สหรัฐฯ ชัตดาวน์ต่อ หลังโหวตจัดสรรงบประมาณครั้งที่ 6 ไม่ผ่าน

ขณะนี้ การชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ดำเนินมาครบ 1 สัปดาห์แล้ว และยังดูเหมือนว่าจะยังไม่มีทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่การลงมติผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณชั่วคราวครั้งที่ 6 ที่ลงมติกันเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ทางรัฐบาลยังคงไม่ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนครบ 60 เสียง ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำในการผ่านงบประมาณ โดยได้คะแนนไป 54 ต่อ 45 เสียง แม้ทางพรรครีพับลิกัน จะได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภาของพรรคเดโมแครต 3 เสียง แต่ก็ไม่สามารถหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมได้ จึงทำให้การลงมติผ่านงบประมาณยังคงล้มเหลว และทำให้สหรัฐฯ ยังต้องอยู่ในภาวะชัตดาวน์ต่อไป
การชัตดาวน์ของรัฐบาลทำให้หน่วยงานรัฐบาลจำนวนมากต้องหยุดทำงาน โดยเฉพาะหน่วยงานที่ไม่จำเป็น ขณะที่งานบริการสำคัญอย่างความมั่นคงและสาธารณสุขยังเดินหน้าต่อ แต่เจ้าหน้าที่อาจต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง จนกว่าจะผ่านร่างงบประมาณได้ ส่งผลให้การให้บริการสาธารณะในขณะนี้ ลดประสิทธิภาพลง เนื่องจากหลายหน่วยงานมีคนทำงานไม่เพียงพอ
ตอนนี้ คนอเมริกันเริ่มจะรู้สึกถึงผลกระทบที่เกิดจากการชัตดาวน์แล้ว โดยเฉพาะการเดินทางด้วยเครื่องบิน ที่สนามบินหลายแห่งทั่วประเทศประสบปัญหามีคนทำงานไม่เพียงพอเป็นเวลาสามวันติดกันแล้ว และทำให้เที่ยวบินล่าช้า โดยตั้งแต่วันจันทร์ จนถึงตอนนี้ มีเที่ยวบินได้รับผลกระทบเดินทางล่าช้ากว่า 13,000 เที่ยวบินแล้ว ซึ่งนี่เป็นปัญหาใหญ่ เพราะก่อนจะเกิดการชัตดาวน์ สหรัฐฯ ก็มีปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในสนามบินอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่จำนวนมากต้องทำงานล่วงเวลาเกือบทุกวันและต้องทำงานหกวันต่อสัปดาห์ ซึ่งภาวะชัตดาวน์ ยิ่งทำให้เจ้าหน้าที่สนามบินขาดแคลนหนักขึ้นไปอีก
ความขัดแย้งหลักระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต คือการอนุมัติงบประมาณ ไปสนับสนุนโครงการ Obamacare ของพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นโครงการประกันสุขภาพที่สร้างชื่อให้กับ บารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ทรัมป์ต่อต้านโครงการนี้และต้องการตัดงบประมาณของโครงการนี้ลง โดยทางพรรคเดโมแครต ยืนยันว่าร่างกฎหมายงบประมาณใด ๆ จะต้องครอบคลุมการขยายเวลา เงินอุดหนุนด้านสุขภาพของโครงการ Obamacare ที่กำลังจะหมดอายุลง เพื่อป้องกันไม่ให้ค่ารักษาพยาบาลของชาวอเมริกันพุ่งสูงขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องที่ ทั้งสองพรรคเห็นไม่ตรงกัน และทำให้การโหวตลงมติจัดสรรงบประมาณล้มเหลว
สำหรับทางออกของเรื่องนี้ ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าการชัตดาวน์จะเกิดขึ้นอีกนานแค่ไหน เพราะตอนนี้ ทั้งสองพรรคยังไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายต่างโทษกันไปมาว่าอีกฝ่ายทำให้เกิดภาวะชัตดาวน์ แต่ว่า ถ้าภาวะชัตดาวน์เกิดขึ้นนานต่อไปเรื่อย ๆ ทำให้ชาวอเมริกันได้รับผลกระทบมากขึ้น แรงกดดันก็จะถูกส่งต่อไปที่พรรครีพับลิกัน และพรรคเดโมแครต ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผ่ายไหนจะทนรับแรงกดดันไม่ไหวก่อน ก็อาจจะต้องยอมถอยออกจากจุดยืนของตัวเองและยอมทำตามเงื่อนไขของอีกฝ่ายเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
