(ภาพโดย : pixabay.com)อันดับที่ 5 : ที่มาของโคคาโคล่า (Coca-Cola) หรือโค้ก (Coke) ที่มาของโคคาโคล่าเริ่มต้นจากนายจอห์น เพมเบอร์ตัน เภสัชกรชาวอเมริกันเห็นว่าไวน์ที่ทำจากโคคาเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมไฮโซของยุโรปและอเมริกา จึงทำให้ปี 1885 นายจอห์น เพมเบอร์ตัน ได้ทำไวน์โคคาออกมาเป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า เพมเบอร์ตันแฟนโคคา และต่อมาในปี 1886 เมืองแอตแลนตาได้ออกกฎห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงเป็นเหตุทำให้นายจอห์น เพมเบอร์ตัน ไม่สามารถขายไวน์ของตัวเองได้ เขาจึงจำเป็นต้องดัดแปลงสูตรเพื่อไม่ให้เครื่องดื่มของเขามีแอลกอฮอล์และสูตรใหม่ที่เขาค้นคว้า ก็มาลงตัวที่การใช้สารสกัดจากใบโคคาผสมเข้ากับสารสกัดจากเมล็ดโคล่านั้นจึงทำให้เครื่องดื่มที่มีชื่อว่า Coca Cola ถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกมนุษย์ซึ่งคำว่า Coca Cola นี้เป็นชื่อที่พนักงานบัญชีของ จอห์น เพมเบอร์ตัน เป็นคนคิดค้นขึ้นมาอันดับที่ 4 : ที่มาของคำว่าโค้ก (Coke) เคยสงสัยว่าทำไมเครื่องดื่มยัง Coca Cola ถึงมีอีกชื่อว่าโค้กซึ่งเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปในช่วงต้นของยุค 90 ได้มีประเด็นใหญ่ในสังคมเกี่ยวกับโคเคนซึ่งเป็นสารที่สกัดมาจากใบโคคา จากเดิมทีที่มันถูกใช้เป็นยารักษาอาการทางจิตภาวะซึมเศร้าและรวมไปถึงการใช้บำบัดผู้ติดสารเสพติดอื่นๆแต่ต่อมาโคเคนได้ถูกนำมาใช้ในรูปแบบของสารเสพติดที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทของผู้เสพ ทำให้บริษัทโคคา-โคลา (Coca-Cola) ในยุคนั้นพยายามหลีกเลี่ยงการสื่อสารด้วยคำว่าโคคา เพราะพวกเขาไม่อยากให้ชื่อแบรนด์ซึ่งเป็นสารเสพติดจึงทำให้พวกเขาเริ่มใช้คำว่าโค้กในการโฆษณาสินค้าโดยการใช้คำว่า โค้กมีนโคคา-โคลา (Coke means Coca-Cola) เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า ไม่ว่าพวกเขาจะเขียนคำว่าโค้กหรือ Coca Cola มันก็คือเครื่องดื่มตัวเดียวกัน ซึ่งในปี 1929 ทางบริษัทก็ได้มีการสกัดเอาสารโคเคนออกไปจากใบโคคาก่อนที่จะนำมาผลิตเป็นเครื่องดื่ม เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องดื่มพวกเขาจะปราศจากสารเคมี 100% และอีกเหตุผลหนึ่งใช้คำว่าโค้ก ก็คือหลายๆครั้งที่ลูกค้าสั่งเครื่องดื่มโคล่า พวกเขามักจะได้เครื่องดื่มโคล่ายี่ห้ออื่นกลับมา ดังนั้นคำว่าโค้กถึงเข้ามาช่วยในการทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมีความเข้าใจตรงกันอันดับที่ 3 : เครื่องดื่มทั้งหมดของบริษัทโคคาโคล่า (Coca-Cola) ปัจจุบันภายใต้บริษัทโคคาโคล่า (Coca-Cola) พวกเขาครอบครองเครื่องดื่มมากกว่า 130 แบรนด์ และมีรายการสินค้ามากกว่า 3,500 รายการซึ่งถ้าคุณดื่มเครื่องดื่มของพวกเขาวันละ 1 รายการคุณต้องใช้เวลากว่า 9 ปีถึงจะดื่มครบอันดับที่ 2 : มิติใหม่แห่งการดื่มน้ำอัดลม จากโค้ก (Coke) หรือ โคคาโคล่า (Coca-Cola) ซึ่งในเดือนเมษายนปี 2018 นี้ทางบริษัทโคคาโคล่าได้ทำการเปิดตัวโค้กในแพ็คเกจแบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Coca-Cola Frozen Lemon ที่ได้มีการวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นในรูปแบบของถุงพร้อมดื่มที่มีโค้กเย็นเป็นวุ้นอยู่ข้างในนั้น ซึ่งทางบริษัทก็ใช้เวลากว่า 8 ปีในการวิจัยและพัฒนาแพ็คเกจตัวนี้อันดับที่ 1 : โค้ก (Coke) หรือ โคคาโคล่า (Coca-Cola) บนอวกาศ ในปี 1985 บริษัทโคคา-โคลา (Coca-Cola) มีความพยายามที่จะให้นักบินอวกาศสามารถดื่มเครื่องดื่มโค้กบนสถานีอวกาศได้ ซึ่งพวกเขาใช้เงินจำนวน 200 เหรียญสหรัฐในการวิจัยและพัฒนากระป๋องที่สามารถใช้งานได้จริงบนอวกาศ โดยพวกเขาเรียกมันว่า Coca Cola Space Can แต่มันก็ไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่พวกเขาคิด เนื่องจากในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงทำให้คาร์บอนไดออกไซด์และของเหลวแยกออกจากกัน จึงทำให้โค้กเสียรสชาติซึ่งต่อมาในปี 1995 ทางบริษัทได้พยายามอีกครั้งโดยการปรับปรุงพัฒนายกระดับขึ้นไปอีกขั้น โดยที่พวกเขาให้ชื่อมันว่า Fluids Generic Bioprocessing Apparatus 1 ที่ได้มีการเก็บแยกโซดาและโค้กออกจากกันและจะผสมกันอีกทีเมื่อนักบินอวกาศเปิดวาล์วหัวจ่าย แต่เท่านั้นยังไม่พอนักบินอวกาศจำเป็นต้องใช้แก้วแบบพิเศษที่มีการซีลอย่างแน่นหนาและยังมีวาล์วสำหรับปิดกั้น เพื่อไม่ให้สภาวะไร้แรงโน้มถ่วงจากภายนอกมาทำให้คาร์บอนไดออกไซด์และโค้กแยกออกจากกันซึ่งมันจะทำให้เสียรสชาติ โดยเครื่องที่ว่านี้มันก็สามารถบรรจุโค้กไปบนสถานีอวกาศได้เพียง 1.65 ลิตรเท่านั้น ขอบคุณข้อมูล และภาพโดย Youtube Channel: LUPAS - ลูปัส