รีเซต

เฮ! 'กรุงไทย' เปิดเชื่อม 'แอพพ์เป๋าตัง' จ่ายคนละครึ่ง ผ่านแกร็บ-ไลน์แมน ได้

เฮ! 'กรุงไทย' เปิดเชื่อม 'แอพพ์เป๋าตัง' จ่ายคนละครึ่ง ผ่านแกร็บ-ไลน์แมน ได้
มติชน
4 ตุลาคม 2564 ( 11:25 )
77
เฮ! 'กรุงไทย' เปิดเชื่อม 'แอพพ์เป๋าตัง' จ่ายคนละครึ่ง ผ่านแกร็บ-ไลน์แมน ได้

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ในการขับเคลื่อนโครงการคนละครึ่งธนาคารได้ขยายศักยภาพของแอพพลิเคชัน เป๋าตัง ให้สามารถรองรับการใช้จ่ายในการสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ 2 ราย คือ แกร็บ (Grab) และ ไลน์แมน( LINE MAN) โดยการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป เพิ่มความความสะดวกในการใช้งานให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ลดค่าใช้จ่ายในการครองชีพ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนไทยที่เปลี่ยนไป ที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้บริการสั่งอาหารและเครื่องดื่มผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้น

 

 

 

นายยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไลน์แมน วงใน เปิดเผยว่า หลังจากที่ ไลน์แมน ได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากกระทรวงการคลัง ทีมงานได้ดำเนินการยกเครื่องเชื่อมระบบหลังบ้านระหว่างแอพพ์ ไลน์แมน และแอพพ์เป๋าตัง ให้ผู้ใช้สั่งอาหารได้ง่ายและจ่ายง่ายกว่าเดิม โดยสามารถกดจ่ายผ่านแอพพ์เป๋าตังได้เลยทันทีเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่นที่สุดในการสั่งอาหาร นอกจากนี้ยังได้เตรียมแคมเปญกระตุ้นตลาดครั้งใหญ่ “คุ้มคนละชั้น สั่งคนละครึ่ง” ทั้งส่วนลดค่าอาหารเพิ่มเติม โค้ดฟรีค่าส่ง และอีกมากมาย เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม

 

 

นาย เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งในครั้งนี้ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้ จึงได้มีการจัดแคมเปญล่าสุด “แกร็บฟู้ด สั่งเถิดชาวไทย” ที่มอบส่วนลดสูงสุด 60% จากร้านค้าทั่วไทยที่เข้าร่วมแคมเปญรวมทั้งสิ้นกว่า 20,000 ดีล ตั้งแต่วันนี้จนถึง 24 ตุลาคม 2564 เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับคนไทย พร้อมยังได้มีมาตรการสนับสนุนร้านค้า ด้วยการปรับค่าคอมมิชชันในอัตราพิเศษสูงสุดไม่เกิน 20% ให้กับร้านค้าที่ร่วมโครงการคนละครึ่ง ไปจนถึง 31 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอย และส่งเสริมเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ดียิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง