หากถามว่า... เที่ยวป่าครั้งแรกที่ไหน เชื่อได้ว่า “เขาใหญ่” น่าจะต้องติดอยู่ในอันดับTOP 5 ของคนเที่ยวป่าหลาย ๆ คน และเชื่อว่าหลายคนก็น่าเริ่มต้นเดินป่ากันที่แรก ครั้งแรก ก็ที่ “เขาใหญ่” นี่แหละ!!!เพราะ เขาใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ถนนหนทาง รถราไปมาสะดวก ที่พักสบายไม่ว่าจะเป็นบ้านพักของอุทยานฯ ลานกางเต็นท์ หรือจะออกมานอนตีนเขาใหญ่ ก็มีโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ โฮมสเตย์ มากมายให้เลือกตามอัธยาศัยและกำลังเงินส่วนตัวก็เริ่มต้นทำความรู้จักป่าดงพงไพรที่เขาใหญ่นี่แหละ จึงไม่ผิดนักถ้าจะให้ เขาใหญ่ เป็น ปฐมบทแห่งประสบการณ์เรียนรู้เรื่องเดินป่า !!จำได้ว่าไปเขาใหญ่ครั้งแรกเพื่อร่วมงานทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ให้ช้างป่า 7 ตัว ที่พลัดตกเหว “น้ำตกเหวนรก” เมื่อปี 2535 และช้างป่าอีกหลายตัว ที่บังเอิญเดินมาพลัดตกเหวที่นี่อยู่หลาย ๆ ครั้ง ว่ากันว่า สาเหตุที่ช้างป่าเดินตกเหวที่นี่ เพราะถนนที่ตัดผ่ากลางเขาใหญ่เป็นต้นเหตุ ให้เส้นทางการหากินของช้างต้องเปลี่ยนไปอีกประเด็นเพราะมีพรานไล่ล่าช้างป่า เพื่อเอางา ทำให้ช้างไม่มีทางเลือกอื่น ต้องเปลี่ยนมาใช้เส้นทางอันตราย เพื่อหลบเลี่ยงการคุกคามจาก “มนุษย์”นั่นเป็นครั้งแรกของการทำความรู้จักเขาใหญ่ และเป็นเหตุให้ต้องไปอีกหลาย ๆ ครั้งถัดมา !!ในปีที่เขาใหญ่เผชิญกับไฟป่าครั้งใหญ่ เป็นคนหนึ่งที่มีภารกิจร่วม และมีโอกาสได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรฯ .. เฮลิคอปเตอร์ที่ใครก็ล้อว่าอันตรายที่สุดในประเทศไทย .. สังเกตการณ์และสำรวจแนวไฟ พาดผ่านภูเขาลูกโน้น ไปลูกนี้ เห็นฝูงนกเงือกหนีตาย บางครอบครัวนกเงือกที่มีลูกอ่อนในรัง บินไม่แข็ง พ่อ แม่ ลูก นกเงือก ซุกตัวอยู่ในโพรงรัง บนต้นไม้สูงไม่ไปไหน ในขณะที่ไฟลามเลียลำต้นไม้ที่ทำรังอยู่ ... ครอบครัวนกเงือกรักกัน และพร้อมจะตายด้วยกัน !!อีกครั้งที่เข้าไปกับคณะของ WWF เข้าไปสัมผัสสะดือเขาใหญ่ และเป็นการเดินป่าที่เรียกว่าเดินป่าจริง ๆ ในชีวิต ... เจ้าหน้าที่นำคณะเดินไปตาม เส้นทางศึกษาธรรมชาติ “มอสิงโต” เป็นครั้งแรกที่เดินไปตามเส้นทางตัดทุ่งหญ้า เบื้องหน้าเป็นชายป่า เดินตัดเข้าไปในป่า ไม่รู้เดินไปมายังไง ไปถึงฐานปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าไม้ ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี !!!... เดินข้ามจังหวัดได้ขนาดนี้ ...คณะของ WWF ชุดนั้น เข้าไปศึกษา เก็บข้อมูลประชากรเสือโคร่งในเขาใหญ่ สำรวจและเก็บตัวอย่างจากมูลสัตว์ ระหว่างทางเดินป่าเจ้าหน้าที่จะสอนให้สังเกตว่า กองไหนเป็นของเสือ หรือกองไหนเป็นของสัตว์ตัวอื่น ถ้าเป็นของเสือ จะมีเศษซากขนสัตว์ปนอยู่วันนั้นเจอไป 2 กอง ระหว่างที่เดินผ่านทุ่งหญ้า พ้นแนวป่า ก่อนถึงบ้านพักฐานปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าไม้ ... และคืนนั้นคณะเดินทางราว 10 ชีวิต ใช้บ้านพักเจ้าหน้าที่ซุกหัวนอน ก่อนนอนเพิ่มความตื่นเต้นด้วยการออกลาดตะเวนป่ากลางดึก ... เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 2 คน พร้อมไฟฉาย และ ปืน ประกบหัวท้ายขบวน กำชับห้ามทีมงานใส่น้ำหอม โคโลญ์ หรือ แม้กระทั่งแป้งฝุ่น ก็ห้ามทา !!... ลาดตะเวนป่าคืนนั้นไม่เจอเสือ แต่เป็นประสบการณ์ที่จดจำไปอีกนาน ...บางครั้งแม้ไม่ได้ตั้งใจไปเขาใหญ่ แต่เมื่อผ่านไปทางถนนมิตรภาพ ก็อดไม่ได้ที่จะเลี้ยวรถเข้าไป หาเรื่องขับผ่านเขาใหญ่ไปลงด้านปราจีนบุรี ซะงั้น !!!ถ้าภารกิจของความเป็นอุทยานแห่งชาติ มีไว้เพื่อการอนุรักษ์และศึกษาวิจัย “เขาใหญ่” ก็บรรลุภารกิจของการเป็นอุทยานแห่งชาติ ในการเป็นแหล่งเรียนรู้ได้โดยสมบูรณ์ และหากจะเพิ่มภารกิจการเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน “เขาใหญ่” ก็มีศักยภาพอย่างมากมาย !! ภาพและเรื่อง โดย เป๋าเป้