ด้วยความรักในเครื่องปั้นดินเผา และต้องการจะพัฒนาภาชนะดินเผา ที่ใช้วัตถุดิบเป็นดินเหนียวจากถิ่นฐานบ้านเกิด ดิฉันจึงเริ่มเสาะหาข้อมูลเกี่ยวกับดินในจังหวัดขอนแก่น เพื่อการทำงานเซรามิก จากเพื่อน ๆ และสมาชิกในวงการเครื่องปั้นดินเผา เพื่อนคนหนึ่งบอกกับฉันว่า "ที่ขอนแก่นเรามีหมู่บ้านที่ทำเซรามิกนะ แต่จำไม่ได้ว่าอยู่ที่ไหน" ดิฉันจึงค้นคว้าหาข้อมูลต่อ แล้วจึงพบว่าอยู่ขอนแก่นมาสามสิบกว่าปี แต่ไม่เคยรู้เลย ว่าที่ขอนแก่น มีหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา... หมู่บ้านดังกล่าว คือ บ้านวังถั่ว ตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น บ้านยายโก้ง การค้นคว้าศึกษาข้อมูล ทำให้ฉันได้ออกเดินทางสู่แหล่งเรียนรู้ การผลิตเครื่องปั้นดินเผาในจังหวัดขอนแก่น เครื่องปั้นดินเผาร้านยายโก้ง ที่บ้านวังถั่ว ตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง ซึ่งสืบทอดการทำเครื่องปั้นดินเผามายาวนานกว่า 100 ปี แต่คนขอนแก่นเองน้อยคนนัก ที่จะทราบถึงการมีอยู่ของศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ และข้อเท็จจริงที่ว่า จังหวัดของเราผลิตและส่งออกเครื่องปั้นดินเผาไปยังจังหวัดอื่น ๆ หากสนใจการท่องเที่ยวเชิงศึกษา หรือเลือกหาสินค้าคุณภาพของยายโก้ง สามารถติดต่อคุณยายโก้งได้โดยตรงที่เบอร์โทรศัพท์ 089 121 9908 หรือศึกษาเส้นทางการเดินทางได้จากเพจของร้านยายโก้ง >>> เครื่องปั้นดินเผาบ้านวังถั่ว ร้านยายโก้ง ไม่เสียค่าเข้าชม แต่มีแววได้เสียสตางค์ให้กับเครื่องปั้นดินเผาของคุณยายแน่นอนค่ะ ทันทีที่ก้าวลงจากรถ ความร้อนจากภายนอกก็แผดเผากายอย่างไร้ความปราณี แต่ความร้อนนั้นก็ดับองศาลงทันที เมื่อพบกับร้อยยิ้มจากหัวใจของคุณยายโก้ง หลังจากใช้เวลาสักครู่ในการปรับสายตาให้คุ้นเคยกับความมืดภายในโรงปั้นของคุณยายโก้ง หัวใจของฉันก็ลิงโลดจนแทบกระโดดออกมาจากทรวงอก นี่มันชีวิตในฝันของฉันเลย ! มีโรงปั้นสำหรับทำงานอยู่ที่บ้าน ตื่นเช้ามาทำงานศิลปะที่รัก ปั้นดินไปเรื่อย ๆ จนตะวักตกดิน มีเตาเผาเป็นของตัวเอง มีรายได้เพียงพอในการดำรงชีพและได้ทำสิ่งที่รัก มิน่าหละคุณยายโก้งถึงได้มีความสุขใจที่เปล่งประกายจนใคร ๆ ก็สัมผัสได้ ความแตกต่างของแสงแดดจากภายนอก และภายในโรงปั้นของคุณยายโก้ง ปรากกฏอย่างชัดเจนในภาพถ่ายเหล่านี้ คุณยายโก้งให้การต้อนรับพวกเรา ราวกับเป็นคนกันเองในหมู่บ้าน ทุกข้อคำถามทุกความสงสัย คุณยายโก้งตอบด้วยความจริงใจรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะอันสดใส คุณยายได้รับสืบทอดอาชีพช่างปั้นมาจากบรรพบุรุษ ซึ่งย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ จังหวัดขอนแก่น เมื่อกว่าหนึ่งร้อยปีที่แล้ว โดยเลือกตั้งถิ่นฐาน ณ บ้านวังถั่ว เนื่องจากมีวัตถุดิบคือดินเหนียว ที่เหมาะสมกับการทำเครื่องปั้นดินเผา เวลา 4 นาฬิกาคือเวลาเริ่มงานของคุณยายโก้ง โดยแต่ละวันจะสามารถตีหม้อได้ ประมาณ 20 ใบ เบื้องหน้าของคุณยาย คือ หม้อดินที่อยู่ในขั้นตอนการขึ้นรูป ด้วยการตีด้วยไม้และหินดุ ฉากหลังของพวกเรา คือ ภาชนะดินดิบกองโต ที่เรียงรายรอเวลาเข้าเตาเผา ถัดออกไปเป็นเตาฟืนขนาดใหญ่ ที่ร้อนระอุเนื่องจากอยู่ในกระบวนการเปลี่ยนดินดิบ ให้กลายเป็นเซรามิก หรือการเผาดิบ ที่กำลังดำเนินอยู่ในตอนนี้หินดุ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ หนึ่งในวัตถุจัดแสดง ที่ พิพิธภัณฑสภานแห่งชาติ ขอนแก่น เป็นหินดุแบบเดียวกันกับที่คุณยายโก้งใช้ขึ้นรูปหม้อ ที่โรงปั้นของคุณยาย จะเห็นได้ว่าผ่านมากี่พันปี ความรู้เรื่องเครื่องปั้นดินเผา นอกจากจะไม่เคยหายไป ยังมีการพัฒนาขึ้นอยู่ตลอดเวลาด้วยนะคะ วิธีการขึ้นรูปหม้อดินของคุณยาย เป็นการตีขึ้นรูปด้วยหินดุและไม้ตี ซึ่งมีเป็นเทคนิคดั้งเดิมที่ถูกเริ่มต้นใช้มาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เลยนะคะ ดินที่นี่เมื่อหลังจากเผาแล้วจะมีสีส้ม หรือ Terracotta Clay เช่นเดียวกันกับ เหล่ากองทัพทหารดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้ ที่เมืองซีอาน ประเทศจีน ด้านหน้าของเตาเผา เป็นช่องสำหรับใส่เชื้อเพลิง การเผาดิบแต่ละครั้งจะใช้เวลาในการเผา ประมาณ 24 ชั่วโมง ใช้อุณหภูมิในการเผา ประมาณ 700-900 องศาเซลเซียส และให้ระยะเวลา 2 วันเพื่อให้อุณหภูมิของเตาเย็นลง จนสามารถเปิดเตาเข้าไปลำเลียงเครื่องปั้นดินเตาออกจากเตาได้ เศษเครื่องปั้นดินเผาที่นำว่ากองไว้รอบๆเตา ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนจากเตา และรักษาอุณหภูมิของเตาให้เสถียรระหว่างการเผา ช่วยลดปริมาณเชื้อเพลงที่ใช้ในการเผา และลดอุณหภูมิภายในโรงปั้น ภาชนะดินเผาจากบ้านวังถั่ว ถูกเผาด้วยอุณหภูมิ 800 องศาเซลเซียส ซึ่งภาชนะดินเผาอุหภูมิระดับนี้ เนื้อของดินจะถูกเปลี่ยนเป็นเซรามิก แต่ยังคงมีรูพรุนมาก น้ำสามารถซึมผ่านได้ เหมาะสำหรับการนำไปใช้เป็นภาชนะที่ต้องการให้น้ำซึมผ่านได้ เช่น กระถางต้นไม้ หม้อดิน หรือที่นอนแมวในฤดูร้อน ไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้เป็นภาชนะสำหรับอาหาร เนื่องจากอาหารจะซึมลงในเนื้อของดินเผาและไม่สามารถล้างทำความสะอาดออกได้หมด อันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคต่าง ๆ มุมซ้ายมือด้านล่างของภาพ คือปากไหของไหที่แตก ถูกนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ในการขึ้นรูปหม้อ ถัดออกมาทางขวามือ คือ ทรายจากแม่น้ำโขง ซึ่งใช้ผสมกับดินเหนียวเพื่อลงอัตราการแตกร้าวของดินในระหว่างเผา ด้านขวามือของภาพคือดินเหนียวจากแหล่งดินในหมู่บ้าน ที่ตากแห้งรอการนำกลับมาใช้ใหม่ โดยมีกระถางที่ถูกลำเลียงออกจากเตาเผา รอการขนส่งไปยังร้านค้าวางอยู่ใกล้ ๆ เตาฟืนแบบดั้งเดิม เชื้อเพลิงคือฟืน ที่ถูกสร้างอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันกับโรงปั้น โดยเว้นช่องไว้สำหรับปล่องควันไฟ ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือของภาพ ด้านขวามือของภาพ คือ ด้านหน้าของเตาเผาเป็นช่องสำหรับใส่ฟืน ส่วนตรงกลางคือบริเวณโถงสำหรับบรรจุเครื่องปั้นดินเผา ทางเข้าเตาเผา ซึ่งอยู่ด้านข้างของเตา ใช้ในการลำเลียงเครื่องปั้นดินเผา ในภาพคือเตาเผาหลังจากการลำเลียงเครื่องปั้นดินเผาออกจนหมดแล้ว ดิฉันรู้สึกถึงปีติที่ท่วมท้น จากการได้เห็นเตาเผาเซรามิกดั้งเดิม ที่บ้านเกิดของตัวเองอย่างใกล้ชิด ทำให้ตื่นเต้นตื้นตัน ราวกับเมื่อครั้งไปเยือนหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาที่ญี่ปุ่น แม้อุณหภูมิและบรรยากาศจะแตกต่างกัน แต่ขนาดของความสุขสดชื่นใจนั้นไม่ต่างกันเลย ศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาของคุณยายโก้ง นอกจากจะมีเครื่องปั้นดินเผาจำหน่ายแล้ว ยังมีดินเหนียวพร้อมสำหรับการปั้น และหากสนใจที่จะมาทดลองทำเซรามิก คุณยายพร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้ ฝึกฝนให้ โดยเฉพาะผู้ที่สนใจจะสืบทอดอาชีพช่างปั้นให้คงอยู่ต่อไป ถ้าเราสามารถพัฒนาอาชีพนี้ให้มีรายได้ดีเพียงพอ จนคนในพื้นที่ไม่ต้องทิ้งบ้านทิ้งครอบครัว เพื่อไปทำงานต่างถิ่น ห่างบ้าน ห่างครอบครัว ดังเช่นทุกวันนี้