สวัสดีค่ะทุกคนสำหรับเรื่องการ Work from home นั้นตอนนี้ก็เริ่มเข้าสู่เดือนที่ 2 กันอย่างเต็มตัวแล้วใช่ไหมคะ ซึ่งก็เชื่อแน่นอนว่าหลายๆ ท่านคงจะเริ่มปรับตัวกันได้เป็นอย่างดี แต่ก็อยากที่รู้ว่าๆ การ WHF นั้นไม่ได้มีข้อดีเพียงอย่าง แต่ก็มีข้อเสียด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหัวหน้าทั้งหลายที่จะตามงานแต่ละครั้งก็ยากแสนยาก แต่จะให้เรียกมาคุยต่อหน้าก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้นเพื่อช่วยทำให้หัวหน้างานทั้งหลายบริหารลูกน้องได้ดีขึ้น วันนี้เราจึงมีเทคนิคต่างๆ ที่อยากจะเอามาแชร์ให้ทุกคนฟังกันค่ะ เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะ1. ตั้งเป้าหมายในการทำงานเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่คุณควรจะทำทันทีตั้งแต่เริ่มที่จะ WFH เพื่อวัดประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน แต่เคล็ดลับก็คือการเรียกให้ลูกน้องมากำหนดแผนและเป้าหมายร่วมกัน วิธีนี้เป็นทฤษฎีที่มีชื่อว่า "Goal Setting Theory" ของ Locks เพื่อทำให้ถ้าเกิดความผูกพันทางจิตใจเพิ่มขึ้น ทำให้เขารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเป้าหมาย และเป็นผลทำให้เขายอมรับเป้าหมายที่เขาตั้งขึ้นโดยส่วนตัวต้องบอกว่าวิธีนี้ใช้ได้เสมอไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับไหน เพราะการที่พนักงานรู้สึกดีกับสิ่งที่กำลังจะทำ รู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรก็จะทำให้เขาทำงานและมุ่งมั่นไปสู่เป้าหมายที่ต้องการโดยที่หัวหน้าอย่างเราไม่ต้องเหนื่อย ดังนั้นสำหรับใครที่เอาแต่ "สั่ง" เพื่อให้ลูกน้องทำตามต้องรีบปรับกลยุทธ์โดยด่วนนะคะ 2. เชื่อใจลูกน้องเราเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่คงจะขัดอก ขัดใจหัวหน้าทุกคนก็คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ว่า "กลัวพนักงานไม่ทำงาน" กลัวว่างานที่สั่งไว้จะไปไม่ถึงไหน ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นช่องโหว่ของการ WFH ดังนั้นแทนที่คุณจะมานั่งกลุ้มใจกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เราก็ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนความคิดนั้น และเชื่อใจลูกน้องให้มากขึ้น เพราะการทำงานที่ productive ไม่ใช่การทำงานเยอะ ได้งานมากๆ แต่คือการที่ทำงานแล้วได้ประสิทธิภาพในการทำงาน ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าลูกน้องของคุณเริ่มทำงานตอนไหน แต่ปล่อยให้ลูกน้องของคุณบริหารเวลาและงานด้วยตนเอง แล้วเชื่อเถอะว่าผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดีอย่างแน่นอนเทคนิคสำคัญก็คือคุณต้องมีทั้งบทลงโทษ และของรางวัลเป็นกระตุ้นให้เขาทำงานให้ได้ตามเป้ามากขึ้น (เป็นการตกลงร่วมกันระหว่างพนักงานและหัวหน้า) ซึ่งรางวัลนี้อาจจะไม่ใช่เงินเสมอไปก็ได้ แต่ต้องเป็นสิ่งที่เขาชอบ เช่น คำชม หรือแม้แต่ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ก็เชื่อเถอะว่าเขาจะประทับใจคุณไปอีกนาน 3. อย่าละเลยเรื่องการสื่อสารเป็นอันขาดสำหรับการทำงาน หลายๆ คนอาจจะมองว่าผู้นำที่เก่งคือคนที่ตัดสินอะไรๆ ได้อย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลยค่ะ เพราะหน้าที่สำคัญของหัวหน้างาน หรือผู้นำก็คือการบริหารคนในทีม ดังนั้นทักษะที่จำเป็นมากๆ สำหรับผู้นำทั้งหลายก็คือ "การคุยเรื่องไร้สาระให้เป็น" แต่เรื่องไร้สาระในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องการซุบซิบนินทา แต่เป็นเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ใช่เรื่องงาน เช่น เรื่องละคร หนัง เพลง หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ลูกน้องรู้สึกถึงความเป็นกันเอง ทำให้เข้าเชื่อใจและเปิดใจที่จะรับฟังคุณค่ะโดยเฉพาะในช่วงเวลาแบบนี้ที่ส่วนใหญ่เราจะคุยกันทางไลน์ หรือเจอกันผ่านโปรแกรมต่างๆ ซึ่งมันยิ่งเป็นการลดทอนความใกล้ชิดลง ดังนั้นเคล็ดลับที่เราใช้เป็นประจำก็คือก่อนการประชุมทุกครั้งเราจะชวนลูกน้องของคุณคุยเรื่องไร้สาระ เรื่องขำขัน หรือถามสารทุกข์สุขดิบของลูกน้องก่อนเสมอ ไม่ใช่ไลน์หาลูกน้องแค่ตอนสั่งงาน หรือเจอหน้าก็ประชุมทันทีนะคะ4. ให้ความสำคัญกับเรื่องความตั้งใจเรารู้ดีค่ะว่ายิ่งเป็นหัวหน้างาน การโฟกัสไปที่ผลลัพธ์ของงานนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราละเลยไปไม่ได้เลยก็คือ "ความตั้งใจในการทำงาน" ลูกน้องบางคนอาจจะทำงานไม่เก่ง แต่เชื่อเถอะว่าถ้าหากเขามีความตั้งใจสักวันหนึ่งเขาจะต้องพัฒนาตัวเองขึ้นได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าพนักงานจะทำงานพลาด (โดยเฉพาะในช่วงที่อะไรๆ ก็ดูยุ่งยากในช่วงนี้) ก็แนะนำให้ปล่อยผ่านบ้าง รวมถึงให้คำชมสำหรับความตั้งใจบ้าง ถึงแม้ว่าช่วงนี้สถานการณ์ไม่ดี แต่ถ้าหากคุณยังสามารถประคองพนักงานต่อไปได้ หยิบฉวยโอกาสนี้พัฒนาตนเองและลูกน้อง เมื่อหมดโควิด 19 เชื่อเถอะว่าเขาจะเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยทำให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างอย่างแน่นอน5. อย่าล้ำเส้นในช่วงวันหยุดข้อสุดท้ายนี้เรามองว่าเป็นอีก 1 ข้อที่สำคัญนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่เส้นแบ่งระหว่างการทำงานและการพักผ่อนไม่ชัดเจน ดังนั้นแนะนำว่าในตอนที่วางแผนการทำงานนั้น คุณและลูกน้องควรที่คุยกันอย่างชัดเจน และพยายามอย่าล้ำเส้นในช่วงวันหยุดเด็ดขาด เพราะมันอาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจได้ ที่สำคัญคือพยายามหลีกเลี่ยงการส่งงานค้างไว้ในเมล์ของพวกเขา เพราะมีคนจำนวนมากตั้งแจ้งเตือนไว้ในมือถือ ซึ่งมันจะเป็นการสร้างความกดดันให้กับทีมงานของคุณโดยไม่รู้ตัวเคล็ดลับสำคัญที่เราทำบ่อยๆ ก็คือเราจะเลี่ยงการสื่อสารกับลูกน้องในช่วงเสาร์-อาทิตย์อย่างเด็ดขาด เพื่อให้เขา (รวมถึงตนเอง) ได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ และมีแรงกลับมาทำงานในวันทำงานได้อย่างสดชื่นนะคะเป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับเทคนิคที่เราเอามาฝากกันวันนี้ หวังว่าจะถูกใจเพื่อน ๆ กันนะคะ สำหรับใครที่เป็นหัวหน้างาน แล้วมีปัญหาเหล่านี้หมือนเราก็ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ รับรองว่าการมันจะทำให้การทำงานที่บ้านจะสนุกขึ้น และง่ายขึ้นแน่นอนค่ะ เอาล่ะ วันนี้เราไปก่อนแล้ว ครั้งหน้าเราจะมีอะไรมาฝากก็อย่าลืมติดตามด้วยนะคะ :)ขอบคุณภาพ ปก : unsplash / pic1: unsplash / pic2: unsplash / pic3: unsplash / pic4: unsplash / pic5: unsplash