จับเขมร 13 คน ลักลอบเข้าไทยเพื่อไปทำงาน กทม. ชลบุรีและสมุทรสาคร
สระแก้ว – เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1205 จับกุมแรงงานชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย 13 คน เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และสมุทรสาคร ถูกเรียกค่าหัวจากผู้นำพารายละ 2,000 บาท สุดท้ายเจ้าหน้าที่ทำได้แค่นำไปสอบสวนและลงบันทึก ก่อนจะนำตัวไปผลักดันกลับประเทศเท่านั้น
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการชุดควบกรมทหารพรานที่ 12 ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยขึ้นตรงเพิ่มมาตรการเข็มงวดตามแนวชายแดนหลังช่วงสงกรานต์ที่มีชาวกัมพูชาบางส่วนได้เดินทางกลับประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ล่อแหลมและป้องกันสิ่งผิดกฎหมาย ตาม พรบ.ฉุกเฉินฯ และมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 โดย รท.ไกร อินทร์นอก ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 1205 กรมทหารพรานที่ 12 พร้อมกำลังพลจากเจ้าหน้าที่ ร้อย ทพ.1205 ได้ทำการลาดตระเวน บริเวณเส้นทางบ้านดงงู- บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดกฎหมายต่าง ๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และตรวจพบแรงงานชาวกัมพูชาพร้อมกระเป๋าเดินทาง หลบซ่อนอยู่บริเวณไร่อ้อย จำนวน 13 คน แบ่งเป็น ชาย 8 คน , หญิง 5 คน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบถามแรงงานชาวกัมพูชาดังกล่าว พบว่า ทุกคนไม่มีเอกสารการเดินทางแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้นำแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด ไปที่ สภ.คลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อสอบสวนและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยแรงงานชาวกัมพูชารายหนึ่ง บอกว่า สาเหตุที่ลักลอบเดินทางเข้ามาประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ โดยมีนายหน้าเป็นชาวกัมพูชา ไม่ทราบชื่อนามสกุล พาเดินลัดเลาะเข้ามาตามป่า และให้หลบซ่อนอยู่ในไร่อ้อย แล้วจะมีรถยนต์มารับ เพื่อที่จะเดินทางไปทำงานที่ กทม. , จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรสาคร เป็นต้น โดยได้จ่ายเงินให้กับนายหน้า ในการเดินทาง คนละ 2,000 บาทด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายแล้ว เจ้าหน้าที่ ร้อย ทพ.1201 จึงได้นำแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมด ส่งกลับประเทศกัมพูชา ทาง จุดตรวจ ส.38 ช่องอนุโลมบ้านโนนหมากมุ่น ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จว.สระแก้ว ต่อไป
—————————–