมด ระหว่างดูจะมีคำถามเด้งขึ้นมาเป็นระยะ ให้ตอบคำถามให้ครบ11. เมื่ออบรมเสร็จแล้วจะมีคำถามหลังอบรมสั้นๆ มาให้ทำ เมื่อทำเสร็จก็จะได้หลักฐานการผ่านอบรม ให้แคปหน้าจอหรือบันทึกภาพไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันต่อใบขับขี่ ขอใบรับรองแพทย์ ขั้นตอนนี้หลายคนมักจะลืมกัน ตอนที่เราไปต่อใบขับขี่ก็เห็นคนที่ไม่ได้ขอใบรับรองแพทย์มาหลายคนเลยค่ะ ซึ่งหากไม่มีใบรับรองแพทย์จะไม่สามารถต่อใบขับขี่ได้เด็ดขาดเลยนะคะ ดังนั้นอย่าลืมขอใบรับรองแพทย์กันมาก่อนทำใบขับขี่ด้วยน้าาาการขอใบรับรองแพทย์สำหรับใบอนุญาตขับรถ สามารถทำได้ที่คลินิกทั่วไปเลย โดยจะเป็นแบบฟอร์มใบรับรองแพทย์สำหรับใบอนุญาตขับรถโดยเฉพาะ คุณหมอจะซักถามและตรวจร่างกายเบื้องต้นว่าสามารถขับขี่รถได้อย่างปลอดภัย แล้วจะออกใบรับรองแพทย์ให้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันไปแล้วแต่แต่ละแห่ง ซึ่งที่เราไปอยู่ที่ราคา 80 บาทค่ะ ที่สำคัญ ใบรับรองแพทย์ต้องมีอายุไม่เกิน 1 เดือน นับตั้งแต่วันที่ตรวจร่างกายนะคะ ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เมื่อถึงวันและเวลาที่จองคิวไว้ ก็แต่งหน้าแต่งตัวสวยๆ ไปสอบใบขับขี่ตามสถานที่ที่เราเลือกไว้ได้เลยค่ะ เมื่อไปถึงก็กดบัตรคิว และยื่นหลักฐานสำหรับต่อใบขับขี่ ซึ่งมีดังนี้1. หน้าจอข้อมูลการจองคิวที่แคปไว้2. หลักฐานการผ่านอบรมที่แคปไว้3. ใบรับรองแพทย์4. บัตรประชาชนตัวจริง5. ใบขับขี่ใบเดิมที่แคปหน้าจอไว้ไม่ต้องปริ้นท์มานะคะ ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดูจากหน้าจอมือถือได้เลย จากนั้นก็นั่งรอเรียกคิวไปทดสอบสมรรถภาพร่างกายค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Qz-Ki42ThnE การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย จะมี 4 อย่าง คือ การทดสอบการมองเห็นสี การทดสอบสายตาทางลึก การทดสอบสายตาทางกว้าง และการทดสอบปฏิกิริยา (ดูวิธีการทดสอบแต่ละอย่างได้จากในคลิปวิดีโอเลยค่ะ) โดยเจ้าหน้าที่จะอธิบายวิธีการทดสอบให้ฟังทีละขั้นตอน ทำไม่ยากค่ะ แป๊ปเดียวก็ผ่านแล้ว พอทดสอบสมรรถภาพร่างกายผ่าน ก็เตรียมไปสอบข้อเขียนกัน สอบข้อเขียน การสอบข้อเขียนจะสอบในคอมพิวเตอร์ ผ่านระบบ (E-exam) ให้เวลาทำ 1 ชั่วโมง ข้อสอบมีทั้งหมด 50 ข้อ ต้องผ่านเกิน 90% หรือเกิน 45 ข้อขึ้นไป จึงจะถือว่าสอบข้อเขียนผ่านค่ะ สำหรับเราได้ 47 คะแนน ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีก็ทำข้อสอบเสร็จแล้วค่ะ ข้อสอบไม่ยากอย่างที่คิด อ่านเยอะๆ ก็ทำข้อสอบได้แล้ว เราหาแนวข้อสอบใน Google และ Youtube นี่แหละค่ะ มีประโยชน์มากๆ ชำระเงิน ถ่ายรูปติดบัตร รับใบขับขี่ หลังจากสอบข้อเขียนผ่านแล้ว ก็นำเอกสารมายื่นเพื่อชำระเงิน ของเราเป็นรถยนต์ มีค่าใช้จ่าย 505 บาท (ค่าใบขับขี่ 500 บาท และค่าคำขอ 5 บาท) โดยการต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้นะคะ แต่ที่สำคัญคือต้องจ่ายเป็นเงินสด เพราะระบบโอนเงินจะรับแค่ในเวลาราชการเท่านั้นค่ะ ดังนั้นเตรียมเงินมาให้พร้อมน้าา เห็นคนก่อนหน้าเราหลายคนเลยที่ไม่ได้เตรียมเงินสดมา ก็ต้องออกไปหาที่กดเงินกันค่ะพอจ่ายเงินเสร็จก็รอคิวเรียกไปถ่ายรูปติดบัตรค่ะ ตอนนี้เตรียมเช็กหน้าเช็กผมได้เลย พอถ่ายรูปเสร็จแล้วก็รับใบขับขี่ได้ เสร็จเรียบร้อยค่า แชร์ประสบการณ์ไปต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการ เราเคยไปต่อใบขับขี่ในเวลาราชการมาตั้งแต่เมื่อ 6-7 ปีก่อน ตอนนั้นคนเยอะม๊ากกก รอคิวจนจะหลับ อบรมออนไลน์ก็ไม่มี จองคิวออนไลน์ก็ไม่มี แต่พอมีการต่อใบขับขี่นอกเวลาราชการก็คือสะดวกมาก เราได้รอบ 16.00 น. คนไม่เยอะ ไม่ต้องรอคิวนาน เจ้าหน้าที่ก็อธิบายเข้าใจง่ายดี ไม่มีวีนเหวี่ยง เราใช้เวลารวมทั้งหมดแค่ชั่วโมงกว่าๆ เอง ยิ่งถ้าใบขับขี่ยังไม่หมดอายุแล้วไม่ต้องสอบข้อเขียนก็จะเร็วกว่านี้อีก (แต่ถ้าหมดอายุเกิน 3 ปี ต้องสอบปฏิบัติใหม่นะคะ) ถ้าเตรียมตัวไปดีๆ รับรองว่าเสร็จเร็วไม่ต่างจากเราแน่นอนค่ะ ชอบระบบแบบนี้มาก อยากให้มีต่อไปอีกยาวๆ เลย ขอบคุณภาพประกอบกรมการขนส่งทางบก : ภาพ 1 , ภาพ 4 │ DLT Smart Queue : ภาพ 2 │ DLT e-Learning : ภาพ 3 , ภาพปก │ กรมการขนส่งทางบก DLT Channel : วิดีโอ 1 │ José Carlos da Costa : ภาพปกเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !