อิสราเอลตั้งเป้าใช้ 'รถเมล์ไฟฟ้า' ลดมลพิษ-น้ำมันนำเข้า-ต้นทุนศก.

เยรูซาเล็ม, 11 ม.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอาทิตย์ (10 ม.ค.) กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของอิสราเอล เปิดเผยว่าอิสราเอลออกแผนการที่ตั้งเป้าหมายปรับเปลี่ยนไปใช้รถโดยสารสาธารณะที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษอย่างค่อยเป็นค่อยไป

กระทรวงฯ ระบุว่าค่าใช้จ่ายของแผนการดังกล่าวอยู่ที่ราว 310 ล้านนิวเชเกล (ราว 2.9 พันล้านบาท) ภายใต้การอนุมัติของรัฐบาล พร้อมเสริมว่าแผนการนี้จะอัดฉีดเงิน 1.35 พันล้านนิวเชเกล (ราว 1.2 หมื่นล้านบาท) เข้าสู่เศรษฐกิจอิสราเอลภายในปี 2034ทั้งนี้ ระบบขนส่งสาธารณะของอิสราเอลในปัจจุบันใช้รถโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันดีเซล โดยมีรถโดยสารไฟฟ้าวิ่งให้บริการในหลายเมืองเพียง 78 คันแผนการใหม่จะครอบคลุมการปรับเปลี่ยนไปใช้รถโดยสารไฟฟ้า ซึ่งมีต้นทุนการดำเนินงานและการบำรุงรักษาต่ำกว่า โดยเป้าหมายคือรถโดยสารสาธารณะในเมืองเป็นระบบไฟฟ้าทุกคันภายในปี 2025ขณะเดียวกันอิสราเอลจะติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถโดยสารไฟฟ้าในลานจอดและสถานีปลายทางหลายแห่ง คิดเป็นมูลค่ารวม 200 ล้านนิวเชเกล (ราว 1.8 พันล้านบาท)"การเปลี่ยนไปใช้รถโดยสารที่ไม่ก่อมลพิษจะนำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพอากาศใจกลางเมืองอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางเสียง" กระทรวงฯ ชี้ พร้อมเสริมว่าแผนการใหม่นี้ยังจะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันและต้นทุนทางเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย