ไม่ยอมจบ! ลูกสะใภ้ยื่นฟ้อง 3 คดี ปมพ่อแม่ไล่ที่จนต้องขึ้นป้าย ลูกเนรคุณ-สะใภ้
ไม่ยอมจบ! ลูกสะใภ้ยื่นฟ้อง 3 คดี ปมพ่อแม่ไล่ที่ จนต้องขึ้นป้าย ลูกเนรคุณ-สะใภ้ เผยยอมถอนแค่คดีเดียว พ่อแม่ลั่นพร้อมให้อภัย หากคดีสิ้นสุดจะแบ่งมรดกให้ใหม่
เมื่อวันที่ 16 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณี นายจิว อายุ 84 ปี พร้อมภรรยา ติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ใส่รูปภาพตัวเองและภรรยา ไว้ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.แห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี พร้อมข้อความว่า “ความยุติธรรมมีจริง ที่ดินและปั๊ม ปตท.ลานสัก เป็นของนายจิว-นางน้อย (พ่อ-แม่) ลูกเนรคุณ-สะใภ้ ไม่มีสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น” เพื่อปกป้องและทวงคืนสิทธิของตนเอง หลังลูกชายคนโต และลูกสะใภ้ เรียกเก็บค่าเช่าที่ดิน ทั้งที่เป็นกิจการของตัวเอง ก่อนได้ฟ้องเรียกทรัพย์สินคืนทั้งหมดจากลูกชายคนโต รวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
ล่าสุดช่วงสายที่ผ่านมา นายจิว อายุ 84 ปี นางน้อย ภรรยา พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ ถนอมวาจามั่น ทนายความส่วนตัว เดินทางมาที่ศาลจังหวัดอุทัยธานี เพื่อรับฟังคำศาลอีกครั้ง จากกรณีลูกสะใภ้ (ภรรยาของลูกชายคนโต) ยื่นฟ้องขับไล่ให้นายจิวออกจากปั๊มน้ำมันดังกล่าว โดยวันนี้ศาลนัดสืบพยานโจทย์ แต่ทางด้านโจทย์ซึ่งเป็นลูกสะใภ้ไม่ได้เดินทางมารับฟังด้วยในครั้งนี้ โดยมอบหมายให้ทนายฝ่ายโจทย์ เข้ามาดำเนินการทางด้านคดีแทน
นายสมศักดิ์ ทนายความส่วนตัวของนายจิว เปิดเผยว่า กรณีที่ลูกสะใภ้ฟ้องขับไล่นายจิวนั้น ทางทนายได้รับมอบหมายจากโจทย์ยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนฟ้องกรณีขับไล่ออกไป ซึ่งคดีทั้งหมดที่ฟ้องร้องกันมี 3 คดี และมีแนวโน้มว่าจะถอนคดีทั้งหมด ทั้งคดีฟ้องขับไล่ ฟ้องเลิกห้างหุ้นส่วนปั๊มลานสักพรทวี
ส่วนคดีที่นายจิวฟ้องลูกชาย ลูกสะใภ้ เพื่อเรียกทรัพย์สินคืน ซึ่งนายจิวเป็นฝ่ายชนะคดี อยู่ระหว่างในชั้นอุทธรณ์ที่ศาลกรุงเทพฯ และจำเลยที่เป็นฝ่ายลูกสะใภ้ขอขยายเวลาอุทธรณ์ มีกำหนดสิ้นสุดการยื่นอุทธรณ์ ในวันที่ 29 ก.พ.64 นี้ และหากว่าไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ก็จะถือว่าคดีนั้นสิ้นสุดไป
ด้านนายจิว เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจากทนายไว้ว่าจะถอนคดีทั้งหมด แต่ทางลูกสะใภ้ก็ถอนเพียงคดีเดียวคือ คดีขับไล่ แต่คดีเกี่ยวกับบริษัทนั้นยังไม่ยอมถอนให้ โดยยังไม่รู้เจตนาของลูกสะใภ้ เนื่องจาก 3 คดีถอนให้เพียงคดีเดียว และอยากให้ลูกชาย ลูกสะใภ้ กลับมาคุยกับตน แต่ก็ยังไม่ยอมมาคุย และตั้งแต่ขึ้นป้ายจนเป็นข่าวขึ้นมาก็ยังไม่เคยมาคุยกัน
รวมทั้งก่อนหน้านี้เป็นเวลากว่า 2 ปีกว่า ตนไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยติดต่อกันเลย ซึ่งตนนั้นอยากให้ลูกมาคุยกันดีๆ เพื่อจะให้เรื่องจบๆกันไป เพราะพ่อและแม่นั้นพร้อมให้อภัยลูกๆเสมอ ส่วนเรื่องสมบัติถ้าคดีสิ้นสุดไม่มีการยื่นอุทธรณ์ ก็พร้อมที่จะจัดสรรปันส่วนกันใหม่ แบ่งให้ลูกทั้ง 3 คนใหม่อีกครั้ง อย่างความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันทุกคน