การรีดผ้าอาจจะเป็นงานบ้านที่หลายคนรู้สึก "เบื่อ" หรือบางทีก็ "ขี้เกียจ" แต่สำหรับผม มันกลับกลายเป็นเหมือนช่วงเวลาส่วนตัวเล็ก ๆ ที่ได้ปล่อยใจไปกับความเรียบเนียนของเสื้อผ้า และสิ่งที่ทำให้ช่วงเวลานี้พิเศษขึ้น ก็คือการได้ใช้เตารีดดี ๆ ที่ไม่สร้างปัญหาให้ผมปวดหัวครับ วันนี้ผมเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การใช้งาน เตารีดแห้ง Philips GC160/22 ที่เพิ่งลองใช้ไปไม่นานนี้ บอกเลยว่าตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่พอใช้จริง ๆ แล้ว รู้สึกประทับใจจนอยากมาเล่าให้ฟังครับ ดีไซน์ พอแกะกล่องออกมา สิ่งที่ผมชอบทันทีคือ ดีไซน์เรียบง่าย ดูกะทัดรัด จับถนัดมือ น้ำหนักไม่หนักจนเกินไป ทำให้รู้สึกว่าเป็นเตารีดที่ใช้งานง่ายจริง ๆ ครับ ด้ามจับ เคลือบผิวกันลื่น เวลาถือแล้วมั่นใจมาก แม้มือจะเปียกเหงื่อก็ไม่ลื่น สายไฟยาว 1.8 เมตร เป็นอะไรที่ตอบโจทย์สุด ๆ เพราะบางครั้งโต๊ะรีดผ้าอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ปลั๊กไฟตลอด การที่มีสายยาวก็ทำให้คล่องตัวขึ้นเยอะครับ น้ำหนักเบา ถือว่ากำลังดี ไม่หนักจนเมื่อยมือเวลารีดนาน ๆ และก็ไม่เบาเกินไปจนรู้สึกไม่กดผ้า พูดตรง ๆ คือ แค่จับครั้งแรกก็รู้สึกว่ามันน่าใช้น่าใช้เลยครับ ประสบการณ์ใช้งานจริง ตอนลองรีดเสื้อผ้าต่าง ๆ ผมเจอว่าตัวนี้มัน รีดลื่นมาก เพราะมี แผ่นความร้อน DynaGlide ที่ Philips เขาเคลมว่าลื่นกว่าแผ่น Non-stick หรือเซรามิกทั่วไป ซึ่งจากที่ลองจริง มันช่วยให้ลากเตารีดผ่านเนื้อผ้าได้แบบไม่ติดสะดุดเลยครับ รีดมุมยาก ๆ เช่น ร่องกระดุมหรือจีบเล็ก ๆ ก็ทำได้ง่าย เพราะปลายเตารีดเรียวเล็ก อันนี้เป็นจุดที่ผมชอบที่สุดเลยครับ ความร้อนสม่ำเสมอ ปุ่มปรับอุณหภูมิค่อนข้างแม่น รีดผ้าแต่ละชนิดก็เลือกปรับได้ง่าย ๆ ไม่ต้องกังวลว่าผ้าจะไหม้ครับ ไฟแสดงสถานะ ติดตอนเครื่องกำลังทำความร้อน และดับลงเมื่อถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ ผมว่ามันช่วยให้ควบคุมการใช้งานง่ายขึ้นเยอะเลยครับ สิ่งที่ผมประทับใจคือ เวลารีดกางเกงขายาวที่ยับเยินมาก ๆ กลับรีดได้เร็ว ไม่ต้องออกแรงกดเยอะก็ได้ผ้าเรียบสวยเลยครับ ข้อดี รีดลื่นสุด ๆ แผ่น DynaGlide คือดีจริงครับ ปลายเรียว ใครเคยหงุดหงิดกับร่องกระดุม ผมรับรองว่าตัวนี้เอาอยู่ครับ ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะกับคนที่ไม่อยากยุ่งยาก หมุนเปิด ตั้งความร้อน แล้วรีดได้เลย รอมันทำความร้อนแค่แป๊บเดียวเองครับ ราคาไม่แรง เมื่อเทียบกับคุณภาพแล้ว บอกเลยว่าคุ้มมากเลยครับ จุดที่ควรพิจารณา แน่นอนครับ ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ 100% เตารีดรุ่นนี้ก็มีข้อสังเกตบ้างเล็กน้อยครับ คือตัวพลาสติกแอบร้อนนิด ๆ ตอนปรับไฟแรง ๆ ครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ค่อยจะซีเรียสกับเรื่องนี้อยู่ละ เพราะมันตอบโจทย์การใช้งานทั่ว ๆ ไปอยู่แล้วครับ ความคุ้มค่ากับราคาที่จับต้องได้ สิ่งที่ทำให้ผมยิ่งประทับใจคือ ราคา ปกติอยู่ราว ๆ 800 บาทครับ แต่บางครั้งก็จะเจอโปรลดเหลือประมาณ 600–700 บาทเท่านั้นครับ เมื่อเทียบกับคุณภาพวัสดุ ความทนทาน และชื่อเสียงของ Philips ผมว่ามันเป็นการลงทุนที่คุ้มมาก ๆ ยิ่งสำหรับคนที่รีดผ้าเป็นประจำ เรียกได้ว่าใช้ยาว ๆ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยครับ สรุป หลังจากได้ลองใช้จริง ผมมองว่าเตารีด Philips GC160/22 เป็นเตารีดแบบแห้งที่เรียบง่ายแต่ครบเครื่องครับ ไม่ได้มีลูกเล่นฟังก์ชันมากมาย แต่กลับทำหน้าที่หลักได้ดีเยี่ยม นั่นคือ รีดผ้าได้เรียบเนียน ลื่นมือ และรวดเร็ว ครับ ผมคิดว่ามันเหมาะกับ คนที่ชอบอะไรเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก คนที่ต้องรีดเสื้อผ้าทุกวัน ต้องการความทนทานและความรวดเร็ว คนที่มองหาเตารีดราคาไม่แรง แต่ได้คุณภาพสูง ถ้าจะให้สรุปสั้น ๆ ผมคงบอกว่า เตารีด Philips GC160/22 เป็นเตารีดที่สามารถไว้ใจได้จริง ๆ ครับ *รูปทั้งหมดในบทความนี้เป็นรูปสินค้าจริงที่ผมได้ถ่ายเองโดยไม่ได้คัดลอกมาจากที่อื่นแต่อย่างใด* เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !