รีเซต

ปตท. หัวหอกเศรษฐกิจไทย อัด 1.02 แสนล. ลงทุน 5 ปี

ปตท. หัวหอกเศรษฐกิจไทย อัด 1.02 แสนล. ลงทุน 5 ปี
มติชน
17 ธันวาคม 2564 ( 07:56 )
37

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. มีมติอนุมัติแผนวิสาหกิจและงบลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2565-2569) วงเงิน 102,165 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินลงทุนในหน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติร้อยละ 45 ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ร้อยละ 20 ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ร้อยละ 2 ธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานและสำนักงานใหญ่ ร้อยละ 8 และการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ร้อยละ 25

 

โดย ปตท. พร้อมเดินหน้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่  เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า ด้วยการลงทุนในธุรกิจหลัก (Core Businesses) เพื่อความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 และโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 8 ซึ่งนำก๊าซธรรมชาติเหลว (“LNG”) มาแยกเป็นผลิตภัณฑ์อีเทนและแอลพีจี รวมถึงถังเก็บผลิตภัณฑ์อีเทนและสถานีรับจ่ายเพื่อเพิ่มความสามารถในการนำเข้าผลิตภัณฑ์อีเทน

 

รวมทั้งโครงการท่อส่งก๊าซฯ บางปะกง-โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5  ทั้งยังมีการลงทุนผ่านบริษัท ที่ ปตท. ถือหุ้น 100% อาทิ การขยายขีดความสามารถของสถานีรับจ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งที่ 2 (หนองแฟบ) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 และโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3

 

นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้าอีกจำนวน 238,032 ล้านบาท ตามกรอบวิสัยทัศน์  Powering Life with Future Energy and Beyond  ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต  มุ่งเน้นธุรกิจพลังงานสะอาด ประกอบด้วย การลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน  โดยวางเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็น 12,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573  และลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร

 

ตลอดจนการขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นพลังงานเปลี่ยนผ่าน (Transition Fuel) โดยมุ่งเน้นในการขยายโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติ(ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของภาครัฐ)และการขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวอย่างครบวงจร (LNG Value Chain) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

และขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นนอกเหนือจากพลังงาน อาทิ ธุรกิจ Life science (ยา Nutrition อุปกรณ์และการวินิจฉัยทางการแพทย์) เพื่อการขับเคลื่อนธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ให้เกิดขึ้นในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน  รวมถึงธุรกิจโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐาน อีกด้วย

 

ในส่วนของการดำเนินงานเพื่อบรรเทาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากวิกฤตโควิด-19 กลุ่ม ปตท. ยังคงเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง อาทิ โครงการ “Restart Thailand” ปีที่ 2  เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ เสริมทักษะและสร้างความมั่นคงทางอาชีพให้นักศึกษาจบใหม่และผู้ว่างงานรวมกว่า 23,000 อัตรา โดยรับสมัครผ่าน www.pttbsa.com จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564

 

และร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านโครงการ Refresh and Energize for The New Normal โดย ปตท. จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนเพื่อให้พนักงานได้ใช้วันลาพักร้อนท่องเที่ยวในประเทศ  ช่วยเสริมสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค

ตลอดจน โครงการลมหายใจเดียวกัน  เดินหน้าหน่วยคัดกรองโควิด-19 โรงพยาบาลสนามครบวงจร และสายด่วน 1745 “End-To-End Mobile@1745” เพื่อเสริมความเข้มแข็งของสาธารณสุขไทย  สนับสนุนนโยบายเปิดประเทศ  ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ  ให้เราผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน