เจอแล้วพระสูญหายในถ้ำ สุดท้ายอยู่ในสวนปาล์มห่างไป 200 เมตร ยังพูดจาวกวน
เจอแล้วพระภิกษุ 22 พรรษา สูญหายในถ้ำ พบนั่งอยู่ใต้ต้นปาล์มน้ำมันห่างถ้ำ 200 เมตร แต่ยังมึนงง ให้การวกวน พบอุปกรณ์เสพยาเสพติด ยังไม่ฟันธงของใคร
กรณีพระทักษิณ สิ่วกำมัง พระลูกวัด วัดน้ำผุดใต้ ต.นาตาล่วง อ.เมือง จ.ตรัง สูญหายไปภายในถ้ำเขาสามบาตร ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง หลังนั่งวินจยย.รับจ้างออกมาจากวัด อ้างกับคนขับรถรับจ้างว่าจะเข้ามานั่งสมาธิ ให้รถมารับกลับ แต่ปรากฏว่าสูญหายไป จนกระทั่งมีการระดมกำลังหน่วยกู้ภัยฯ หน่วยกู้ชีพฯ ฝ่ายปกครอง และชาวบ้านกว่า 50 ชีวิต ระดมค้นหาภายในถ้ำ พื้นที่รอบถ้ำรัศมีครึ่งกิโลเมตร ใช้เวลากว่า 7 ชม. แต่ไม่พบตัว
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.65 นายสมพร เมืองแก้ว หรือใหญ่พร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.นาตาล่วง ร.ต.อ.สมพงษ์ ทองรอด สายตรวจ ต.นาตาล่วง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่กำลังกรีดยางอยู่ว่า พบพระภิกษุรูปดังกล่าวนั่งอยู่ใต้ต้นปาล์มน้ำมัน ในสวนของชาวบ้านที่ติดกับสวนยางพารา ห่างไปจากปากทางเข้าถ้ำไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพียงแค่ 200 เมตร จึงเดินทางเข้าไปตรวจสอบพร้อมกำลัง
เมื่อไปถึงพบพระภิกษุรูปดังกล่าวนั่งอยู่จริง เบื้องต้นที่ไปพบอยู่ในอาการตื่นตกใจ ใบหน้าแดง และยังคงพูดจาไม่รู้เรื่อง ในมือถือโทรศัพท์แบบปุ่มกด 1 เครื่อง ก่อนจะ นิมนต์มานั่งบริเวณปากถ้ำและนำอาหารน้ำดื่มมาถวาย
สอบถามพระรูปดังกล่าว ให้การวกวน ย้อนแย้งกับความเป็นจริง ก่อนที่ทางเจ้าอาวาสวัดน้ำผุดใต้ พร้อมด้วย นายกิตติพล รักสกุล หรือใหญ่หมี ผญบ.หมู่ 1 ต.นาตาล่วง จะมารับกลับไปยังวัดน้ำผุดใต้ ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่เข้าช่วยเหลือ
ต่อมาเจ้าหน้าที่และชาวบ้านไปตรวจสอบจุดที่พบพระภิกษุรูปดังกล่าวอีกครั้ง พบใต้ต้นปาล์มต้นแรกพบถุงพลาสติก 1 ใบ ขวดน้ำเปล่า 1 ขวด ถัดไปอีก 1 ต้นที่อยู่ติดกันพบว่าหญ้าใต้ต้นเตียนจากการนั่งและนอนทับ
ห่างออกไปประมาณ 10 เมตรใต้โคนต้นปาล์มได้พบขวดน้ำเปล่า 1 ขวดมีน้ำอยู่ภายใน ก้นบุหรี่จำนวนมาก พบเศษคล้ายกัญชาอัดแท่งถูกบดขยี้อยู่ในห่อกระดาษ พบกระดาษฟรอยด์ที่ถูกลอกออกมาจากซองหมากฝรั่ง และเปลือกซองหมากฝรั่งถูกม้วนเป็นหลอด ทั้งนี้ยังพบเศษฟรอยด์อยู่เกลื่อน ซึ่งทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ไว้เสพยาเสพติด ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพใหม่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าเป็นของบุคคลใด อยู่ในระหว่างรอผลพิสูจน์
พระทักษิณ สิ่วกำมัง เล่าว่า ตนเองเป็นคน จ.นครราชสีมา บวชมาแล้ว 22 พรรษา และมาจำพรรษาที่วัดน้ำผุดใต้ประมาณ 1 ปี เมื่อช่วงเวลา 11.00 น. วานนี้นั่งวินจยย.รับจ้างมาที่แห่งนี้เพื่อท่องเที่ยว ก่อนจะเดินเข้าถ้ำไปถ่ายรูป และเดินออกมาในเวลาประมาณ 15.00-16.00 น. เนื่องจากไฟภายในถ้ำดับ แต่ปรากฏว่าเมื่ออกมาจะโทรศัพท์หา จยย.รับจ้าง แต่มือถือหมดแบตเตอรี่ ไม่มีแบตเตอรี่สำรองจึงเดินวนเวียนอยู่ในสวนยางพารารอบๆ พื้นที่ถ้ำ ก่อนจะไปนั่งใต้ต้นปาล์มน้ำมัน
โดยใส่สายหูฟังเปิดดูยูทูบไปเรื่อยๆ จนถึงตอนค่ำหลับหลับไปตอนดึก โดยตั้งใจว่าจะเดินกลับวัดในเช้าวันนี้แต่มีคนมาพบก่อน ยอมรับว่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้ยินเสียงการจุดประทัด เสียงเรียกของคน หรือแสงไฟ หรือมีคนเดินผ่านไปมาที่ค้นหาเลยแม้แต่คนเดียว หรืออาจจะไม่ได้ยินเสียงเพราะตัวเองใส่สายหูฟัง
ขณะที่ นายสมพร เมืองแก้ว ผญบ.หมู่ 4 กล่าวว่า ตอนเช้าเมื่อได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบพระภิกษุ จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบแล้วบันทึกคลิปวีดีโอไว้ โดยจุดที่พบพระรูปดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างจากปากถ้ำเพียงแค่ 200 เมตร คืนนี้ที่ผ่านมานำกำลังไปค้นหาแบบปูพรมกันกว่า 3-4 รอบ รวมทั้งไปยืนอยู่จุดนั้นเป็นระยะเวลานานด้วย แต่ปรากฏว่าไม่มีใครพบเห็นพระรูปดังกล่าวเลย และทางพระก็ยืนยันด้วยว่าไม่เห็นทีมค้นหา ซึ่งย้อนแยงกันในบางส่วน แต่อย่างไรเมื่อพบพระแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่ไม่ได้รับความอันตรายใดๆ
รายงานข่าวระบุว่า พฤติการณ์และคำให้การของพระรูปดังกล่าวยังคงย้อนแย้งกับความเป็นจริง ในหลากหลายส่วน ทั้งที่อ้างว่ามือถือหมดแบตเตอรี่ จึงโทรหารถจยย.รับจ้างมารับไม่ได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่พยายามโทรหาแต่กลับโทรติด แต่บางช่วงปิดเครื่อง แล้วเปิดใหม่
อีกทั้งคำกล่าวอ้างที่ว่าใส่สายหูฟังเพื่อเปิดดูยูทูบอาจจะไม่ได้ยินเสียงคนค้นหา กลับย้อนแย้งกับมือถือที่ใช้เนื่องจากเป็นรูปแบบปุ่มกด และยังกล่าวอ้างว่าเดินและบริเวณรอบวัดก่อนจะไปอยู่ในสวนปาล์มน้ำมัน แต่คนงานที่กวาดขยะอยู่รอบถ้ำกลับไม่พบพระรูปดังกล่าวในช่วงเวลาดังกล่าว ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป