หุ้นไทยมีโอกาสฟื้นระยะสั้น แนะเก็งงบ Q1 ก่อนปรับพอร์ตมิ.ย. I WEALTH LIVE

คุณประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดมุมมองผ่านรายการ WEALTH LIVE ชี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวในระยะสั้น 1-2 เดือนข้างหน้า แม้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง แต่แรงขายที่น้อยลงทำให้หุ้นขึ้นได้ง่าย แนะจับจังหวะเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ก่อนอาจต้องปรับลดน้ำหนักในเดือนมิถุนายน

วอลุ่มหายแต่ไร้แรงขาย เปิดช่องหุ้นไทยฟื้นตัว

คุณประกิตวิเคราะห์ว่า แม้ปัจจุบัน (21 เม.ย. 68) ตลาดหุ้นไทยจะมีมูลค่าการซื้อขาย (วอลุ่ม) ลดลง แต่ข้อสังเกตสำคัญคือ ตลาดไม่ค่อยเผชิญแรงขายหนักเหมือนช่วงก่อนหน้า สถานการณ์เช่นนี้ ประกอบกับปัจจัยบวกที่รออยู่ เช่น การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 และความคาดหวังเชิงบวกต่อการเจรจาการค้าที่น่าจะมีความชัดเจนขึ้น ทำให้การผลักดันราคาหุ้นทำได้ง่ายขึ้น

"เวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ แปลว่าดันหุ้นง่าย และยิ่งมี Story รออยู่ บวกกับตลาดต่างประเทศตอนนี้ทั้งฮ่องกงและอเมริกาไม่น่าเล่น เงินในประเทศส่วนใหญ่น่าจะโฟกัสที่การเก็งกำไรระยะสั้นกับหุ้นไทย ด้วยโมเมนตัมแบบนี้ มันน่าจะยังไปได้ในช่วง 1-2 เดือนนี้" นายประกิต กล่าว

คาด SET ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว - เป้าสิ้นปี 1250

คุณประกิตมองว่า มีความเป็นไปได้ที่ดัชนี SET Index อาจผ่านจุดต่ำสุดของปีนี้ไปแล้ว โดยประเมินจากสมมติฐานที่ไม่ต้องเติบโต (ใช้ EPS เท่าปีก่อน) และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ค่าเฉลี่ย (Fair Value) ของดัชนีจะอยู่ที่ราว 1140-1150 จุด ซึ่งถือเป็นจุดน่าซื้อ และตั้งเป้าหมายดัชนีสิ้นปีไว้ที่ประมาณ 1250 จุด

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงหากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่รุนแรง หรือเกิด Panic Sell ในตลาดสหรัฐฯ อีกครั้ง ซึ่งอาจกดดันให้ดัชนีปรับตัวลงได้ แต่เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ ส่วนประเด็นสงครามการค้า มองว่าสถานการณ์ไม่น่าจะเลวร้ายไปกว่าเดิม และอาจมีทิศทางคลี่คลาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวก

ธีมเก็งกำไร Q1: อาหาร ค้าปลีก การเงิน ท่องเที่ยว

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ คุณประกิตแนะนำธีมเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ที่กำลังจะประกาศ โดยกลุ่มที่น่าสนใจ ได้แก่:

• กลุ่มอาหาร: CPF 
• กลุ่มค้าปลีก: CPALL, CPAXT
• กลุ่มการเงิน: MTC, KKP 
• กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม: CENTEL 

คำเตือน: เก็งกำไรระยะสั้น - ระวังงบ Q2 แย่ลง

คุณประกิตย้ำว่า โอกาสในการเก็งกำไรนี้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ประมาณ 1-2 เดือน (เมษายน-พฤษภาคม) โดยนักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงการประกาศงบไตรมาส 2/2568 (ราวเดือน ก.ค.-ส.ค.) เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการโดยรวมจะออกมาแย่กว่าไตรมาส 1

"ถ้าเรามีเวลาให้เก็งกำไร ก็อยู่ราวๆ 1-2 เดือนข้างหน้าแค่นี้ ช่วงเดือนมิถุนายน อาจจะต้องกลับมาปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยอีกครั้ง หรือรอบนี้ที่มันขึ้น(เม.ย.-พ.ค.) ขึ้นมาเพื่อให้เราได้ขาย" คุณประกิตกล่าว พร้อมเสริมว่า ปรากฏการณ์ "Sell in May" ไม่น่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะตลาดได้ปรับฐานลงไปมากแล้วในช่วงไตรมาสแรกและเดือนเมษายน