ราคา "โลหะมีค่า" ฟื้นตัวถ้วนหน้า ตรึงเครียดการค้าลด ลุ้น GDP จีนเข้าเป้า

ราคาทองแดงในตลาดเอเชียดีดตัวขึ้นในวันนี้ (20 ต.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณต้องการลดความตึงเครียดทางการค้ากับจีน ขณะที่ทางการจีนแสดงความเชื่อมั่นว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้

ณ เวลา 12.12 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ ราคาทองแดงปรับตัวขึ้น 1% แตะที่ระดับ 10,714.50 ดอลลาร์/ตัน ขณะที่ราคาตะกั่วและสังกะสีปรับตัวขึ้นเช่นกัน ส่วนราคาแร่เหล็กในตลาดสิงคโปร์ดีดตัวขึ้น 0.3% แตะที่ระดับ 104.25 ดอลลาร์ต่อตัน

ราคาสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ เปิดฉากสัปดาห์อย่างคึกคักหลังจากปธน.ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณถึงความต้องการที่จะลดความตึงเครียดทางการค้ากับจีน โดยเมื่อผู้สื่อข่าวของฟ็อกซ์นิวส์ถามเกี่ยวกับภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 100% ที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บจากจีนเพิ่มเติมนั้น ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีดังกล่าวจะไม่ใช่มาตรการที่ยั่งยืน

คำกล่าวของทรัมป์ถือเป็นการลดท่าทีอันแข็งกร้าวที่มีต่อจีน ก่อนที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ จะพบปะกับเหอ ลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ในสัปดาห์นี้ และก่อนที่ทรัมป์จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้

นอกจากนี้ แม้ว่าข้อมูลจากจีนที่มีการเปิดเผยในวันนี้จะแสดงให้เห็นถึงภาพรวมที่ผสมผสานของเศรษฐกิจจีน แต่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประมาณ 5% ในปีนี้

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3/2568 ขยายตัว 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัว 5.2%

ส่วนยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแม้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ชะลอลงจากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 3.4% ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 6.5% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 5% และแข็งแกร่งกว่าในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 5.2%