ข้อควรรู้ก่อนที่จะเรียนหมอ อ่านสักนิดเพื่อพิชิตความฝัน สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมาพูดข้อควรรู้ก่อนที่เราจะเรียนหมอกันนะคะ ซึ่งข้อควรรู้ที่ว่านี้เป็นหัวใจหลักสำคัญสำหรับคนที่อยากจะเรียนหมอต้องทราบเลยก็ว่าได้ค่ะ เรามาดูกันดีกว่านะคะว่าข้อควรรู้สำหรับคนที่อยากจะเรียนหมอต้องทราบนี้มีอะไรกันบ้างค่ะ1.ผ่าตัดเจอเลือดที่มาของภาพ เว็บไซต์ pixabay เพราะในปกติแล้วเวลาที่เราเรียนหมอนั้น เราจะได้ผ่าตัดอาจารย์ใหญ่ที่ไม่เลือดแล้วซึ่งตรงนี้หลาย ๆ คนก็อาจจะผ่านไปได้ค่ะแต่พอเราขึ้นไปสู่ชั้น clinic แล้วเราต้องเจอกับการผ่าตัดแบบที่ต้องมีเลือดซึ่งจะไม่เหมือนกับการผ่าตัดอาจารย์ใหญ่เลย เพราะตอนที่ผ่าตัดอาจารย์ใหญ่เราได้สัมผัสอวัยวะจริงแต่ไม่มีเลือดเลยมีแต่นิดเดียวค่ะ ใครที่กลัวเลือดข้อนี้ก็ต้องคิดให้ดี ๆ นะคะ2.เจอหนอง ปัสสาวะ และอุจจาระของผู้ป่วยที่มาของภาพ เว็บไซต์ pixabay บางครั้งในการผ่าตัดเราอาจจะต้องเจอทั้งเลือดและหนองที่ทะลักออกมาจากแผลของผู้ป่วย หรืออาจจะต้องสวนรูทวารหนักเพื่อนำเอาอุจจาระของผู้ป่วยมาดูว่ามีเลือดปนหรือไม่ หรืออาจจะต้องนำปัสสาวะของผู้ป่วยไปส่องกล้องเพื่อตรวจดู หลายคนก็อาจจะมองว่าทำไมเราถึงต้องมาอยู่กับของเสียของผู้ป่วยแบบนี้แต่ในทางการแพทย์แล้วการตรวจของเสียเหล่านี้มีความสำคัญต่อการรักษาทางการแพทย์เป็นอย่างมากค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่คิดจะเรียนหมอต้องทำใจไว้เลยนะคะ เพราะสุดท้ายแล้วเราต้องเจอแน่นอนค่ะ3. การอดหลับอดนอนที่มาของภาพ เว็บไซต์ pixabay การอดหลับอดนอนจะเริ่มต้นอย่างจริงจังเมื่อเราอยู่ในชั้นปีที่ 6 หรือที่เรียกว่า แพทย์ Extern ค่ะการเข้าเวรนั้นสำหรับวันไหนที่เวรยุ่งมาก ๆ พูดได้เลยว่าเราจะแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลยทีเดียว แถมตอนเช้ายังต้องอาบน้ำ ล้างหน้าเพื่อตื่นไปทำงานต่อค่ะ ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นการทำงานที่ทรมานและต้องรับมันให้ได้นะคะ4.ต้องตื่นเช้าทุกวัน เนื่องจากว่าเราต้องตื่นมาตรวจคนไข้ในทุก ๆ วันนะคะวันหยุดเราก็แทบจะไม่มีกับเขาเลยเพราะว่า การตรวจดูอาการคนไข้นั่นเป็นการประเมินและวางแผนการรักษาคนไข้ค่ะ เราไม่สามารถหยุดตรวจคนไข้ได้เลย เนื่องจากว่าทุก ๆ วันอาการของคนไข้ก็จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม5.ความเครียดจาการปรับตัวที่มาของภาพ เว็บไซต์ pixabay ความเครียดในการปรับตัวส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นในช่วงปี 3 จะขึ้นปี 4 ค่ะ เพราะการใช้ชีวิตต่าง ๆ ของเราจะเปลี่ยนแปลงไปหมดเลย ซึ่งการเรียนในชั้นปีที่ 3 จะแตกต่างจากการเรียนในชั้นปีที่ 4 เพราะว่าในช่วงชั้นปีที่ 1-3 นั้นเราเรียนกันในห้องเรียนแต่เมื่อขึ้นปี 4 แล้วต้องออกไปเรียนในโรงพยาบาลไปเจอกับผู้ป่วยจริง ๆ เลยค่ะแถมยังจะได้เจอกับข้อ 1-4 ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นอีกด้วยนะคะ สำหรับใครที่คิดว่าอยากจะเรียนหมอก็ลองถามตัวเองดี ๆ นะคะว่ายอมรับกับสิ่งที่ได้กล่าวมาข้างต้นได้หรือไม่ ถ้ายอมรับได้ก็ขอให้ทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จนะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของน้อง ๆ ที่กำลังจะเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยกันนะคะ