ควายในอิรักลดฮวบเกิน 50% เหตุทนแล้ง-ร้อนไม่ไหว

โดยเฉพาะในภาคใต้ของประเทศที่เคยเป็นแหล่งเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์สำคัญของอิรัก การขาดแคลนน้ำที่สะสมมานาน ส่งผลกระทบต่อทั้งพืชผลและสัตว์เลี้ยง ซึ่งรวมถึงควายที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับชาวนาในพื้นที่ โดยเฉพาะในแถบจังหวัดดิห์ คาร์ที่มีการเลี้ยงควายมาอย่างยาวนาน ผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่ชุ่มน้ำของอิรักกล่าวกับรอยเตอร์ว่า จำนวนควายในอิรักลดลงตั้งแต่ปี 2015 จาก 150,000 ตัว เหลือไม่ถึง 65,000 ตัวในปีนี้

เกษตรกรจากจังหวัดดิห์ คาร์ กล่าวว่า ผู้คนจำนวนมากได้ย้ายออกไปจากที่นี่ ตอนนี้เหลือบ้านเพียงไม่กี่หลังเท่านั้น เมื่อก่อนเขาเลี้ยงควายได้ประมาณ 120-130 ตัว แต่ตอนนี้เหลือเพียง 50-60 ตัว บางตัวตายไปแล้วและบางตัวขายไปเพราะภัยแล้ง ซึ่งการลดลงของจำนวนควายเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สะท้อนถึงความท้าทายที่อิรักกำลังเผชิญจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สำหรับควายเป็นสัตว์สำคัญของที่นี่ เพราะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงในอิรักมานานหลายศตวรรษเพื่อใช้ในผลิตภัณฑ์นม

ตามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในแถบพื้นที่ชุ่มน้ำของอิรัก สาเหตุหลักที่ทำให้วิกฤตน้ำในประเทศรุนแรงจนทำให้เกษตรกรต้องย้ายออกจากชนบท มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การสร้างเขื่อนในต้นน้ำของตุรกีและอิหร่าน การสร้างเขื่อนทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลมาถึงอิรักลดลงอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งการเกษตรและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ำของอิรัก โดยเฉพาะในเขตทางตอนใต้ที่เคยเป็นแหล่งเกษตรกรรมสำคัญ รวมถึงแหล่งเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องของเทคนิคการชลประทานในประเทศที่ล้าสมัย และขาดแผนการบริหารจัดการระยะยาว

สถานการณ์ที่อิรักเผชิญอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงแค่สะท้อนถึงวิกฤตด้านทรัพยากรน้ำที่เกิดขึ้น แต่ยังเป็นการเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่กำลังส่งผลกระทบในระยะยาวต่อวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่