แบ่งปันเรื่องราว โดย อดีตสาวโรงงาน จากการที่ผู้เขียนเคยทำงานในโรงงานผลิตเสื้อผ้าส่งออกมาเกือบ 30 ปี เริ่มจากไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตเสื้อผ้าเลยเพราะไม่ได้เรียนจบทางด้านนี้ แต่เพราะโรงงานที่ข้าพเจ้าเคยทำงานด้วย มีนโยบายเรื่องการให้โอกาสผู้ที่ตั้งใจ ข้าพเจ้าจึงได้รับการฝึกและเรียนรู้พร้อม ๆ กับทำงาน เรียกว่าเรียนรู้ไป ทำงานไป ได้เงินด้วยก็ว่าได้ ข้าพเจ้าได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้างานในหลายแผนก(ไม่แน่ใจว่าเพราะอยู่มานานหรือเปล่า) แต่ละแผนกก็มีเนื้อหาของเนื้องานที่แตกต่างกันไป มีแผนกหนึ่งที่ผู้เขียนรู้สึกอยากนำเรื่องราวมาแบ่งปันกับเพื่อนๆ นั่นก็คือ แผนกบริหารจัดการวัตถุดิบ(ผ้า) ค่ะ วัตถุดิบ(ผ้า)คือต้นทุนหลักของโรงงานผลิตเสื้อผ้า สัดส่วนคือ 85 เปอร์เซ็นต์ของต้นทุน การบริหาร จัดการ และควบคุมวัตถุดิบจึงเป็นการบริหารและจัดการต้นทุนเกือบทั้งหมด เรียกว่าถ้าบริหารวัตถุดิบดีก็มีชัยไปเกินครึ่งล่ะค่ะการบริหาร จัดการ และควบคุมวัตถุดิบหลักๆมี 2 ช่วงคือช่วงที่1 – การคำนวณความยาวต่อหน่วยเพื่อสั่งซื้อวัตถุดิบ (material calculating)เป็นกระบวนการที่อยู่ภายใต้การดูแลของแผนกบริหารจัดการวัตถุดิบ เพื่อป้องกันการสั่งซื้อที่อาจเหลือหรือไม่เพียงพอต่อการผลิตจึงจำเป็นต้องมีการ คำนวณให้ถูกต้องและแม่นยำดังนี้1.วาดมาร์คเกอร์ซึ่งใช้แบบ(pattern)ที่สร้างขึ้นจริงสำหรับสไตล์ที่จะผลิต จำนวนตัวแบบของเสื้อหรืองานที่จะผลิตควรไม่น้อยกว่าสี่ตัวหรือได้ความยาวมาร์คเกอร์ประมาณแปดถึงสิบสองหลา โดยให้มีช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนของแบบในมาร์คเกอร์น้อยที่สุดซึ่งหมายถึงมีการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบนั้นอย่างเต็มที่ 2.จากนั้นนำข้อมูลการวาดมาร์คเกอร์มาคำนวณความยาวผ้าที่ต้องใช้ต่อเสื้อ 1ตัวดังนี้สูตร (ความยาวมาร์คเกอร์/จำนวนแบบของตัวเสื้อในมาร์คเกอร์)+ค่าเผื่อการสูญเสียตัวอย่าง มาร์คเกอร์ที่วาดได้ยาว 7.8 หลา ชิ้นส่วนของแบบที่อยู่ในมาร์คเกอร์สำหรับเสื้อ 4 ตัว เผื่อค่าสูญเสียสำหรับตัดเปลี่ยน 2% เผื่อสูญเสียการตัดหัว-ท้ายระหว่างปูผ้า 0.5% = (7.8/4)+(2.00%+0.5%) = (1.95+2.5%) = 1.99ดังนั้นความยาวที่ต้องการสำหรับผลิตเสื้อ 1 ตัวคือ 1.99 หลา------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ช่วงที่2 – การบริหารการจัดการวัตถุดิบก่อนการผลิต เป็นช่วงที่แผนกก่อนการผลิตหลายแผนกทำงานประสานกันเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการผลิตที่ฝ่ายวางแผนกำหนดไว้ขณะเดียวกันก็เป็นไปตามกระบวนการบริหารการจัดการวัตถุดิบที่สามารถใช้วัตถุดิบให้ได้ประโยชน์สูงสุด โดยฝ่ายและแผนกที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้ค่ะฝ่ายซีเอสพี (Customer service Supply chain & Planning)แผนกวางแผน (planning)แผนกโกดัง( warehouse section )แผนกตรวจม้วนผ้า (fabric rolls inspection)แผนกบริหารจัดการวัตถุดิบ(MM. section)แผนกแบบ (pattern section )แผนกซีเอ็มดี(computer marker & design)แผนกตัดเปลี่ยน (re-cut section)แผนกทำความสะอาดชิ้นตัดและเสื้อ (remove dirt)หน้าที่และบทบาทของแผนกก่อนการผลิตแต่ละแผนกมีดังนี้ค่ะ 1. ฝ่ายซีเอสพี(Customer service Supply chain & Planning Department)ทำหน้าที่รับออเดอร์จากลูกค้าแล้วนำรายละเอียดส่งให้แผนกวางแผนนำมาเข้าสู่แผนการผลิตบทบาทที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ฝ่ายซีเอสพียังทำหน้าที่สั่งซื้อวัตถุดิบโดยนำข้อมูลความยาวต่อหน่วยจากแผนกบริหารวัตถุดิบมาคำนวณปริมาณความต้องการสำหรับแต่ละออเดอร์อีกด้วย 2. แผนกวางแผนการผลิต (planning section)แผนกวางแผนการผลิตทำหน้าที่นำแผนการผลิตที่วางไว้มาสื่อสารและติดตามความคืบหน้ากับแผนกที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถบรรลุกำหนดวันส่งออกตามที่ตกลงกับลูกค้า โดยมีการกำหนดเวลาการทำงานของแต่ละแผนกและส่งแผนและทำให้เป็นปัจจุบัน(update)อยู่เสมอเมื่อมีการปรับเปลี่ยน3. แผนกโกดัง(warehouse section )แผนกโกดังนอกจากเป็นสถานที่เก็บวัตถุดิบและส่วนประกอบอื่นที่เกี่ยวข้องกับการผลิตแล้ว ยังมีหน้าที่สำคัญคือการวัดขนาดความกว้างและลายของผ้าเพื่อให้สามารถนำไปใช้กำหนดความกว้างของมาร์คเกอร์ได้อย่างถูกต้องและใช้ประโยชน์ของผ้าได้อย่างสูงสุดค่ะหากสร้างไฟล์หรือระบบให้เป็นข้อมูลศูนย์กลางสำหรับแผนกที่เกี่ยวข้องทุกแผนกสามารถเข้ามาเช็ครายละเอียดของผ้าทั้งสถานะจำนวนผ้าที่สั่งซื้อ จำนวนผ้าที่ได้รับ ตำแหน่งที่จัดเก็บ ยอดคงเหลือของผ้าได้ก็จะเป็นการสะดวกและรวดเร็วต่อการบริหารจัดการผ้านะคะ การจัดผังสำหรับเก็บวัตถุดิบก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ควรมีการจัดหมวดหมู่และแสดงข้อมูลของวัตถุดิบที่ชัดเจน เช่น ติดสติ๊กเกอร์บอกความกว้างของผ้าแต่ละม้วน ที่สำคัญคือตำแหน่งที่จัดเก็บ(Location)ต้องมีการทำให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ(update location) เพื่อลดการเสียเวลาในการค้นหาเมื่อแผนกโกดังจ่ายวัตถุดิบควรมีการออกแบบรถเข็นหรือระบบลำเลียงที่สามารถแบ่งจ่ายวัตถุดิบได้ตามปริมาณหรือจำนวนที่แผนกอื่นเบิกได้อย่างรวดเร็วและสะดวกในการส่งมอบ ทั้งนี้ควรมีการควบคุมงานคงค้างหรือดับบลิวไอพี(WIP)ในโกดังเพื่อให้มีพื้นที่ว่างเพียงพอในการรองรับวัตถุดิบที่จะเข้ามาใหม่ได้4.แผนกตรวจผ้า (fabric inspection section)การตรวจผ้านับว่าเป็นเข็มทิศและเครื่องมือที่สำคัญของการบริหารจัดการวัตถุดิบเลยก็ว่าได้ เนื่องจากแผนกตรวจผ้าทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพและให้แนวทางแก้ไขคุณภาพผ้า เช่นกรณีพบผ้าเปื้อนก็จะแนะนำวิธีการซักล้าง การจัดทำรายงานผลการตรวจผ้าควรง่าย สะดวกต่อการอ่าน มีข้อมูลที่พร้อมใช้และแม่นยำเช่นยอดผ้านำเข้า และยอดผ้าที่ตรวจได้จริงชนิดผ้า สี ตัวอย่างผ้า ความกว้าง-ยาวที่สั่งซื้อ และ ความกว้าง-ยาวที่ตรวจได้จริง- ผลการตรวจผ้า โดยแจ้งการยืดหรือหดของผ้า ปัญหาของผ้าที่ตรวจพบพร้อมตั้งค่าเผื่อการสูญเสียสรุป จากข้อมูลการบริหารและจัดการวัตถุดิบดังได้กล่าวมาข้างต้นทั้งช่วงที่1( การคำนวณความยาวต่อหน่วยเพื่อสั่งซื้อวัตถุดิบ)และช่วงที่2(การบริหารจัดการวัตถุดิบก่อนการผลิต) ผู้เขียนหวังว่าพอจะเป็นแนวทางทำให้ท่านผู้อ่านเกิดความเข้าใจและเห็นภาพการทำงานที่เชื่อมโยงและสอดประสานกันของฝ่ายและแผนกต่างๆ ในกระบวนการผลิตเสื้อผ้าไม่มากก็น้อยนะคะ สำหรับเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ก็สามารถนำมาแลกเปลี่ยนกันได้นะคะ หากสนใจบทความนี้ เตรียมตัวพบกับภาค2เร็วๆนี้นะคะ ขอบคุณค่ะ เครดิตภาพ ขอขอบคุณภาพประกอบสวยๆและช่วยทำให้บทความนี้สมบูรณ์ขึ้นค่ะภาพหน้าปก จาก : Fabio Santaniello Bruun / unsplashภาพประกอบ1 จาก : Nathan Dumlao / unsplashภาพประกอบ2 จาก : Parker Burchfield / unsplashภาพประกอบ3 จาก : Francois Le Nguyen / unsplashภาพประกอบ4 จาก : Jason Goodman / unsplashเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !