ใจจริงก็ยังไม่อยากจะเขียนเพราะว่าก็ยังอยู่ในช่วงรอ Assignment (เรียกขึ้นเรือ) อยากให้มันได้ขึ้นไปก่อนจะได้อัพยาวไป แต่ก็ถือว่ามาบันทึกเรื่องราวเอาไว้ ให้คนที่สนใจได้ลองอ่านๆและพิจารณาดูละกันเนอะว่าจะมาสายนี้จริงมั้ยเริ่มต้นด้วยการอยากที่จะเที่ยวรอบโลกนี่ล่ะ ก็เลยได้มองหาว่ามีงานอะไรน้าที่จะสามารถทำให้เราได้ไปเหยียบต่างประเทศ แป๊ปๆก็ยังดี ขอแค่ฟรีก็โอเค 55+ หาไปหามางานเรือก็ดูเข้าท่าดีนะ โรงแรม 6 ดาวลอยน้ำ ล่องไปเรื่อยๆตื่นมาให้ที่ใหม่ๆทุกวัน (คำโปรยเค้าว่างั้น) แล้วเราสามารถทำตำแหน่งไหนได้บ้างล่ะ? แต่ละตำแหน่งต้องการประสบการณ์ 2-3 ปี จากโรงแรม 5 ดาว โรงแรมที่มีชื่อเสียงทั้งนั้น เสิร์ฟ บาร์ แม่บ้าน แล้วสาวใหญ่อายุ 35+ อย่างชั้น ผู้มาสายนั่งออฟฟิสมาตลอด ไม่ไหวจะไปเริ่มต้นใหม่ในสายงานอื่น เดชะบุญสมัยสาวๆ มีประสบการณ์นวดตอนไปเรียนต่างประเทศอยู่บ้าง สายสปานี่ล่ะวะเข้าทางสุด!เท่าที่หาข้อมูลดู สายสปาจะสามารถสมัครได้ทั้งกับบริษัทเรือโดยตรง (บางบริษัท) และ สามารถสมัครผ่านเอเจนซี่ได้ ซึ่งถึงแม้เราจะมีประสบการณ์แต่ก็ห่างนวดมานานเหมือนกัน ตัวเราจึงเลือกสมัครกับเอเจนซี่เพราะแลดูจะง่ายกว่า แต่ก็มาพร้อมค่าใช้จ่ายที่เยอะพอดูและก็ไม่ใช่ว่าจะได้ไปง่ายๆ..ขยับมา จะเล่าให้ฟัง**พอตัดสินใจแล้วว่าจะเปลี่ยนมาเดินสายสปาก็หยอดเมล์ไปสมัครกับเอเจนซี่ชื่อดังด้านสายงานนี้เจ้าหนึ่ง นัดแนะกันว่าจะมีการโทรมาสัมภาษณ์สกิลภาษาอังกฤษเบื้องต้น ถ้าผ่านถึงจะสามารถเข้าไปเทสมือ กับ HR ที่บินตรงมาจากต่างประเทศได้ นี่ก็ตั้งใจมาก นั่งรอเวลาเลย นัดกันบ่ายโมง ลางานครึ่งวัน...สัมภาาณ์ 5 นาที เบสิคสุดๆ ชื่ออะไร มีประสบการณ์กี่ปี นวดอะไรได้บ้าง ทำไมอยากไปทำงานบนเรือ พอผ่านด่านนี้ ก็เตรียมตัวเข้าออฟฟิสเอเจนซี่เพื่อทำการเทสมือตามวันที่ๆนัดหมาย ถึงวันเทสมือสาวๆที่มีความฝันแบบเดียวกันไปรอเทสมือเยอะมาก น่าจะเกินร้อยคน บ้างก็มาอิสระ บ้างก็มาเป็นทีม บรรยากาศน่าตื่นเต้นมาก เริ่มด้วย HR แหม่มอังกฤษแท้เข้ามาแนะนำตัว แนะนำองค์กร แนะนำการทำงาน แนะนำชีวิตบนเรือ รายได้ "ตั้งต้น" ที่ยกมาไม่ได้ทำให้ตาโตมากนักเพราะน้อยกว่าที่ได้ตอนนี้มากกว่าครึ่งแต่เส้นทางเดินเรือที่ไปหลากหลายประเทศถือเป็นแรงจูงใจได้เป็นอย่างดี การทำงานเป็น Spa Therapist บนเรือ ไม่ใช่แค่งานนวด แต่เราจะต้องขายของด้วย และรายได้ของเราจะมาจากคอมมิชชั่นของสินค้าที่เราขาย ดังนั้นนอกจากฝีมือในการนวดจะดีแล้ว ภาษาอังกฤษจะต้องดียิ่งกว่า เพราะเราต้องโน้มน้าวให้ลูกค้าที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทย เข้าใจที่เราสื่อและยอมซื้อของกับเราให้ได้ (นี่ก็อันเชิญสาริกามาเตรียมไว้จากหลายวัดแล้ว) และรายได้ที่เป็นคำโปรยว่าได้เป็นแสนๆต่อเดือนก็คือมาจากตรงนี้ เดี๋ยวจะมาลงรายละเอียดเรื่องสินค้าอีกครั้ง..เอาเรื่องเทสมือก่อน พอ HR บรรยายทุกอย่างที่ว่ามาหมดแล้ว ก็ถึงเวลาเทสมือ ใครมีผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ Marlin test แล้วก็เข้าคิวไปเทสนวดได้ ใครยังไม่มีเค้าก็จะให้ไปสอบก่อนใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็ได้ผลมาซึ่งข้อสอบง่ายมากและเค้ารีเควส % ผ่านต่ำมาก ส่วนตัวคิดว่าย้อนแย้งกับสิ่งที่พวกเราจะต้องไปเจอบนเรือการเทสมือจะทำพร้อมกัน 4 เตียง เข้าไปถึงก็นวดๆ แต่ HR จะเดินไปคุยกับแต่ละคนที่ละคน **คำเตือน** เราต้องเต็มที่และคอนเซนเทรดกับหุ่นนวดของเราตลอดเวลาแม้ว่าตอนนั้น HR จะคุยกับผู้สมัครคนอื่นอยู่ก็ตาม เพราะถึงเค้าจะโฟกัสที่คนอื่นแต่หางตาเค้านีกวาดทั่วอยู่ แอบบอกว่าเรานี่ต้องมาเทสมือสองรอบเพราะครั้งแรก หุ่นนวดเราเป็นเมนส์ อินี่ก็เป็นเมนส์ไม่ควรนวดหนิ น้องเค้าก็พี่หนูเป็นหุ่นให้มา 4-5 คนแล้ว พี่เบาๆหน่อยนะ อิชั้นก็นวดเบาๆกล้อมแกล้มไประหว่าง HR คุยกับคนอื่น พอมาถึงคิวตัวเองอิชั้นโดนปัดตกทันที..ไม่ถามอะไรกรูซักคำ ดังนั้น ถ้าถึงเวลาของเรานวดไปค่ะ จัดให้เต็มที่ ไม่ต้องสอบถามอาการ ไม่ต้องสนใจใคร เค้าจะให้เรานวดน้ำมัน..โฟกัสที่หลัง และเน้นใช้ศอก การนวดบนเรือเท่าที่ทราบไม่มีนวดไทยค่ะ เบสิกเลยจะเป็น Swedish massage ซึ่งถ้าเราไม่เป็นตั้งแต่ตอนแรก No worry เทสมือผ่านเค้าจะให้เราไปลงคอร์สเรียนเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ดังนั้นตอนเทสมือ ขอแค่นวดน้ำมันเป็น เน้นใช้ศอกลงเยอะๆ ผ่านแน่นอน ..ระหว่างที่เรานวด HR ก็จะสอบถาม ให้เราเล่าเรื่องของตัวเอง ทำอะไรได้บ้าง คำถามแนวเดียวกับตอนที่มีคนโทรมาสัมฯเบื้องต้นแต่มันจะตื่นเต้นกว่าเพราะมือก็ต้องนวด สมองก็ต้องคิดคำตอบเพื่อตอบคนอังกฤษแท้ๆ เราก็ต้องมั่นใจเข้าไว้ เค้าชอบคนมั่นใจ ชวนเค้าคุยก่อนเลยยิ่งดีจะได้ไม่ถามเยอะ 55+นวดไปคุยไปได้ 5-6 นาที HR ก็บอกให้หยุด คอมเม้นท์ Performance เรา บอกจุดว่าควรปรับตรงไหน หรืออันไหนดีแล้ว แล้วก็คืนแฟ้มเอกสารมาให้ก่อนเชิญให้ไปขั้นตอนต่อไปซึ่งก็คือเตรียมลงทะเบียนว่าพร้อมจะไปอบรม 1 เดือนตามรอบที่จัดหรือไม่.. การอบรมเกิดขึ้นหลังจากเทสมือ 1 เดือน พร้อมกับเงินในกระเป๋าที่ต้องเสียไปประมาณ 60K เราอิดออดไปนอนคิดจนรอบอบรมนี้ผ่านไป เอาจริงเงินหกหมื่นกับการลางาน 1 เดือน ของชะนีอายุเกือบ 40 ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายเลย ต้องคุยปรึกษากับใครมากมาย ฟังไอเดียหลายๆด้าน ถ้าผู้อ่านทำงานออฟฟิส จะรู้ว่าเลยวัย 35 ไปแล้วงานหายากแล้วนะ และลางาน 1 เดือนนี่ไม่ค่อยมีใครเค้าให้ทำหรอก ธุรกิจเค้าต้องเดินหน้าทั้งนั้น ....ชั่งใจอยู่นาน สุดท้ายก็คิดว่าเออนะ..ถ้า 40 ไปแล้ว มันก็จะไม่ได้ทำจริงๆนะ มันเป็น Last chance แล้ว ลองดูสักครั้ง ก็เลยตัดสินใจลาออก ทั้งๆที่รู้ว่าหลังจากอบรมเสร็จ 1 เดือน จะกลายเป็นคนตกงาน เดชะบุญเจ้านายไม่ให้ออก แต่ให้ Leave without pay แทน ซึ่งอันนี้ซาบซึ้งมาก อบรมเสร็จตั้งแต่กุมภา 66 ยังทำงานกะเค้าอยู่เลย มิถุนา 66 ล๊ะ ไม่ใช่เปลี่ยนใจนะ แต่ไม่เรียกขึ้นเรือสักที **ดังนั้น ทราบไว้เลยว่าก่อนที่เราจะไหาเงินแสนบนเรือ เราต้องมีเงินดูแลตัวเองมากพอในช่วงที่ยังไม่ได้ขึ้นเรือด้วย** เพื่อนๆที่อบรมด้วยกันส่วนมากทำอาชีพอิสระ เป็นนายตัวเอง ไม่ค่อยกระทบ แต่ถ้าในรับจ้างเค้าไม่ว่าจะสายไหนคิดดีๆ ไม่มีใครตอบคุณได้ว่าหลังอบรมเสร็จคุณจะได้ขึ้นเรือตอนไหน เอาเข้าจริงเอเจนซี่เองก็น่าจะไม่รู้เหมือนกัน บางทีก็แอบเหนื่อยกับระบบ แต่ทำไงได้ล่ะลงทุนแล้ว เสียเวลาแล้ว ก็ต้องรอต่อไป งานเรือ*งานเรือเป็นงานที่หนักและได้ค่าตอบแทนสูงเพราะเป็นเงินดอล*ภาษาอังกฤษในระดับสื่อสารได้ดี เป็นสิ่งจำเป็นมาก *ทักษะการนวดและการขายสินค้าจะช่วยให้ได้เงินมากขึ้น *งานเรือเป็นงานที่น่าสนใจสำหรับเด็กๆนะ 18-25 กำลังดี ถ้าชอบคือชอบ ถ้าไม่ชอบก็ยังมีเวลาชีวิตเหลือไปเริ่มสายงานอื่น เริ่มตอนแก่ทางเดิน/แผนสองก็น้อยลง วันหลังจะมาเล่าให้ฟังว่าตอนเทรนด์ 1 เดือนเป็นยังไง เจออะไรบ้าง สนุก หวาดเสียว และเครียดมากมาย ฟิลได้กลับไปเรียนอีกครั้งเลย ^________^All photos taken by Creator Cover design by Canva application7-11 Community ห้องลับเมาท์มอยของกินของใช้ในเซเว่น อะไรดีอะไรใหม่ ต้องรู้ ต้องคุย ต้องแชร์