GED (General Educational Development) คืออะไร?GED คือการสอบเทียบวุฒิการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยวุฒินี้เทียบเท่ากับวุฒิการศึกษาระดับชั้นม.6 ของประเทศไทย โดยสอบเพียงแค่ 4 วิชาเท่านั้น! แล้วยังสามารถยื่นเข้ามหาลัยได้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ แล้วแต่เกณฑ์ของมหาลัยนั้นๆ อีกทั้งยังเริ่มสอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป แต่หากอายุยังไม่ถึง 18 ปี จะต้องยื่น Consent Form เผื่อรับรองการขออนุญาตจากผู้ปกครองค่าการสอบ GED จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการศึกษาต่อ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน Home School, นักแสดง, เทรนนี่, นักกีฬา หรือหากใครที่อยากจะค้นหาตัวเอง ให้เวลากับตัวเอง ลองทำสิ่งใหม่ๆ เช่น ไปเรียนต่างประเทศ ขายของออนไลน์ เลือกสอบ GED ถือเป็นเป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน GED ต้องสอบทั้งหมด 4 วิชา คะแนนเต็ม 200 คะแนน และทุกวิชาต้องได้คะแนน 145+ จึงจะผ่าน โดยข้อสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดรีวิวเนื้อหาของแต่ละวิชา และทริคในการอ่าน ทำความเข้าใจเนื้อหาให้สอบผ่านได้ภายในครั้งเดียว!1. Reasoning Through Language Arts (RLA) ใช้เวลาสอบ 150 นาที วิชา RLA คือวิชาภาษาอังกฤษ แต่นับว่าเป็นวิชาที่หินที่สุดจากทั้งหมด หลายๆคนเสียเงินให้กับวิชานี้นับครั้งไม่ถ้วน วิชา RLA ต้องชำนาญทั้งการอ่านและการเขียน โดยแบ่งได้เป็น 2 พาร์ทข้อสอบ Reading มีประมาณ 45 ข้อ เกี่ยวกับการอ่าน, วิเคราะห์บทความแล้วถามตอบ และหลักการใช้ Grammar วิธีฝึกทำให้แม่นยำคือการฝึกทำโจทย์ให้มาก ๆ อ่าน passage ให้เจ้าใจ วิเคราะห์ ตีโจทย์ให้แตก ส่วนตัวเราแค่จำไม่พอ ฝึกทำโจทย์เยอะ ๆ ไปเลยค่ะ ข้อสอบ Writing เขียน Essay 1 หัวข้อ เป็นการเขียนเรียงความเชิงโต้แย้งเป็นภาษาอังกฤษ ระหว่างการสอบทั้ง 2 พาร์ท จะมีเวลาพักให้ 10 นาที ในพาร์ทนี้ก็ควรฝึกบ่อย ๆ เช่นกันค่ะ หาโจทย์,หัวข้อฝึกเขียน Essay ตามอินเตอร์เน็ต อ่านบทความภาษาอังกฤษก็ช่วยได้มากในเรื่องการใช้ภาษา,คำศัพท์ค่ะ2. Mathematical Reasoning ใช้เวลาสอบ 115 นาทีวิชาคณิตศาสตร์ เนื้อหาการสอบจะมีทั้งโจทย์บวกลบคูณหาร ยกกำลัง สแควรูท, การแก้โจทย์ปัญหา, การแก้สมการต่างๆ, พีชคณิต, กราฟและฟังก์ชั่น และเรขาคณิต เช่น การหาพื้นที่ การหาความยาวรอบรูป ซึ่งวิชานี้สามารถใช้เครื่องเลขได้ สูตรไม่จำเป็นต้องจำมาเพราะจะมี Math Formula Sheet ให้ในตอนสอบ โดยแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทพาร์ทแรก มี 5 ข้อ ไม่สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ ที่มีแน่ๆคือโจทย์ที่ให้คิดหาคำตอบ โดยใช้ Order of operations ที่เหลือจะเป็นเนื้อหาอื่นปะปนกันไป ควรฝึกคิดมือไว้เยอะๆก็ไม่เสียหายพาร์ทที่ 2 จะมีประมาณ 40-45 ข้อ สามารถใช้เครื่องคิดเลขได้ ในพาร์ทนี้คือฝึกทำโจทย์เยอะ ๆ เลยค่ะ ยิ่งเจอโจทย์มากยิ่งชำนาญ 3. Science ใช้เวลาสอบ 90 นาทีวิชาวิทยาศาสตร์ เป็นวิชาที่ใช้ทักษะในการอ่านสูงมาก เพราะมีการใช้ศัพท์ทางวิทยาศาสตร์ค่อนข้างเยอะ ข้อสอบส่วนใหญ่จะต้องอ่าน Passage แล้วตอบ วิชานี้จะมีการตอบแบบ Short Answer เป็นการสรุปเนื้อหาที่โจทย์ให้มา เนื้อหาหลัก ๆ มี 3 เนื้อหาLife Science ชีววิทยาทั่วไปPhysical Science ฟิสิกส์ทั่วไปEarth and Space Science โลกและดาราศาสตร์โดยรวมแล้วโจทย์จะคล้าย ๆ กันคือหาคำตอบจากการอ่าน passage ต้องจำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์จากทั้ง 3 เนื้อหาไปเยอะ ๆ เลยค่ะ4. Social Studies ใช้เวลาในการสอบ 70 นาทีวิชาสังคมศึกษาโดยจะเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ การเมือง ภูมิศาสตร์ สังคมและวัฒนธรรมของประเทศอเมริกาและโลก จำเนื้อหาอย่างเดียวเลยค่ะข้อสอบส่วนใหญ่เป็น Passage ให้อ่านและวิเคราะห์ข้อมูล ควรอ่านบทความทางประวัติศาสตร์,การเมืองภาษาอังกฤษบ่อย ๆ เรียนรู้ศัพท์ใหม่ ๆ เสมอนะคะ สรุปวิธีการสอบ GED คร่าว ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ1. สมัคร Account ในเว็บไซต์ https://ged.com/ต้องอายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไปจึงจะสมัคร Account ได้ใช้อีเมลในการสมัคร Account หลังจากนั้นให้กรอก Personal Information ให้ถูกต้องและครบถ้วนตลอดการสอบ GED จะใช้เว็บไซต์นี้ทำหลายอย่าง เช่น ยืนยันอายุ, สมัครสอบ, จองสอบ และมีข้อสอบฟรีให้ฝึกทำ1.5 สำหรับใครที่ต้องการสอบแต่ยังอายุไม่ถึง 18 ปี จะต้องยื่น Agreement and Parental Consent formAgreement and Parental Consent form คือ ใบขออนุญาตความยินยอมจากผู้ปกครอง ซึ่งต้องยื่นให้ผ่านจึงจะสามารถสมัครสอบได้ ยื่นยิ่งเร็วยิ่งดีค่ะ หากต้องการจะสอบเพราะแต่ละคนใช้เวลาตรวจสอบไม่เท่ากัน บางคนไม่ถึงอาทิตย์ แต่บางคนก็นานเป็นเดือน ดาวน์โหลดและพรินต์เอกสารจาก ged.comกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้องแสกนเอกสาร ตรวจเช็คว่ามีข้อมูลตรงไหนไม่ชัดเจนไหม แล้วส่งไปที่อีเมล help@ged.com ทาง GED จะตอบกลับมาทางอีเมลเรามายืนยัน เมื่อได้รับเอกสารแล้วหลังจากนั้น GED จะส่งอีเมลกลับมาหาเราอีกครั้ง ถ้าเรายื่น Consent Form ผ่านแล้ว และลองไปเช็คในเว็บ GED ว่าอนุญาตหรือยังหากไม่มีการตอบกลับ ลองเช็คเอกสารที่ส่งไปว่ากรอกข้อมูลผิดไปตรงไหน ข้อมูลตรงไหนไม่ชัดเจน แล้วลองส่งไปอีกครั้ง2. เตรียมตัวสำหรับการสอบ อ่านหนังสือ/ชีทสรุป ทบทวนจนแม่นยำสำหรับการเตรียมตัวสอบ GED ทำได้หลากหลายวิธี แล้วแต่ตัวผู้สอบสะดวกแบบไหน เช่นลงเรียนกับสถาบันติวเตอร์ที่มีการติวสอบ GED โดยเฉพาะเรียนด้วยตัวเอง ซื้อหนังสือมาอ่านเอง ดูคลิปสอนฟรีตาม Youtube ทริคเพิ่มเติมสำหรับคนที่เรียนด้วยตัวเอง สามารถหาซื้อชีทสรุป/คอร์สเรียนราคาน่ารักได้ตาม Twitter, IG โดยการค้นหาตาม #GED #สอบGEDสำหรับคนที่มีข้อสงสัยแต่ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร สามารถเข้ากลุ่ม Facebook , Line Openchat ที่เกี่ยวกับการสอบ GED เพื่อเข้าไปสอบถามหรือหาเพื่อนในกลุ่มที่กำลังสอบ,สอบผ่านเรียบร้อยแล้ว3. สอบ GED Readyก่อนที่จะไปสอบ GED ที่ศูนย์จะต้องสอบ GED Ready ของวิชานั้นๆให้ผ่านค่ะ เป็นการสอบออนไลน์ด้วยตัวเอง ข้อสอบของ GED Ready จะเหมือนข้อสอบจริง แต่ลดจำนวนข้อและเวลาลงครึ่งนึง จะต้องทำคะแนนให้ได้มากกว่า 155 คะแนน จึงจะสามารถจองสอบจริงได้ค่าสอบ GED Ready วิชาละ $6.99สมัครได้ที่ app.ged.com4. สมัครสอบ GED คะแนนเต็ม 200 ต้องสอบให้ได้ 145+ คะแนนหลังจากสอบ GED Ready ผ่านเรียบร้อยแล้ว จะสามารถจองสอบได้โดยกดที่ Schedule test ผ่านทางเว็บไซต์ของ GED ค่าสอบ GED วิชาละ $80เมื่อชำระเงินค่าสอบเรียบร้อยแล้ว จะต้องเลือกศูนย์สอบโดย GED จะเลือกศูนย์สอบที่ใกล้ที่สุด อิงจากที่อยู่ที่เรากรอกไว้หลังจากเลือกศูนย์สอบเรียบร้อยแล้ว จะต้องเลือกวันและเวลาสอบ ซึ่งสอบได้เกือบทุกวัน ทุกเวลา จะแตกต่างกันไปในแต่ละศูนย์สอบ ควรตรวจเช็คให้ดีเมื่อจองสอบเรียบร้อยแล้ว จะมีอีเมลมายืนยันอีกทีว่าเราได้จองสอบไปแล้ว5. สอบ GED ต้องเตรียมอะไรบ้าง?สำคัญที่สุด! ห้ามลืมพาสปอร์ตไว้เพื่อยืนยันตัวตนก่อนสอบ ควรไปก่อนเวลาสอบสัก 30 นาที เผื่อเวลายืนยันตัวตนสอบ GED จะเป็นการสอบด้วยคอมพิวเตอร์ ไม่จำเป็นต้องเตรียมเครื่องเขียนไปวิชาที่ต้องใช้กระดาษทด ทางศูนย์สอบจะเตรียมไว้ให้เมื่อสอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว คะแนนจะบอกมาในเว็บของ GED เวลาในการตรวจข้อสอบจะแตกต่างกันไปในแต่ละวิชา โดยรวมแล้วอาจจะได้รู้ภายในวันสอบ ยกเว้นวิชา RLA ที่ต้องใช้เวลาตรวจนานหลายวัน6. สอบผ่านครบทุกวิชาแล้วทำยังไงต่อ?เมื่อสอบผ่านทั้ง 4 วิชาแล้ว เปรียบได้ว่าคุณนั้นได้เรียนจบมัธยมปลายเป็นที่เรียบร้อยทาง GED จะส่ง E-Diploma และ E-Transcript มาให้ทางอีเมลภายใน 1 เดือนหลังสอบผ่านครบแล้ว หากอยากได้เป็นแบบ Paper ก็สามารถขอได้ โดยจะมีค่าส่งและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการขอสามารถนำ E-Diploma และ E-Transcript ไปใช้ยื่นเข้ามหาลัยและเทียบวุฒิได้ Made by canvaข้อมูลจาก ประสบการณ์ของผู้เขียนภาพปก, ภาพประกอบ 1-5โลโก้ จาก ged.com Art Work จาก Sketchify Education by canvaArt Work จาก sketchify by canvaArt Work จาก pixabay by canvaภาพประกอบ 4 เพิ่มเติมkaptest.comภาพประกอบ 5 เพิ่มเติมwashingtondcapostille.comอัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !