สำหรับมือใหม่อย่างเรา หนังสือธุรกิจที่เตะตาเราอีกเล่มนึง คงจะเป็นเล่มนี้นี่แหละค่ะ เพราะแค่ชื่อก็โดนใจแล้ว แถมยังเหมาะกับมือใหม่หรือคนที่กำลังเริ่มต้นการทำธุรกิจอีกด้วย เพราะนอกจากเนื้อหาการสร้างธุรกิจที่เข้มข้นแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังสร้างแรงบันดาลใจกับผู้ประกอบการรายใหม่ไม่น้อย และเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยค่ะ ☺️ ข้อมูลทั่วไปของหนังสือชื่อหนังสือ : ตั้งต้นธุรกิจใหม่ แค่ “เจ๋ง” กับ “ใจ” ใช่ว่าจะรอดผู้เขียน : วรเกษมสันต์ สิริศุภรัตน์จำนวนบท : 9 บท จุดเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว เชื่อว่าหลาย ๆ คนมีจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจส่วนตัวที่แตกต่างกันค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอเราเชื่อว่าทุกคนมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ธุรกิจของตนเองประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ เราเลยหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เพื่อที่จะได้ศึกษาว่า สิ่งที่เราต้องเรียนรู้เมื่อทำธุรกิจ นั้นต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง ซึ่งจากได้อ่านก็ขอสรุปย่อ ๆ ว่าสิ่งที่เราควรที่จะต้องเรียนรู้นั้นก็คือ การเข้าใจมุมมองและวิธีการของธุรกิจ เข้าใจเรื่องการตลาด สภาวะทางการเงินของตนเอง การมีหุ้นส่วน เรียนรู้และเข้าใจสินค้าเชิงลึก รวมถึงจุดเด่นและจุดด้อยของสินค้าตนเอง และอื่น ๆ ซึ่งนี่แค่เริ่มเท่านั้นนะ ก็คงจะเข้าใจถึงชื่อหนังสือเลยล่ะ เพราะไม่ใช่แค่ต้องมีใจสู้ในการทำธุรกิจเท่านั้น แต่ยังต้องมีความรู้เรื่องธุรกิจด้วยน้าาา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการมือใหม่ต้องเรียนรู้ก่อนจะลาออกจากงานประจำและมาทำธุรกิจส่วนตัว เพราะการเริ่มต้นมันอาจไม่ยากเท่าการทำต่อไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ และเรียนรู้อยู่ตลอด โดยสำหรับตัวเราเองนั้นแค่บทแรกที่ดูเหมือนจะชิวในตอนแรก พออ่านแล้วมาเจอสิ่งที่เราต้องเรียนรู้นั้นมีเยอะมากจริง ๆ และการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้สำคัญมากจริง ๆ แม้จะมีเงินมากแค่ไหน แต่หากบริหาร ดูแลหรือไม่มีความรู้ทางธุรกิจในเชิงลึกนั้น โอกาสที่สำเร็จก็จะน้อยนิดไปด้วย แต่เอาเถอะค่ะ อย่างน้อยก้พอรู้แล้วว่าเราจะต้องเรียนรู้อีกเยอะ สู้!! ✌️ มุมมองทางธุรกิจ การวางแผนเริ่มต้นนั้น หนังสือเล่มนี้แนะให้เราเริ่มจากมุมมองก่อนค่ะ ซึ่งจากที่เคยอ่านหนังสือธุรกิจอื่น ๆ ก็มีมุมมองต่อธุรกิจที่เหมือนกันค่ะ คือ การมองจากภายนอกเข้ามาข้างในหรือที่เรียกว่า Outside In เป็นมุมมองที่เราต้องสวมบทบาทของเราเป็นลูกค้าหรือผู้บริโภคว่าถ้าสร้างธุรกิจนี้ ลูกค้าจะคิดหรือมีมุมมองอย่างไรต่อสินค้าของเรา นอกจากนี้การเริ่มต้นสร้างธุรกิจใหม่ ๆ สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ คือ เรียนรู้จากแนวคิดคนอื่น (คนที่สร้างธุรกิจมาก่อน) เสมือนเป็นการเดินตามรอยความสำเร็จของเขา แต่อย่างไรก็ตามจุดเด่นที่สามารถทำให้ธุรกิจหรือสินค้าเราประสบความสำเร็จได้นั้นก็คือ ความแตกต่าง นั่นเอง ตรงนี้แหละเป็นจุดขายของธุรกิจเราได้!! ธุรกิจกับการตลาด แน่นอนว่าผู้ที่ฝันอยากมีธุรกิจส่วนตัวล่ะก็ คุณก็ต้องวิเคราะห์การตลาดให้เป็นและวิเคราะห์อย่างเชิงลึกด้วย รวมถึงคิดให้ดีว่าหากเราสนใจ ธุรกิจดาวรุ่ง ที่คนส่วนใหญ่ทำกัน เช่น สินค้ากลุ่มเครื่องสำอาง อาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น คุณต้องมั่นใจว่าคุณมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับตัวสินค้า กลุ่มเป้าหมาย แบรนด์สินค้า และการตลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในธุรกิจ ไม่ง่ายเลยใช่มั้ยล่ะคะ เพราะนอกจากจะต้องมีความชอบ และความมุ่งมั่นแล้วยังต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจด้วยน้าาา สิ่งนี้สำคัญมาก นอกจากเราจะต้องสร้างสินค้าที่ดีและมีคุณภาพขึ้นมาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามผู้บริโภคหรือลูกค้าจะไม่มีทางรู้จักเลยว่าสินค้าของเราเป็นอย่างไร ซึ่งวิธีการทำให้สินค้าเราเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายได้นั้น เราต้องเข้าใจในเรื่องของ แบรนด์และการตลาด ทำอย่างไรที่จะให้สินค้าเราออกสู่ตลาด วิธีหนึ่งที่เราได้เรียนรู้คือ การกำหนดตำแหน่งของสินค้า อย่างเช่นสินค้าจำพวกรถยนต์ เพื่อน ๆ ลองนึกดูนะคะ ว่ารถยนต์ที่เราใช้อยู่ปัจจุบันเป็นรถแบบไหน เหมาะกับการใช้งานแบบใด อย่างรถกระบะเหมาะกับกลุ่มคนที่รักในการบรรทุก หรือขนของจำนวนมาก ในกลุ่มรายได้ปานกลาง เป็นต้น อันนี้เป็นเพียวตัวอย่างจากมุมมองเรานะคะ ซึ่งก็จะเห็นได้ชัดเจนที่ตำแหน่งของสินค้าดังกล่าวนั้นอยู่ในกลุ่มเป้าหมายใด ลักษณะการใช้งาน หรือความแตกต่างจากสินค้าอื่น ๆ อย่างไร ดังนั้นแล้วการจะเข้าสู่การตลาดนั้นเราจะต้องรู้ถึงตำแหน่งของสินค้าเราก่อน เพื่อเจาะตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายได้นั่นเอง การตลาดด้วย Marketing 4.0 ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับคำว่า Marketing 4.0 ก่อนค่ะ ก็คือ วิธีการทางตลาดที่มุ่งเน้นแสวงหาผู้ซื้อสินค้าเป็นหลักค่ะ โดย 4.0 ที่เพิ่มเข้ามานี้ที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ก็คือการผสมผสานเครื่องมือด้านไอทีเข้ามาส่งเสริมการตลาดนั่นเองค่ะ ก็ถ้าพูดกันง่าย ๆ ก็อย่างเช่น การใช้สื่อออนไลน์อย่าง Facebook Instagram Twitter และอื่น ๆ เป็นต้น มาช่วยเรื่องการประชาสัมพันธ์สินค้าค่ะ เห็นมั้ยล่ะคะทุกคนการสร้างธุรกิจขึ้นมานอกจากจะมีความรู้แล้ว ยังต้องศึกษาและทำการตลาดที่สอดคล้องกับปัจจุบันด้วยน้า อย่างการเน้นเรื่อง 4.0 กันก็ควรนำเทคโนโลยีหรือสื่อต่าง ๆ มาเป็นช่องทางการขายมากขึ้นด้วยน้าาา ซึ่งช่องทางนี้เราก็ได้ลองใช้มาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าาลการเจาะตลากด้วยสื่อสังคมออนไลน์ทำให้ผู้คนรู้สึกและสนใจเรามากขึ้นค่ะ ยิ่งช่องทางเยอะเท่าไหร่ คนก็จะรู้จักกันอย่างทั่วถึงมากขึ้นด้วยค่ะ แต่ก็อย่าชะล่าใจนะคะ เพราะการทำการตลาดออนไลน์นี้ต้องเน้นความสม่ำเสมอด้วยค่ะ เพราะเคยมีช่วงหนึ่งที่ไม่ค่อยอัพโหลดอะไร ยอดติดตามเราก็ลดลงค่า🥲 เป็นไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ หวังว่าจะได้เนื้อหาสาระ และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเองน้า จากการถอดบทเรียนในครั้งนี้เพิ่มเติมความเห็นและวามรู้สึกของเราไปด้วย หากมีข้อผิดพลาดอะไรทั้งนี้เราก็ขออภัยด้วยน้า และหวังว่าเพื่อน ๆ ที่มีความฝันอยากมีธุรกิจเป็นของตนเองก็ขอให้ประสบความสำเร็จน้าา ☺️ #ธุรกิจ #หนังสือ #แค่เจ๋งกับใจใช่ว่าจะรอด #การตลาด 📌 เครดิตภาพปก : เจ้าของบทความ ButterNoey ภาพประกอบ : ภาพ1: Lwcy, ภาพ2: Megan_Rexazin, ภาพ3: WebTechExperts, และ ภาพ4: coffeebeanworks จาก Pixabay 🌐 ติดตามเจ้าของบทความได้ตามช่องทางอื่น ๆFacebook : Green KingdomYouTube : Green KingdomInstagram : plant_kingdoms 📚บทความอื่น ๆ ของ Butter_Noey 5 ประโชน์ของแอป YT Studio ตัวช่วยจัดการ YouTube ที่สายยูทูบเบอร์ต้องมี!!Line Official Account สมัครง่าย ๆ เหมาะกับร้านค้า3 วิธีการหลีกเลี่ยงฝุ่น PM 2.5 ตอนไปเที่ยวรีวิวการซื้อกองทุนออนไลน์ ผ่านแอป K-My Fundsรีวิว PhotoWonder แอปแต่งรูปสวย ๆอัปเดตข่าวสาร ติดตามผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกแบบไม่พลาดทุกนัดที่ ทรูไอดี คอมมูนิตี้ ห้อง 'ฟุตบอล'