พ่อบ้านใจกล้าแชร์ประสบการณ์ใช้อุปกรณ์ติดตามสุขภาพ ภรรยาเข้าใจผิดทำเตียงเกือบหัก

ผู้ใช้ Facebook Pannawit Jel Chottechathammane ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์เตือนพ่อบ้าน ที่รักสุขภาพทั้งหลายที่ใช้อุปกรณ์ติดตามสุขภาพ ต้องระมัดระวังเพราะหากเลือกโหมดผิดอาจจะทำให้คู่ชีวิตเข้าใจผิดได้ว่าไปไปทำกิจกรรมทางเพศกับคนอื่น

โดยระบุว่า ตนเองเพิ่งเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า เทคโนโลยีที่ล้ำเกินไปก็สามารถทำลายชีวิตคนธรรมดาได้เหมือนกัน และเหยื่อรายล่าสุดของความล้ำหน้านั้นไม่ใช่ใครอื่น คือตนเอง ทั้งนี้ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมด ขอชี้แจงเพื่อความปลอดภัยในชีวิตสมรสว่าเรื่องนี้ผ่านการขออนุญาตจากภรรยาเรียบร้อยแล้ว ตนเองยอมเป็นคนซวยเพื่อสังคม หวังให้เพื่อนผู้ชายทั้งหลายได้อ่านและรอดพ้นจากหายนะเดียวกัน 

จุดเริ่มต้นของความหายนะเกิดจากการที่ตนเองเป็นคนรักสุขภาพและใช้ WHOOP มาสักพัก ใครที่เคยใช้จะรู้ว่าฟีเจอร์ของอุปกรณ์ตัวนี้ละเอียดมาก ตั้งแต่การวัด HRV, Recovery, Sleep Cycle ไปจนถึงโหมด Diary ที่ให้บันทึกกิจกรรมในแต่ละวัน รวมถึงคำถามที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัยอย่าง “วันนี้มีกิจกรรมแบบผู้ใหญ่หรือไม่” ซึ่งในตอนนั้นตนเองไม่ได้คิดอะไร มองว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อมูลสุขภาพ จึงกดติ๊กไปตามรูทีนแบบไม่ทันไตร่ตรอง เพราะชีวิตผู้ชายมันเรียบง่าย เห็นช่องให้ติ๊กก็ติ๊กตามความเคยชิน และตรงจุดนั้นเองที่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้กดเปิดประตูนรกเข้าไปแล้ว

เหตุการณ์พีคเกิดขึ้นในวันที่ภรรยาอยากเช็กสุขภาพตนเอง เพิ่งเธอมีประจำเดือน และหยิบมือถือมาเปิดแอป WHOOP  จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากห้องนอนว่า “เธอ…เมื่อวานทำกิจกรรมอะไร?” ตนเองตอบกลับไปอย่างสบายใจมากว่า “ก็ไม่ได้ทำอะไรนะ ทำไมเหรอ?” จากนั้นเธอก็ยื่นมือถือมาให้ดู บนหน้าจอขึ้นชัดเจนว่า Sexual Activity: YES พร้อมเวลาที่ตนเองเคยติ๊กไว้ตามปกติ

 และสิ่งที่ตามมาคือศาลเตี้ยกลางบ้าน ภรรยาถามด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่หนักหน่วงเหมือนผู้พิพากษาว่า “งั้นเล่าให้ฟังหน่อยสิว่าเธอไปทำกิจกรรมกับใคร เพราะฉันว่างอยู่”

เขาได้อธิบายด้วยเหตุผลสุดท้ายที่สมองผู้ชายคนหนึ่งจะนึกออกว่า “ผมติ๊กตามรูทีนครับ มันเป็นพฤติกรรมประจำวัน แบบ Habit Tracking” โดยเขาระบุว่า อธิบายจนใกล้สิ้นลม และสุดท้ายภรรยาก็ยอมเชื่อ พร้อมกับคำมั่นสัญญาที่ตนเองต้องให้ไว้ว่า ต่อไปจะไม่กดโหมดผู้ใหญ่มั่วซั่วอีกแล้ว

จากเหตุการณ์นี้ เจ้าตัวสรุปว่า เขาได้บทเรียนราคาแพงในฐานะคนรักสุขภาพ แต่ไม่รักชีวิตตัวเองพอ อย่าคิดว่าอุปกรณ์สุขภาพมันซื่อ เพราะมันคือ กล่องดำ ที่พร้อมจะกลายเป็นพยานมัดตัวคุณได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะในวันที่ภรรยามีประจำเดือน ขอร้องว่าอย่าติ๊กกิจกรรมใด ๆ ใน Diary ที่เกี่ยวกับความเป็นชายเด็ดขาด เพราะมันจะไม่ใช่แค่ข้อมูลสุขภาพอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นหลักฐานมัดตัวแบบไม่มีทนายคนไหนช่วยได้

สุดท้ายนี้อยากฝากไว้ว่า เทคโนโลยีดีแต่ต้องใช้ด้วยสติ Diary Journal ไม่ใช่ที่ระบายความหวัง แต่คือที่บันทึกความจริง และความจริงที่ผิดวันสามารถทำลายความสงบในบ้านได้เสมอ จำไว้ว่าเมียฉลาดกว่า WHOOP เสมอ อย่าติ๊กทุกอย่างตามรูทีนเหมือนชีวิตถูกตั้งค่าเป็น AI และถ้าแต่งงานแล้ว ให้ถือ WHOOP เหมือนถือวัตถุอันตราย ใช้ให้ถูกจังหวะ ชีวิตจะปลอดภัย