จำคุกผัวเมียโกงเงินโควิด พันล้าน! ตัดกำไลอีเอ็มหนี ทิ้งลูก 3 คน
จำคุกผัวเมียโกงเงินโควิด - ซีเอ็นเอ็น รายงานคดีโกงเงินเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ของสหรัฐอเมริกา ว่า นายริชาร์ด อีเวเซียน อายุ 43 ปี และนางมาเรียตตา เทเรเบเลียน ภรรยา อายุ 37 ปี ถูกตัดสินจำคุก แม้ว่าจนถึงขณะนี้ยังตามล่าตัวไม่พบ โดยฝ่ายชายต้องโทษ 17 ปี และฝ่ายหญิง จำคุก 6 ปี
ทั้งสองขึ้นศาลไต่สวนเมื่อเดือนมิ.ย. คดีฉ้อโกงเงินกองทุนเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ปลายเดือน ส.ค. ทั้งคู่ตัดกำไลอีเอ็มออกแล้วหลบหนีไป ทิ้งลูกๆ วัยรุ่น 3 คนไว้ที่บ้านในรัฐแคลิฟอร์เนีย อายุ 13 15 และ 18 ปี
ทั้งสองทิ้งกระดาษโน้ตพิมพ์ข้อความฝากถึงลูกๆ ว่า “เราคงจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งในสักวันหนึ่ง นี่ไม่ใช่การบอกลา แต่ห่างกันสักพัก”
เอฟบีไอยังหาตัวไม่พบโดยเอฟบีไอตั้งรางวัลนำจับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 640,000 บาท แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสทั้งคู่
อัยการเทรซี แอล. วิลกิสัน กล่าวว่าทั้ง 2 คนร่วมกับคนอื่นๆ ขโมยเงิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,920 ล้านบาท จากกองทุนเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงโควิดระบาด
ส่วนอัยการกลางอีกนกล่าวว่าคดีนี้เป็นคดีโกงเงินเยียวยาคดีแรกในประเทศที่เข้าสู่ชั้นการตัดสิน
ใช้ชื่อคนตายลวงเงินไปเสวยสุข
ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนและอาร์ตูร์ อีเวเซียน น้องชายของริชาร์ด อายุ 41 ปี ถูกตัดสินให้มีความผิดคดีสมรู้ร่วมคิดกันฉ้อโกงธนาคารและฟอกเงินเมื่อเดือน มิ.ย.
นอกจากนี้ ริชาร์ดและน้องชายยังถูกตัดสินว่าขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นด้วย
เอกสารและหลักฐานในชั้นศาลแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาใช้หลักฐานปลอมหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้ง ชื่อของผู้เสียชีวิตและนักเรียนแลกเปลี่ยนที่มาสหรัฐเมื่อหลายปีก่อน เอามากรอกข้อมูลเท็จขอสินเชื่อเยียวยาธุรกิจประมาณ 150 แห่งระหว่างโควิดระบาดในเมืองซาน เฟอร์นันโด วัลเลย์
อัยการกลางกล่าวว่าผู้ต้องหาส่งเอกสารระบุตัวตนปลอมพร้อมกับแบบฟอร์มภาษีปลอม รวมทั้ง บันทึกบัญชีเงินเดือนไปยังผู้ให้กู้และฝ่ายบริหารธุรกิจขนาดเล็กเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนและอาร์ตูร์ รวมทั้ง ผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 5 คนนำเงินไปซื้อแมนชันในเมือง 3 แห่งทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้งเมืองทาร์แซนา เกลนเดล และปาล์ม ดีเสิร์ต
นอกจากนี้ ยังนำไปซื้อเหรียญทองคำ เพชร เฟอร์นิเจอร์ นาฬิกาหรูและมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน
เมื่อศาลพิจารณาว่ามีความผิดจริง ก็ถูกยึดบ้านหรูทั้ง 3 หลังและของหรูหราฟุ่มเฟือย รวมทั้ง สมุดบัญชีธนาคารหลายเล่มและเงินสดประมาณ 450,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,400,000 บาท
ส่วนไรอัน แอล. โคร์เนอร์ จากหน่วยพิเศษ สำนักสืบสวนคดีอาชญากรรม กรมสรรพากร ตำหนิว่าเมื่อประเทศชาติอ่อนแอ แต่คนเหล่านี้คิดแต่จะเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองซึ่งถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง
แม้ยังไม่ชัดเจนว่าริชาร์ดเป็นหัวโจกหรือไม่ แต่ทั้ง 8 คนถูกตัดสินจำคุกระยะเวลาต่างกันไป โดยริชาร์ดถูกจำคุกนานที่สุด 17 ปี และไม่มีใครที่ถูกจำคุกเกิน 6 ปี ส่วนอาร์ตูร์ ถูกจำคุก 5 ปี
เผยลงมือกันเป็นแก๊ง
ด้านแอชวิน เจ. แรม ทนายของริชาร์ดกล่าวว่ารัฐบาลคาดว่าคดีนี้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่า 18 ล้านหรือ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนพูด ส่วนริชาร์ดเป็นคนเดียวที่ต้องรับผิดชอบเงินที่สูญหายไป 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ 48 ล้านบาทซึ่งยังห่างไกลจากทฤษฎีของรัฐอยู่มากและเสียดายที่ริชาร์ดไม่มาศาล มิเช่นนั้น คงจะให้การต่อศาลได้
แรมกล่าวด้วยว่าครอบครัวของริชาร์ดและมาเรียตตาเชื่อว่าทั้งคู่คงถูกผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นลักพาตัวไปเพราะริชาร์ดถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับคนหลายสิบคน แต่มีผู้ถูกตั้งข้อหาเพียงไม่กี่คน ดังนั้น หากเขาเป็นหัวหน้าแก๊งจริงๆ อาจมีใครบางคนต้องการปิดปากเขา
ส่วนจดหมายน้อยถึงลูกๆ มีนัยถึงภัยคุกคามที่เผชิญอยู่ อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาต้องหนีไปเพื่อไม่ให้ลูกๆ ตกอยู่ในอันตราย พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐสืบสวน
เด็กๆ จะถูกส่งไปอาร์เมเนีย
ขณะนี้ เด็กๆ ทั้ง 3 คน อยู่กับยายและผู้พิทักษ์ตามที่ศาลสั่งซึ่งคนดูแลยื่นเอกสารทำหนังสือเดินทางให้เด็กๆ ไปอาร์เมเนียโดยด่วนเพราะมีญาติๆ ที่นั่น
ผู้พิทักษ์เชื่อว่าการส่งเด็กๆ ไปอาร์มาเนียจะทำให้เด็กๆ ไม่ต้องตกอยู่ในวังวนของสื่อที่รายงานข่าวคดีของพ่อแม่ แต่หนังสือเดินทางไม่ได้รับการอนุมัติ
............