แชร์ประสบการณ์ การเรียน Wall Street Englishสวัสดีทุกคนน วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ การเรียนภาษาอังกฤษของเราที่วอลล์สตรีท อันนี้ไม่ได้เป็นหน้าม้าใดๆ แค่จะมาแชร์วิธีการสมัครเรียน ราคา การเรียน และกิจกรรมต่างๆของที่นี่ว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งจริงๆสถาบันที่สอนภาษาอังกฤษมีเยอะม้ากกกกก แต่ที่เราเลือกเรียนที่นี่สาเหตุหลักเลยคือใกล้บ้าน เพราะเราไม่อยากเสียเวลาเดินทางนานๆ แบบว่าเรียน 1 ชั่วโมง แต่เดินทาง 2 ชั่วโมงอันนี้ก็ไม่ไหวเนอะ ซึ่งถ้าเทียบราคาค่าเรียนของแต่ละที่ ก็ต้องบอกเลยว่าราคาของที่นี่ก็จะค่อนข้างสูงกว่าที่อื่น แต่เค้ามีการการันตีให้เรานะว่าเราจะพัฒนาขึ้นแน่นอนเริ่มที่การสมัครเรียนก่อนเลย พอเข้าไปปุ๊บ เค้าจะมีการสอบวัด level ของเราก่อนว่าภาษาอังกฤษของเราอยู่ระดับไหน ก็จะมีแบ่ง level 1-2, 3-5, 6-9, 10-13 ไปจนถึง level 20 เลย ซึ่งแต่ละ level ก็จะมีคะแนนโทอิคหรือไอเอลคร่าวๆว่าถ้าเราไปสอบจะได้คะแนนประมาณเท่าไหร่ (เช่น level 9 จะได้โทอิคประมาณ 700) ตอนเราสอบวัดได้ level 7 ซึ่งก็ถือว่าปานกลาง คนที่ใช้ภาษาอังกฤษบ้างในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ประมาณ level 6-9 ซึ่งพอเรียนไปแล้ว เราสามารถขอ level test อีกรอบ (ถ้ารู้สึกว่าที่เรียนอยู่ง่ายเกินไป) เพื่อข้ามไป level อื่นได้ อย่างเราเรียนไป 1 บท ก็ level test และข้ามไป level 9 เลยจ้า (ที่อยากข้ามเพราะว่าเค้าจะออก cer ให้เราเมื่อเรียนจบ ว่าเราอยู่ level ไหน ซึ่งถ้าเราเรียนถึง level 14 เราจะได้ Diploma ด้วย ก็คือเหมือนได้วุฒิเพิ่มอีกใบ)หลังจากที่เรารู้เลเวลแล้ว เซลล์ก็จะเริ่มขายคอร์ส โดยคอร์สส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นแบบระยะยาว เพื่อนๆที่เรียนด้วยกันคือได้คอร์ส 2 ปีเลย (ราคาหลักแสนนะจ๊ะ) แต่ของเราเราไม่ขยันขนาดนั้น รวมถึงงบที่ตั้งไว้อาจจะไม่เยอะมาก ตอนนั้นเค้าเสนอคอร์ส 1 ปีให้เรา ราคาประมาณ 7 หมื่น ก็ถือว่าได้อยู่ (ที่แปลว่าไม่ด้ายยย) และเราก็ยังไม่เคยเรียนอะเนอะ ยังไม่รู้ว่าดีไหม ก็เลยขอลองคอร์สสั้นๆก่อน สรุปได้คอร์ส 6 เดือนมา ต่อรองราคาที่สุดแล้วคือ 3 หมื่น ตกเดือนละ 5000 บาท (ใครมีความสามารถในการต่อรองก็อาจจะถูกกว่านี้ ถ้าถูกกว่านี้มาขิงเราได้นะ 555) โดยระยะเวลา 6 เดือนจะนับจากวันแรกที่เราเริ่มเรียนนะ ซึ่งการเรียนเป็นแบบบุฟเฟ่ต์เลย คือจะเข้าร่วมกี่คลาสก็ได้ที่เค้าจัดไว้ให้ ใน level ของเรา ที่เราลงได้ (ถ้าคนละ level ก็เข้าร่วมไม่ได้) ซึ่งแต่ละสัปดาห์เค้าก็จะมีคลาสต่างๆ รวมถึงมีกิจกรรมให้ทำ เช่น ทำลิปสครับ พับกระดาษเป็น 3 มิติ ทำสร้อยข้อมือ ทำอาหาร สลัด บิบิมบับ โดยใช้ภาษาอังกฤษนี่แหละ ก็สนุกสนานนะ ได้เพื่อนด้วยมาถึงการเรียนกันบ้าง คือใน 1 level เค้าจะแบ่งเป็น 4 unit เช่น level 10 มี unit 40, 41, 42, 43 (ตัวเลขสมมตินะ จำตัวเลขจริงไม่ได้ 555) ในการจบ 1 unit เราก็จะต้องสอบ 1 ครั้ง กับอาจารย์ต่างชาติ ซึ่งการสอบเราก็ต้องวัดดวงเอาว่าจะมีเพื่อนที่ unit เดียวกันมาสอบกับเราไหม แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีหรอก ก็จะได้ตัวต่อตัวไปเลย ใช้เวลาในการสอบ 1 ชั่วโมงถ้วน เค้าก็จะถามเนื้อหาที่เราเรียนมาใน unit นั้นนั่นเอง แล้วอาจารย์ก็จะให้คะแนนเรา คะแนนเต็ม 100 นะ และคอมเม้นท์ให้ว่าเราขาดอะไร ตรงไหนบ้าง แต่อย่าคิดว่าสอบๆไปนะ ถ้าเราไม่เข้าใจสิ่งที่เรียน บางทีอาจารย์อาจจะให้เรียนซ้ำ unit เดิม ก็คือสอบไม่ผ่านนั่นเองงง 55555 ลืมบอกว่าแต่ละ unit จะมี 3 lesson (ตามภาพ) และใน 1 lesson มี 3 part ย่อย งงละสิ จริงๆก็เหมือนมี 9 บทย่อยนั้นแหละ และเค้าจะมี workbook ให้ทำด้วยนะ เป็นแบบฝึกหัดของสิ่งที่เราเรียน โดย 1 lesson จะมี workbook 1 อัน ซึ่งก็แนะนำให้ทำก่อนไปสอบน้าในการเรียนก็จะมีทั้งฟัง พูด อ่าน เขียนเลย เริ่มต้นด้วยการฟังวิดีโอสั้นๆ 1-3 นาที แล้วตอบคำถาม, มีประโยคที่เว้นคำไว้ แล้วให้เราฟังว่าคำไหนหายไป แล้วก็อัดเสียงพูดประโยคที่เค้าเว้นไว้ หรือให้พูดตามเค้า แล้วก็จะมีแกรมม่าแทรกๆบ้าง คำศัพท์บ้าง มีจับคู่ภาพ จับคู่บทสนทนา เรียงลำดับประโยคว่าเหตุการณ์ไหนควรมาก่อนมาหลังอะไรงี้ การเขียนก็จะมีใน workbook หรือแบบฝึกหัด เค้าก็จะให้เราหัดเขียน paragraph สั้นๆ ในหัวข้อต่างๆ แล้วแต่ว่าบทนั้นเราเรียนอะไร ส่วนตัวเราเฉยๆกับการเรียนนะ เพราะเราอยากได้ speak มากกว่า ก็จะเน้นเข้าร่วมคลาส คุยกับอาจารย์ต่างชาติข้อจำกัดของที่นี่ก็มีนะ อย่างที่บอกว่าเค้าแบ่ง level บางคลาสก็เข้าไม่ได้ทุก level หรือบาง level ก็มีคลาสไม่เยอะ หรือวันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ ช่วงกลางวันก็จะไม่มีคลาสเลย มีคลาสตอน 1-2 ทุ่มงี้ ซึ่งเราก็ไม่สะดวกเรียน แต่เข้าใจว่าเอาไว้ให้คนทำงานหรือนักเรียนที่เค้าว่างตอนเย็น ส่วนเสาร์-อาทิตย์มีคลาสเยอะ มีทั้งวัน แต่ก็ต้องจองนะ บางทีก็เต็ม จองกันข้ามสัปดาห์อะ เราก็จะต้องวางแผนดีๆว่า เราจะสอบตอนนี้ จะลงคลาสนี้ จะได้ไปทีเดียวได้เรียนเยอะๆ ไม่เสียเที่ยวเราก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังมองหาที่เรียนภาษาอังกฤษ หรือใครอยากใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อยากหาเพื่อน หาคอนเนคชั่น ที่นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ ฝากไว้ให้คิสสสเครดิตภาพ : เอามาจากอีเมลล์ที่เค้าส่งให้เราตอนเรียน และถ่ายเองกับมือจ้าภาพปกและภาพที่ 1 จาก Wall Street English เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !