ภาพโดย Minion around chic ศาลาแก้วกู่ รูปปั้นแห่งความศรัทธาของชาวหนองคาย สวัสดีค่ะ ผู้อ่านที่น่ารักทุกคน ใครที่คิดจะมาเที่ยวหนองคายก็พลาดไม่ได้ที่จะแวะมาเที่ยวศาลาแก้วกู่นะคะ ที่นี้นอกจากปูนปั้นเทวาลัยแล้วก็มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่างค่ะ บริเวณทางเข้าจะมีของขายเป็นของจำพวกเสื้อ ผ้าถุงลายสวย ๆ หมวก ร่ม สมุนไพรและอื่น ๆ ให้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย ศาลาแก้วกู่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยปูนปั้นประติมากรรมที่ใหญ่และเยอะที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ ศาลาแก้วกู่เป็นอุทยานเทวาลัยที่เต็มไปด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า และเกิดจากความศรัทธาและความเชื่อในบาป บุญ คุณ โทษของทุกคนที่นี้ นี้คือภาพประตูทางเข้าศาลาแก้วกู่ ภาพโดย Minion around chic ต่อไปก็คือภาพก่อนที่ทุกคนจะเข้าไปชมความสวยงามของเทวาลัยจ่ายค่าบำรุงสถานที่ก่อนเลยค่ะภาพโดย Minion around chic ศาลาแก้วกู่ตั้งอยู่ในชุมชนของสามัคคีจังหวัดหนองคายมีพื้นที่ประมาณ 42 ไร่ จากการสอบถามคนในพื้นที่ก็ทราบว่ามีจำนวนรูปปั้นประติมากรรมประมาณจำนวน 208 ชิ้นและทั้งหมดนี้เกิดจากแรงบันดาลใจของปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ที่ก่อตั้งศาลาแก้วกู่ในปี 2521 ปู่เหลือ สุรีรัตน์ เชื่อว่าทุกศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผสมผสาน แล้วต้องการให้รูปปั้นเทวาลัยเหล่านี้เป็นตัวแทนของสถานที่หรือดินแดนหมายถึงการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง หลังจากที่ปู่หลือสิ้นชีวิตลงลูกศิษย์ได้นำร่างของท่านใส่ไว้ผอบ(ผะ-อบ)แก้ว ตามความประสงค์ของปู่เหลือก่อนจะเสียชีวิตไว้ว่าหากเสียชีวิตลงห้ามนำศพไปเผาหรือฉีดสารอะไรเข้าไปในร่างกายเป็นอันขาด ร่างปู่เหลือไม่เน่าเปื่อยศีรษะและเส้นผมของปู่เหลือบางทีก็เป็นสีดำล้วนสลับกับสีขาวเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันร่างของปู่เหลืออยู่ที่ศาลาแก้วกู่ ชั้น 3 เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวหรือคนที่ศรัทธาได้เข้าไปกราบไหว้ปู่เหลือช่วงเวลาที่สามารถไปไหว้ท่านได้ คือ 8:00 น. ถึง 17:00 น. ร่างของปู่เหลือไม่เน่าเปื่อยมาเป็นระยะเวลา 10 ปีแล้วซึ่งเป็นที่ศรัทธาของลูกศิษย์และผู้คนที่ได้มาพบเจอเรื่องราวของท่าน และนี้คือภาพส่วนหนึ่งรูปปั้นเทวาลัยภาพโดย Minion around chic ส่วนใหญ่แล้วเทวาลัยต่าง ๆ จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธประวัติ ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ตำนานความเชื่อใน พราหมณ์ ฮินดู และคริสต์ บางส่วนก็จำลองเอาเหตุการณ์จากวรรณคดีสุภาษิตโบราณ นิทานพื้นบ้านจัดแสดงไว้ โดยที่บริเวณฐานจะมีคำอธิบายเป็น “ภาษาอีสาน” และ “ภาษาภาคกลาง” บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวข้องกับชิ้นงานสลักเอาไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้อ่าน หลายคนที่มาเที่ยวชมที่นี่บอกว่า รูปปั้นเทวาลัยเหล่านี้ ช่วยเตือนใจให้เกรงกลัวในบาปกรรมได้มากเลยทีเดียว ถ้าใครมาช่วงกลางวันแดดจะร้อนมาก ถ้าชอบแบบถ่ายรูปแบบบรรยากาศกำลังดี แนะนำมาช่วงเช้า ๆ และช่วงเย็นราว 4 โมงเย็น แดดกำลังอ่อนไม่ร้อนมากไป ถ่ายรูปกำลังสวยเลย พิกัดศาลาแก้วกู่ : ชุมชนบ้านสามัคคี อำเภอเมือง จ.หนองคายเปิดทำการ : เปิดทุกวันตั้งแต่ 06.00-18.00 น.ค่าบำรุงสถานที่ : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ต่างชาติ 40 บาท