สกัดเข้ม"ฟอกเงิน"ในตลาดทุน-"สินทรัพย์ดิจิทัล"

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการเพื่อป้องกันและยับยั้งการใช้ตลาดทุน–สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นช่องทางในการฟอกเงินและเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้บริบทปัจจุบันที่การปราบปรามการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีทวีความสำคัญขึ้น และเป็น “วาระแห่งชาติ” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ก.ล.ต. ได้มีการดำเนินการอย่างเข้มข้น 

โดยมีการประสานงานร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งการตรวจสอบกรณีต้องสงสัยเกี่ยวกับการกระทำความผิด ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายหลักทรัพย์ กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมทั้งยกระดับมาตรการ และการบูรณาการเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูล (Connecting the dots) เพื่อประโยชน์ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ปิดช่องโหว่ ทำให้เห็นภาพในองค์รวม เพื่อการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด

ในการนี้  ก.ล.ต. มุ่งเน้นดำเนินการใน 3 เรื่อง ได้แก่ (1)  การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ภายใต้การดำเนินการดังกล่าว สามารถยับยั้งบัญชีม้าได้แล้ว 44,382 บัญชี มูลค่ารวมมากกว่า 200 ล้านบาท 

(2) การป้องกันเชิงรุก การป้องกันเชิงรุก มุ่งลดความสูญเสียของประชาชนจากภัยหลอกลวงลงทุน เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนมีความรู้เท่าทัน รวมทั้งการปิดกั้นช่องทางหลอกลวงลงทุน และยกระดับมาตรการสกัดกั้นบัญชีม้า

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้ดำเนินการประสานงานกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มในการปิดกั้นการหลอกลงทุนได้ร้อยละ 100 ภายในระยะเวลา 7 นาที ถึง 48 ชั่วโมง  โดยสามารถดำเนินการปิดกั้นช่องทางหลอกลวงลงทุนจำนวน 3,134 บัญชี ในช่วง 1 ม.ค. – 31 ต.ค. 2568

และ (3) การประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  โดยก.ล.ต. พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ รวมทั้งประสานความร่วมมือภายใต้ข้อตกลงที่มีกับหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนในต่างประเทศ

ก.ล.ต. จึงขอให้ทุกฝ่ายได้มั่นใจว่า ก.ล.ต. ได้ดำเนินการในทุกรูปแบบเพื่อป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดการฟอกเงินทั้งในตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัล