สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแนะนำแคคตัสสายพันธุ์หนึ่งในสกุล แมมมิลาเรีย (Mammillaria) ที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก เจ้าแคคตัสขนสีขาวปุกปุยขยุกขยุยนี้มีชื่อเรียกว่าแมมขนแมว โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mammillaria bocasana ค่ะ แมมขนแมวนั้นถือเป็นแคคตัสที่มีความน่ารัก ลักษณะลำต้นจะเป็นหัวกลม มีขนสีขาวสะอาด แถมยังเลี้ยงง่ายอีกด้วยจึงทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะซื้อแมมขนแมวเอากลับไปเลี้ยงต่อที่บ้านสำหรับจุดเด่นของแมมขนแมวที่แตกต่างจากแคคตัสในตระกูลแมมมิลาเรียชนิดอื่นก็คือส่วนของหนามนั่นเองค่ะ หนามของแมมขนแมวจะมีลักษณะเป็นหนามเส้นแข็งยาวยื่นออกมาจากกลุ่มเส้นขนสีขาว ส่วนปลายของหนามจะโค้งเข้าแบบตะขอ ดังนั้นถ้าเราเดินไม่ระวังไปชนแมมขนแมวเข้าก็อาจจะโดนปลายหนามตะขอนั้นเกี่ยวติดกับเสื้อผ้าได้ และหนามของแมมขนแมวนั้นมีความแข็งแรงมาก สามารถเกี่ยวติดกับเสื้อผ้าของเราขึ้นมาได้ทั้งกระถางเลยละค่ะในส่วนของเส้นขนแมมขนแมวนั้น ลักษณะโดยทั่วไปของเส้นขนจะมีความโปร่งและฟู ไม่หนามาก ทำให้เรายังสามารถมองเห็นผิวลำต้นที่เป็นสีเขียวได้อยู่ แต่สำหรับแมมขนแมวต้นไหนที่มีขนขาวฟูมาก ๆ ก็แสดงว่าอาจจะเป็นต้นที่เกิดจากการผสมเกสรระหว่างแมมขนแมวและแมมขนแกะซึ่งจะมีขนค่อนข้างหนานุ่มมากกว่าค่ะสำหรับส่วนของลำต้น โคนต้นแมมขนแมวนั้นจะค่อนข้างมีความอ่อนนุ่มลักษณะคล้ายกับผิวหนัง บริเวณโค้นต้นนั้นจะไม่มีหนามปกคลุมและมีขนาดค่อนข้างใหญ่ บางต้นอาจจะมีสีผิวโคนต้นที่ค่อนข้างเข้มเหมือนสีแดงจนทำให้มือใหม่หัดเลี้ยงบางคนที่ถอดกระถางแมมขนแมวออกมาดูอาจจะตกใจได้ว่าต้นเขามีปัญหารือเปล่าทำไมดูนิ่ม ๆ แถมยังเป็นสีแดงอีกด้วย ซึ่งความจริงแล้วลักษณะเหล่านี้เป็นลักษณะปกติทั่วไปของแมมขนแมวอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้เป็นอาการของลำต้นที่มีปัญหาแต่อย่างใดแมมขนแมวเป็นแคคตัสที่ออกดอกค่อนข้างบ่อย หลังจากที่ต้นโตได้พอสมควรและได้ออกดอกครั้งแรกเขาก็จะออกดอกให้เราได้ชมอยู่เรื่อย ๆ ลักษณะดอกจะมีขนาดเล็ก มีกลีบดอกเป็นสีชมพูที่มีความเข้มอ่อนแตกต่างกันไป ตั้งแต่สีชมพูบานเย็น ไปจนถึงชมพูพาสเทล หรืออาจเป็นสีขาวลายชมพูเป็นเส้นตรงกลางก็ได้ ลักษณะของเกสรจะมีเกสรตัวผู้สีเหลืองอยู่ล้อมรอบเกสรตัวเมีย ก้านชูเกสรตัวผู้นั้นก็จะเป็นสีเดียวกันกับสีของกลีบดอก ส่วนปลายเกสรตัวเมียนั้นเมื่อบานออกก็จะมีลักษณะเหมือนดอกไม้ดอกเล็ก ๆ อีกดอกหนึ่ง ช่วงเวลาที่ดอกบานจะเป็นช่วงเช้าตั้งแต่ได้รับแสงแดดยาวไปจนถึงช่วงเย็น และเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มหมดไปหรือในช่วงเวลากลางคืนดอกก็จะหุบสนิทค่ะ นอกจากนี้ ในหนึ่งต้นสามารถออกดอกพร้อมกันได้หลายดอกรวมทั้งสามารถออกดอกรอบต้นได้ด้วยการเลี้ยงแมมขนแมวนั้น สิ่งที่จะต้องระวังก็คือการให้เขาได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอ เพราะหากวางกระถางไว้ในที่ที่มีแสงน้อยก็จะทำให้ลำต้นยืดยาวขึ้นหาแสงจนดูเสียทรงได้ แต่หากเราวางกระถางไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึงเพียงพอเราก็จะได้เป็นเจ้าของแคคตัสแมมขนแมวหัวกลม ๆ สวย ๆ โดยช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการได้รับแสงแดดก็คือช่วงครึ่งวันเช้าที่แดดยังไม่แรงจัดจนเกินไป แต่ช่วงครึ่งบ่ายอาจจะต้องระวังกันสักนิดหนึ่งเพราะหากปล่อยให้โดดแดดจัด ๆ ก็อาจจะมีโอกาสที่ลำต้นเขาจะสุกและเน่าได้ค่ะการขยายพันธุ์แมมขนแมวนั้นจะใช้วิธีการผสมเกสรเนื่องจากมันมักจะไม่ค่อยให้หน่อเหมือนกับแมมชนิดอื่น (แต่ก็สามารถให้หน่อได้นะคะ) การผสมเกสรแมมขนแมวนั้นสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแต่เราจะต้องมีอุปกรณ์ช่วยกันสักนิดค่ะ โดยอาจจะใช้พู่กันแต้มเอาเกสรตัวผู้จากดอกหนึ่งแล้วมาป้ายลงบนเกสรตัวเมียของดอกอีกต้นหนึ่ง หรือจะใช้ Forceps ในการคีบเกสรตัวผู้มาใส่ก็ได้ ซึ่งส่วนตัวแล้วนั้นผู้เขียนจะถนัดใช้ Forceps มากกว่าและหลังจากที่เราผสมเกสรสำเร็จ ดอกของเขาก็จะหุบลงซึ่งก็ถือว่าเป็นอันสิ้นสุดหน้าที่ของกลีบดอกในการโชว์ความสวยงามเพื่อเรียกแขกมาช่วยผสมเกสรให้แล้ว จากนั้นเราก็เพียงแค่รอให้เขาติดฝัก ซึ่งหากผสมเกสรได้สำเร็จไม่นานเราก็จะได้เห็นฝักแมมขนแมวงอกยาวออกมาจากตำแหน่งที่เคยเป็นดอก หากฝักสุกเต็มที่แล้วเราก็จะเห็นฝักสีแดงยื่นยาวออกมา ก็ให้เราเก็บฝักแล้วนำไปเพาะเมล็ดได้เลยค่ะ แต่ถ้าผสมเกสรแล้วไม่ติด ดอกก็จะค่อย ๆ เหี่ยวแห้งและหลุดร่วงไปเองค่ะสำหรับการรดน้ำ เราสามารถรดน้ำได้บ่อยเท่าไรก็ได้ตราบเท่าที่ดินในกระถางแห้งโดยไม่มีความจำเป็นต้องรอรดน้ำอาทิตย์ละครั้ง เพราะหากรากเขาเดินดีแล้วละดินปลูกระบายน้ำได้ดี การให้น้ำบ่อย ๆ ก็จะทำให้ต้นเขาโตได้เร็วขึ้น ซึ่งหากต้นโตคับแน่นกระถางเมื่อไหร่ก็ให้เราทำการเปลี่ยนไปใส่กระถางที่ใหญ่กว่าได้เลย แต่หากช่วงไหนที่ฝนตกบ่อยหรืออากาศชื้นก็ควรยืดระยะเวลาการรดน้ำออกไป เพราะหากรดน้ำบ่อยเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดความชื้นในดินสะสมเสี่ยงที่ต้นจะเน่าได้ค่ะและหากใครสนใจอยากจะเลี้ยงแมมขนแมวแล้วละก็ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายกระบองเพชรทั่วไปค่ะ และด้วยความน่ารักของเจ้าแมมขนแมวนี้เอง จึงทำให้มันกลายเป็นแคคตัสสามัญประจำบ้านที่คนเลี้ยงแคคตัสส่วนใหญ่จะต้องมีเลยก็ว่าได้ ส่วนราคาก็จะขึ้นอยู่กับขนาด โดยทั่วไปหากอยู่ในกระถางสองนิ้วราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 35 บาทค่ะ แต่ถ้าต้นใหญ่ขึ้นก็จะมีราคาที่แพงขึ้นตามลำดับนะคะภาพประกอบบทความถ่ายโดย ผู้เขียนบทความเกี่ยวกับแคคตัสสายพันธุ์อื่น🌵 "โลบิเวีย" แคคตัสต้นไม่สวย แต่ดอกสวยมาก !🌈 🌵"เรนโบว์" แคคตัส (Rainbow Cactus) กระบองเพชรหนามชมพูสวยสดใสน่าเลี้ยง🌵 ยิมโนพิงค์ไดมอนด์ (Gymnocalycium ‘Pink Diamond’) แคคตัสเพชรชมพูสีสวยน่าสะสม🌵 ชวนรู้จักแคคตัส "หูกระต่าย-หูมิกกี้เมาส์" (Opuntia microdasys)🌵 ชวนรู้จักกับ “แอสโตร” (Astrophytum asterias) กระบองเพชรเลี้ยงง่าย ดอกสวย 🌸🌵 [มือใหม่หัดเลี้ยงแคคตัส] ยิมโน LB 2178 "แท้" กับ "ไม่แท้" ต่างกันอย่างไรนะ ?🌵 แนะนำสายพันธุ์กระบองเพชรดอกสวย 🌸🌵 สายพันธุ์กระบองเพชร สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง🌵 10 สายพันธุ์แคคตัส หรือ กระบองเพชร "น่ารัก น่าเลี้ยง" มือใหม่ก็เลี้ยงได้