'ฟิลิปปินส์' ป่วยโควิด-19 เพิ่มครึ่งหมื่น ปธน.ย้ำต้องเปิดเศรษฐกิจ
มะนิลา, 23 มี.ค. (ซินหัว) -- วันอังคาร (23 มี.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ (DOH) รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด 19) เพิ่ม 5,867 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ยอดผู้ป่วยทั่วประเทศรวมอยู่ที่ 677,653 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 12,992 ราย หลังตรวจพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มอีก 20 ราย
กระทรวงฯ ระบุว่าจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นล่าสุดกระตุ้นให้รัฐบาลต้องกำหนดใช้ข้อจำกัดด้านการกักตัวอีกครั้งในเขตมหานครมะนิลาหรือเมโทรมะนิลา และอีก 4 จังหวัดใกล้เคียง ตั้งแต่วันจันทร์ (22 มี.ค.) เพื่อชะลอการติดเชื้อในประเทศ โดยยังไม่จำกัดการเดินทางโดยรวมของประชาชน
โรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เผยว่าจะยังคงเดินหน้าเปิดเศรษฐกิจขณะที่มีการบังคับใช้มาตรการกักตัวเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพและเศรษฐกิจ
ดูแตร์เตกล่าวระหว่างการปราศรัยรายสัปดาห์ผ่านทางโทรทัศน์ ว่าการกำหนดใช้มาตรการล็อกดาวน์โดยสมบูรณ์นั้นจะสร้าง "หายนะ" ให้กับประเทศ พร้อมเสริมว่า "ขณะนี้เศรษฐกิจอยู่ในสภาวะไม่มั่นคงอยู่แล้ว ดังนั้นมันจะเลวร้ายลงอีกหากปิดธุรกิจทั้งหมด และจะกลายเป็นหายนะสำหรับประเทศ เราจึงจำเป็นต้องสร้างความสมดุลตั้งแต่ตอนนี้"
คาร์ล เครดริก จัว รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนเศรษฐกิจและสังคม สนับสนุนความคิดเห็นของดูแตร์เต โดยเผยว่าการกลับไปใช้มาตรการกักตัวที่เข้มงวดและครอบคลุมในชุมชนนั้นมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง "เราจำเป็นต้องใช้วิธีการที่รอบคอบและเป็นมาตรฐาน เพื่อจัดการกับแหล่งเชื้อจากพื้นที่ที่เสี่ยงสูงสุด ผ่านการกักตัวในระดับท้องถิ่นและข้อจำกัดอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อจะได้ไม่กระทบต่องานหรือการดำรงชีวิตของประชาชน"
จัวกล่าวว่ากฎระเบียบการกักตัว 2 สัปดาห์ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 4 เม.ย. นี้ จะทำให้ธุรกิจและบริการสำคัญๆ สามารถดำเนินงานได้ตามปกติ "เราจะดำเนินการทั้งหมดนี้พร้อมกับสร้างความเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่จะยังคงสามารถทำงานหาเลี้ยงชีพ และเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันก็จะปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยขั้นต่ำ"
อนึ่ง ฟิลิปปินส์อยู่ภายใต้มาตรการกักกันในระดับที่แตกต่างกันในช่วงปีที่ผ่านมา หลังรัฐบาลกำหนดใช้มาตรการล็อกดาวน์ในช่วงกลางเดือนมีนาคม
"เราต้องเข้าใจว่าการกักตัวอย่างเข้มงวดก่อนหน้านี้ ก่อให้เกิดการสูญเสียรายได้มหาศาลและความยากลำบากโดยเฉพาะในหมู่คนยากจน ด้วยเหตุนี้จึงมีประชาชนราว 16.4 ล้านคนทั่วประเทศที่ประสบกับความอดอยาก" จัวกล่าว พร้อมชี้ว่าในเขตเมโทรมะนิลาซึ่งมีประชากรราว 13 ล้านคนและเป็นศูนย์กลางการระบาดใหญ่ มีผู้ประสบความอดอยาก 3.2 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ทั้งยังมีผู้ว่างงานอีก 506,000 คน
ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์สูญเสียรายได้รวมราว 1.04 ล้านล้านเปโซ (ราว 6.6 แสนล้านบาท) ในปี 2020 หรือเฉลี่ย 2.8 พันล้านเปโซ (ราว 1.7 พันล้านบาท) ต่อวัน เนื่องมาจากข้อจำกัดด้านการกักกันและการบริโภคที่ลดลง ขณะที่เศรษฐกิจฟิลิปปินส์หดตัวร้อยละ 9.5 ในปี 2020 จากผลกระทบของการระบาดใหญ่อันยาวนานในทั่วโลก