วิธีลดภาวะโลกร้อน มีอะไรบ้าง จากเรื่องใกล้ตัว | บทความโดย ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล ภาวะโลกร้อน คือ การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิง การผลิตในโรงงาน และการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ถูกกักเก็บไว้ในชั้นบรรยากาศมากขึ้น เปรียบเสมือนโลกถูกห่อหุ้มด้วยผ้าห่มหนาๆ ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ได้แก่ สภาพอากาศแปรปรวน: อุณหภูมิสูงขึ้น ฝนตกหนัก น้ำท่วม ความแห้งแล้ง และคลื่นความร้อนรุนแรง ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น: ภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และเกิดน้ำท่วมชายฝั่ง ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง: สัตว์และพืชหลายชนิดไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ ทำให้สูญพันธุ์ ภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น: พายุเฮอร์ริเคน แผ่นดินไหว และสึนามิ เกิดบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น สุขภาพของมนุษย์เสื่อมโทรม: ภาวะโลกร้อนทำให้เกิดโรคระบาดใหม่ๆ เช่น โรคมาลาเรีย โรคไข้เลือดออก และโรคที่เกี่ยวข้องกับความร้อน ซึ่งการลดภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งต่อชีวิตของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ บนโลก เพราะภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศในวงกว้าง และภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลก หากเราไม่ร่วมมือกันแก้ไข ปัญหาจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลกระทบต่อลูกหลานของเราในอนาคต โดยการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความร่วมมือจากทุกคน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล องค์กรภาคเอกชน หรือประชาชนทั่วไป เพราะทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับอนาคตค่ะ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่า ถ้าเราจะช่วยกันลดปัญหาภาวะโลกร้อนจากเรื่องใกล้ตัวมีอะไรบ้าง โดยวิธีการที่ผู้เขียนจะได้นำเสนอไว้ในบทความนี้ หากคุณผู้อ่านได้ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว จะพบว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากจนเกินไปที่จะลงมือทำค่ะ และต่อไปนี้คือแนวทางที่น่าสนใจเพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อนค่ะ 1. ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า การลดการใช้ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญและง่ายที่สุดในการช่วยลดภาวะโลกร้อนค่ะ เพราะการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่มักจะมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ซึ่งการเผาไหม้เชื้อเพลิงเหล่านี้จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ เป็นการเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่กักเก็บความร้อน ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น และส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนในที่สุด เมื่อเราลดการใช้ไฟฟ้าก็เท่ากับว่า เราลดความต้องการในการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าที่เผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งจะส่งผลให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาน้อยลงตามไปด้วย และการลดการใช้ไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถทำได้ และเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าไฟฟ้าแล้ว ยังช่วยรักษาโลกของเราให้สวยงามและน่าอยู่สำหรับคนรุ่นหลังอีกด้วย ลองนึกภาพว่าถ้าทุกคนในบ้านช่วยกันปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากแค่ไหนค่ะ การหันมาใช้หลอด LED เพราะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไส้ การเปลี่ยนหลอดไฟในบ้านทั้งหมดเป็นหลอด LED จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างเห็นได้ชัด เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปค่ะ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้ แม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในโหมดสแตนด์บาย ก็ยังคงกินไฟอยู่เล็กน้อยค่ะ ดังนั้นการถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้จะช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น 2. ลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง การลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่สุดในการช่วยลดภาวะโลกร้อนค่ะ เพราะการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลิตไฟฟ้าหรือขับเคลื่อนยานพาหนะ จะปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศจำนวนมาก ก๊าซเหล่านี้จะไปกักเก็บความร้อนจากดวงอาทิตย์ไว้ไม่ให้ระบายออกไป ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นและเกิดภาวะโลกร้อน เมื่อเราลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง ก็เท่ากับว่าเราลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งจะช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนได้ และตัวอย่างวิธีการลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิง: ลดการใช้รถยนต์: หันมาใช้จักรยาน รถสาธารณะ หรือ ร่วมกันใช้รถคันเดียวกันในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ใกล้เคียงกันแทน ประหยัดน้ำมัน: ขับรถด้วยความเร็วที่เหมาะสม ตรวจเช็คลมยางให้ถูกต้อง ใช้พลังงานทดแทน: เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง 3. ลดการใช้ทรัพยากรน้ำ การลดการใช้ทรัพยากรน้ำเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญในการช่วยลดภาวะโลกร้อนนะคะ แม้ว่าในใจเราอาจจะคิดว่าดูไม่เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่จริงๆ แล้วการใช้น้ำของเรามีส่วนเชื่อมโยงกับการผลิตไฟฟ้าและกระบวนการทางอุตสาหกรรมหลายอย่างที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนค่ะ เพราะโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลายแห่งต้องใช้ปริมาณน้ำจำนวนมากในการผลิตกระแสไฟฟ้า การลดการใช้น้ำจะช่วยลดความต้องการในการผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานเหล่านี้ และอาจส่งเสริมให้หันไปใช้พลังงานทดแทนอื่นๆ ที่สะอาดกว่า เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานลม อุตสาหกรรมหลายประเภท เช่น การผลิตอาหาร การผลิตกระดาษ หรือการผลิตเหล็ก ต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมากในการผลิตสินค้า การลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตเหล่านี้จะช่วยลดการปล่อยมลพิษและลดการใช้พลังงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำ การเกษตรเป็นภาคส่วนที่ใช้น้ำเป็นปริมาณมาก การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในภาคการเกษตร เช่น การใช้น้ำหยด หรือการปรับปรุงระบบชลประทาน จะช่วยลดการสูญเสียน้ำ และลดความต้องการในการผลิตน้ำเพิ่มเติม การผลิตอาหารหลายชนิด เช่น เนื้อวัว ต้องใช้น้ำจำนวนมากในการเลี้ยงสัตว์ การลดการบริโภคเนื้อสัตว์จะช่วยลดความต้องการใช้น้ำในภาคการเกษตร และลดการปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกชนิดหนึ่งที่เกิดจากการย่อยอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้อง ดังนั้นการลดการใช้น้ำจึงเป็นการลดความต้องการในการผลิตน้ำ และลดการใช้พลังงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตน้ำ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนได้ในที่สุดค่ะ 4. ลดการใช้พลาสติก การลดการใช้พลาสติกเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการช่วยลดภาวะโลกร้อนค่ะ ถึงแม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่การลดการใช้พลาสติกของแต่ละคนก็ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้างได้นะคะ และเหตุผลที่การลดการใช้พลาสติกช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เพราะว่าการผลิตพลาสติกต้องใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกชนิดอื่นๆ ที่กักเก็บความร้อนในชั้นบรรยากาศ ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นและเกิดภาวะโลกร้อน เมื่อพลาสติกถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม การย่อยสลายของพลาสติกจะใช้เวลานานมาก และในระหว่างการย่อยสลายก็จะปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ การเผาขยะพลาสติกเพื่อกำจัดเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก พลาสติกที่ถูกทิ้งลงสู่ทะเลจะสลายตัวเป็นไมโครพลาสติก ซึ่งจะดูดซับสารพิษต่างๆ และเข้าสู่ห่วงโซ่อาหาร ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล และในที่สุดก็ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ และวิธีลดการใช้พลาสติก เช่น ปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติก: หันมาใช้ถุงผ้าหรือกระเป๋าผ้าแทน ลดการใช้หลอดพลาสติก: ใช้หลอดสแตนเลสหรือหลอดกระดาษแทน หลีกเลี่ยงการใช้ภาชนะพลาสติก: ใช้กล่องอาหารกลางวันแบบสแตนเลส หรือภาชนะแก้วแทน ซื้อสินค้าที่บรรจุในภาชนะที่ย่อยสลายได้: เช่น ภาชนะที่ทำจากกระดาษหรือไม้ไผ่ เลือกซื้อสินค้าที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์พลาสติก: หรือเลือกซื้อสินค้าที่บรรจุภัณฑ์น้อยที่สุด 5. ปลูกต้นไม้ การปลูกต้นไม้เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุดในการช่วยลดภาวะโลกร้อนค่ะ ต้นไม้เปรียบเสมือนโรงงานผลิตออกซิเจนและดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกตัวสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน ต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง และกักเก็บคาร์บอนไว้ในเนื้อไม้ การลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศจะช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะเดียวกัน ต้นไม้ก็ปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมาสู่บรรยากาศ ทำให้อากาศบริสุทธิ์และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ต้นไม้ช่วยลดอุณหภูมิของพื้นดินและอากาศโดยรอบ เนื่องจากใบของต้นไม้จะคายน้ำออกมา ทำให้เกิดความชื้นและช่วยลดความร้อน รากของต้นไม้ช่วยยึดดินไว้ ทำให้ดินไม่ถูกชะล้างไป และช่วยป้องกันการเกิดดินถล่ม ป่าไม้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด การปลูกป่าช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ ดังนั้นการปลูกต้นไม้เป็นเรื่องง่ายที่ทุกคนสามารถทำได้ และเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่ออนาคตของโลกของเราค่ะ 6. เลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในวิธีง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ค่ะ การเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการกำจัดขยะ ทำให้เราสามารถลดปริมาณขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรักษาทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน เนื่องจากสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมักผลิตจากกระบวนการที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียน หรือการลดขั้นตอนการผลิตที่สิ้นเปลืองพลังงาน สินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ หรือสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ จะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม สินค้าบางชนิดผลิตจากวัสดุรีไซเคิล หรือวัสดุธรรมชาติที่สามารถทดแทนได้ ทำให้ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมัน ป่าไม้ เมื่อผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะเป็นการสนับสนุนให้ผู้ผลิตหันมาผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นค่ะ และตัวอย่างของวิธีเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่ มองหาฉลากและสัญลักษณ์: สังเกตฉลากหรือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ฉลากเขียว, สัญลักษณ์รีไซเคิล, หรือสัญลักษณ์ที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์ทำจากวัสดุธรรมชาติ อ่านฉลากสินค้า: อ่านฉลากสินค้าเพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับส่วนประกอบและกระบวนการผลิต เลือกสินค้าที่บรรจุภัณฑ์น้อย: เลือกสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยที่สุด หรือเลือกสินค้าที่บรรจุภัณฑ์สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ซื้อสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น: การซื้อสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่นจะช่วยลดระยะทางในการขนส่งและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซ่อมแซมมากกว่าทิ้ง: เมื่อสินค้าเสียหาย ลองซ่อมแซมก่อนที่จะซื้อใหม่ เลือกเช่าแทนซื้อ: สำหรับสินค้าที่ใช้เพียงครั้งคราว เช่น เครื่องมือช่าง หรือชุดราตรี ลองเลือกใช้บริการเช่าแทนการซื้อ 7. รีไซเคิล การรีไซเคิลเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญในการช่วยลดภาวะโลกร้อน เพราะเป็นการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ ลดการผลิตสินค้าใหม่ และลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรักษาทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน การรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพราะการผลิตสินค้าใหม่ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน ช่วยลดความต้องการในการผลิตสินค้าใหม่ ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ การรีไซเคิลช่วยประหยัดพลังงาน เพราะการผลิตผลิตภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิลใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตจากวัตถุดิบใหม่ เช่น การผลิตกระดาษจากเศษกระดาษใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตกระดาษจากไม้ ช่วยลดการตัดไม้ทำลายป่า ลดการขุดเจาะน้ำมัน และลดการใช้แร่ธาตุต่างๆ การรีไซเคิลช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกฝังกลบ หรือเผาทำลาย ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทนจากการย่อยสลายของขยะในหลุมฝังกลบ การรีไซเคิลช่วยลดปริมาณขยะจะช่วยลดมลพิษทางน้ำ ทางดิน และทางอากาศ ช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และปกป้องระบบนิเวศ 8. ประหยัดกระดาษ การประหยัดกระดาษเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่เราทุกคนสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ค่ะ การลดการใช้กระดาษจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมในหลายด้านเลยนะคะ การผลิตกระดาษต้องใช้ไม้เป็นวัตถุดิบหลัก การลดการใช้กระดาษจะช่วยลดความต้องการในการตัดไม้ ทำให้ป่าไม้ซึ่งเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังคงอยู่ กระบวนการผลิตกระดาษต้องใช้พลังงานจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การลดการผลิตกระดาษจึงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ การลดการใช้กระดาษจะช่วยลดปริมาณขยะที่ถูกทิ้งลงสู่สิ่งแวดล้อม ทำให้ลดภาระในการจัดการขยะและลดมลพิษ การผลิตกระดาษรีไซเคิลใช้พลังงานน้อยกว่าการผลิตกระดาษจากไม้ใหม่ การประหยัดกระดาษจึงเท่ากับช่วยประหยัดพลังงาน โดยวิธีประหยัดกระดาษที่เราสามารถทำได้ เช่น พิมพ์สองหน้า: ก่อนพิมพ์เอกสาร ลองพิจารณาว่าจำเป็นต้องพิมพ์เป็นหน้าเดียวหรือไม่ หากเป็นไปได้ ให้พิมพ์สองหน้าเพื่อประหยัดกระดาษ ใช้กระดาษรีไซเคิล: เลือกใช้กระดาษรีไซเคิลในการพิมพ์และทำสำเนาเอกสาร ลดการใช้กระดาษทด: หากจำเป็นต้องใช้กระดาษทด ลองใช้กระดาษที่ใช้แล้วด้านหนึ่งก่อน ใช้ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์: แทนที่จะพิมพ์เอกสารออกมา ให้ใช้ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ในการทำงานและส่งต่อข้อมูล ลดการใช้ใบปลิว: ปฏิเสธใบปลิวที่ไม่จำเป็น นำกระดาษที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่: ตัดกระดาษที่ใช้แล้วเป็นแผ่นเล็กๆ เพื่อใช้จดบันทึก หรือทำเป็นงานฝีมือ 9. สร้างจิตสำนึกให้คนรอบข้าง การสร้างจิตสำนึกให้คนรอบข้างช่วยลดภาวะโลกร้อนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่เราทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขค่ะ การปลูกฝังให้คนตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและร่วมกันลงมือทำ จะช่วยให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายในการลดภาวะโลกร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการกระทำเป็นสิ่งที่ทรงพลังที่สุด การที่เราปฏิบัติตามหลักการลดภาวะโลกร้อนในชีวิตประจำวัน เช่น การลดการใช้พลาสติก การประหยัดน้ำและไฟฟ้า การคัดแยกขยะ การเลือกซื้อสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็จะส่งผลให้คนรอบข้างเห็นเป็นแบบอย่างและอยากทำตามค่ะ และนั่นคือตัวอย่างของแนวทางที่สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ค่ะ ปกติที่นี่ผู้เขียนแยกขยะรีไซเคิลเอาไว้ขายนะคะ ปลูกผักสวนครัว ปลูกต้นไม้ พยายามใช้แสงตามธรรมชาติให้มากที่สุดในช่วงกลางวัน เพื่อลดการเปิดไฟค่ะ ส่วนเรื่องการลดการกระดาษก็ทำค่ะ โดยพยายามบันทึกสิ่งต่างๆ ลงในแอป ใช้กระดาษซ้ำจนคุ้มค่า ที่โดยสรุปแล้วแนวทางข้างต้นทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ค่ะ และผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากชอบบทความแบบนี้อีก ก็อย่าลืมกดติดตามหรือกดบุ๊กมาร์กหน้าโปรไฟล์ไว้นะคะ เพราะจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ที่จะได้นำมาเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ค่ะ เครดิตภาพประกอบบทความ ภาพหน้าปก โดย Artem Podrez จาก Pexels ภาพประกอบเนื้อหา: ภาพที่ 1 โดย Riki Risnandar จาก Pexels, ภาพที่ 2 โดย Castorly Stock จาก Pexels และภาพที่ 3-4 โดยผู้เขียน ออกแบบภาพหน้าปกโดยผู้เขียนใน Canva เกี่ยวกับผู้เขียน ภัคฒ์ชาลิสา จำปามูล จบการศึกษา: พยาบาลศาสตรบัณฑิต จากวิทยาลัยพยาบาลศรีมหาสารคาม กระทรวงสาธารณสุข และสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต (อนามัยสิ่งแวดล้อม) จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีความสนใจและประสบการณ์เกี่ยวกับ: สุขภาพ จิตวิทยาเชิงบวก การจัดการน้ำเสียและสิ่งปฏิกูล บทความอื่นที่น่าสนใจโดยผู้เขียน https://news.trueid.net/detail/eqGWa7Kr8N1q https://news.trueid.net/detail/z6J0BQpWBx7X https://news.trueid.net/detail/oajwBkkj8qpQ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !