ค่าโฆษณาที่เราเห็นบนรถเมล์ มันเท่าไหร่กัน ? หนึ่งในสิ่งที่เราพบเห็นในทุกวันของคนเมือง นั่นก็คือรถเมล์ นอกจากจะเป็นทางเลือกในการเดินทางแล้ว รถเมล์ยังเป็นแหล่งประชาสัมพันธ์ดี ๆ นี่เองป้ายที่ติดอยู่ตามข้างรถเมล์ ทั้งด้านข้างและด้านหลัง ทุกคนรู้หรือไม่ ? ว่าราคาในการโปรโมท มันเท่าไหร่กัน.. Credit Picture: Link จริง ๆ แล้ว การโดยสารในเมืองหลวง เริ่มกิจการนี้มาตั้งแต่ 1 ศตวรรษก่อน ช่วงราว ๆ ปี 2450 ในสมัยนั้นยังเป็นการใช้ม้าลากจูง ไม่ได้มีรถหรือนำ้มันเชื้อเพลิงใช้งานแต่อย่างใดจนกระทั่งปี 2456 ได้เริ่มมีการนำรถฟอร์ด มาใช้แทนการลากจูง รวมถึงมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ในด้านกิจการการขนส่งใหม่ โดยการเพิ่มเส้นทางให้ไกลขึ้น จากประตูน้ำสระปทุมถึงบางลำพู ต่อมาได้เริ่มมีการนำรถ 3 ล้อ มีขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของรถเมล์ในปัจจุบัน ที่ชาวสยามในสมัยนั้นเรียกกันว่า “โกร่งกร่าง” เพราะจะมีเสียงดัง ในขณะที่แล่นไปตามท้องถนนโกร่งกร่างจะบรรจุผู้โดยสารได้ราว ๆ 10 คน ถือเป็นสิ่งที่ทันสมัยและมีความนิยมอย่างล้นหลามเอามาก ๆ ในสมัยนั้นเมื่อเข้าสู่ปลายทศวรรษ 2510 กิจการ “องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ” ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี 2519 และได้ควบรวมกิจการคมนาคมเข้าสู่รัฐวิสาหกิจทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น บริษัท มหานครขนส่ง จำกัด ที่ถูกก่อตั้งมาโดยเถ้าแก่ชาวจีน ก็ได้รวมกิจการกับ ขสมก. เช่นกัน จวบจนกระทั่งยุคดิจิตอล ในปัจจุบัน ข้อมูลในปี 2561 รถประจำทางในกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีจำนวนทั้งสิ้น 2,771 คัน ส่วนหนึ่งเป็นรถปรับอากาศและรถธรรมดารวมกันจำนวน 2,236 คัน อีกส่วนหนึ่งเป็นรถปรับอากาศใช้เชื้อเพลิง NGV อีก 540 คันนอกจากนั้นแล้ว ยังมีรถร่วมบริการจากบริษัทเอกชนอีก เป็นจำนวน 13,543 คัน ในจำนวนนั้น เป็นรถโดยสารธรรมดาและปรับอากาศ 3,271 คัน มินิบัสสายหลักรวมกับสายย่อยทั้งสิ้น 2,059 คัน รถตู้โดยสาร 4,547 คัน รถเล็กในซอยอีก 2,059 คันนอกนั้น จะเป็นการบริการของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งข้อมูลในปี 2561 มีหนี้สินรวมถึง 113,237.50 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 6,174.56 ล้านบาท Credit Picture: Link ในปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการขนส่งมวลชน มากกว่า 3 ล้านคนต่อวัน ซึ่งนั่น ถือเป็นตลาดที่ดี ในการรับโฆษณาของผลิตภัณฑ์และแบรนด์ต่าง ๆ โดยอาศัยการโลดแล่นไปทั่วทุกตารางนิ้วบนเมืองหลวง เป็นจุดเรียกความสนใจจากผู้คน สำหรับป้ายโฆษณาที่เราเห็นกันบนรถโดยสาร แบ่งเป็นรถเมล์ร้อน ถ้าหากติดโฆษณาเต็มคัน จะคิดค่าบริการ60,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 1 เดือน25,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 3 เดือน19,500 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 6 เดือน16,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 12 เดือน รถเมล์ร้อน ถ้าหากติดโฆษณาครึ่งคัน จะคิดค่าบริการ50,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 1 เดือน19,500 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 3 เดือน15,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 6 เดือน14,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 12 เดือน Credit Picture: Link รถเมล์ปรับอากาศ ถ้าหากติดโฆษณาครึ่งคัน จะคิดค่าบริการ65,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 1 เดือน32,500 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 3 เดือน24,500 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 6 เดือน22,000 บาทต่อคันต่อเดือน เป็นสัญญา 12 เดือน นอกจากนี้แล้ว รถตูยังเป็นอีหนึ่งตัวเลือกให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เลือกที่จะโปรโมทโดยรถตู้จะติดโฆษณาที่ด้านหลังเพียงอย่างเดียว คิดราคาเป็นราคาเหมาเหมาโฆษณา 5 คัน คิดค่าโฆษณา 43,500 บาทเหมาโฆษณา 50 คัน คิดค่าโฆษณา 350,000 บาท ภายในของรถตู้ยังเป็นจุดขายโฆษณาได้อีกด้วย โดยรถตู้ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คิดค่าโฆษณา 62,000 บาทต่อ 20 คัน นอกจากนั้น เป็นรถโดยสารที่ไม่ได้กล่าวถึง ไม่ว่าจะเป็น รถสองแถว หรือรถแท็กซี่ ซึ่งค่าโฆษณาอยู่ในเรทที่ไม่ใกล้เคียงกันเท่าไหร่มากนัก ป้ายทุกป้ายที่ติดอยู่ตามรถเมล รถตู้ รถสองแถว และรถแท็กซี่ ล้วนแล้วแต่เป็นมูลค่าที่ไม่น้อยเลย ถ้าหากนำมารวมกัน นี่คือตลาดโฆษณา ที่มีมูลค่ามหาศาลพอสมควรป้ายบนรถที่ทุกคนพบเห็น ล้วนเป็นเม็ดเงินที่สะพัดไปมาอยู่ตลอดเวลา... _________________________________Swivel คอนเทนท์ยุคใหม่เชิงสร้างสรรค์ ที่นำเสนอในทุกแรงบันดาลใจ Follow Us In “Facebook”Follow Us In “Instragram” Copyright By Swivel*บทความนี้ได้รับลิขสิทธิ์ถูกต้องจาก Swivel On Blockdit จริง