สวัสดีครับ เราผู้เขียนบทความเรื่องนี้ ขอแทนตัวเองว่า “เรา” นักเรียนวัยม.6 ที่เวลานี้ควรจะเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัยในเดือนมีนาคมต่อ แต่ก็ได้หาเวลามาเข้าค่ายแนะแนวการศึกษาต่อจากมหาวิทยาลัยที่ตัวเราเองนั้นชื่นชอบเป็นอย่างมาก เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ด้านนี้ให้ผู้อ่านได้รู้กันครับในส่วนของค่ายแนะแนวการศึกษาต่อ คงไม่พ้นค่ายจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีพี่ ๆ นิสิตจากหลาย ๆ คณะร่วมด้วยช่วยกันสมัครเข้ามาเป็นสต๊าฟ เดินทางมามอบความรู้ เล่าประสบการณ์ รวมไปถึงพาทำกิจกรรมสันทนาการสร้างความสามัคคีและความสนุก ให้แก่น้อง ๆ ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ไม่ว่าจะจังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดอุทัยธานี ฯลฯ แม้กระทั่งจังหวัดอุบลราชธานีที่มีการจัดทำค่ายแนว ๆ นี้ ณ ปัจจุบันมายาวนานถึง 24 ครั้งด้วยกันค่ายสานฝันจุฬา-อุบล คืออะไรสำหรับค่ายสานฝันจุฬา-อุบล จัดทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการเป็นส่วนเล็ก ๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจ แชร์ประสบการณ์ในการเรียน รวมไปถึงการสอบเข้า โดยครั้งนี้จัดอยู่ที่โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช โรงเรียนที่เรากำลังศึกษาอยู่นั่นเอง!ผู้มีคุณสมบัติในการสมัครเข้ามา จะเป็นนักเรียนม.ปลาย หรือ ปวช. ก็ได้ จะอยู่จังหวัดไหนก็สามารถมาร่วมสนุกได้ แต่!! ค่ายนี้จะมีการคัดเลือกนักเรียนที่สนใจจะเข้ามา 100 คน เราคิดว่าน่าจะคัดจากการตอบคำถามต่าง ๆ ผ่าน Google Form ถ้าเราจำไม่ผิด มีแค่ 3 คำถามเท่านั้น น่าจะมีคำถามประมาณว่า ทำไมถึงอยากสมัครเข้ามา คิดยังไงกับจุฬาฯ คำถามสุดท้ายไม่ชัวร์ คาดว่า มีอะไรอยากจะบอกกับทีมผู้จัดไหมซึ่งค่ายนี้ ครั้งที่ 24 นะครับ เดิมทีมีแผนจะจัดขึ้นในวันที่ 22-24 ตุลาคม 2565 แต่โชคไม่ดีที่ช่วงนั้นอุบลฯ เกิดเหตุการณ์อุทกภัยหรือน้ำท่วมขึ้น ทำให้ต้องเลื่อนวันจัด จนกลายมาเป็นวันที่ 21-22 มกราคม 2566 แทนนั่นเองพอจะเข้าใจที่มากันบ้างแล้วเดี๋ยวเรามาเล่าในส่วนของไทม์ไลน์ต่าง ๆ ของเราเลยละกันนะครับช่วงเวลาสมัครและก่อนถึงวันแรกเราสมัครไปวันที่ 22 ธันวาคม 2565 นี่แหละ ก็ได้แต่คิดว่าขอให้ได้ไปเถอะ ช่วงเวลาสุดท้ายของม.6 แล้ว Open House ตั้งแต่ม.4-5 ก็ไม่มี ของมศว มธ ที่ผ่านมาเมื่อกี้เราก็ติดธุระ สำหรับค่ายสานฝันสร้างแรงบันดาลใจแบบนี้ก็ขอให้ติดเถอะ แถมยังภาวนาให้มีพี่ ๆ นิสิตจากคณะนิเทศศาสตร์ คณะที่เราชื่นชอบและอยากจะพูดคุยสอบถามมากที่สุดมาเป็นสต๊าฟของค่ายในครั้งนี้ด้วยทีเถอะจนวันที่ 13 มกราคม 2566 เราไม่รู้นะว่าวันนี้ประกาศคนที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมค่ายสานฝันครั้งนี้ จนกระทั่งมีอีเมลแจ้งเข้ามาหาเราตอนเวลา 17:25 น. แต่เราไม่ได้สนใจอะไร จนเพื่อนที่อยู่ด้วยกัน ณ เวลา อ่านเมลของตัวเองแล้วร้องกรี้ดเพราะตกใจออกมา แล้วก็บอกว่า ติดค่ายสานฝันจุฬา เราก็แบบงงมาก แจ้งวันนี้เหรอ รีบเข้าไปดูอีเมลตัวเอง สรุปคือเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกเหมือนกันเลยหลังจากที่เราผ่านการคัดเลือกแล้ว ในอีเมลลที่แจ้งมาจะมี Google Form ให้เราเพื่อยืนยันสิทธิ์ว่าเราจะเข้าร่วมค่ายครั้งนี้ ภายในวันที่ 15 มกราคม 2565 ด้วยความที่เราสมัครไปแบบไม่ได้ปรึกษาครอบครัวอะไรเลย วันที่จัดค่ายก็โดนวันเรียนพิเศษอีก แต่สรุปได้ว่าผู้ปกครองเราก็ให้เราไป เพราะโอกาสแบบนี้มันพลาดไม่ได้แล้ว คว้ามันเอาไว้เลยใน Google Form ที่แนบมาในอีเมลลนั้น คำถามที่พีคไปอีกก็คือ จะค้างที่ค่าย(โรงเรียนเบ็ญฯ) หรือกลับบ้าน สรุปเราเลือกนอนค้างที่ค่าย เกรงว่าถ้ากลับบ้านมันอาจจะดึกแล้วรบกวนผู้ปกครองเกินไป ถามเพื่อนด้วยว่านอนแบบไหน สรุปนอนที่ค่ายเหมือนกันทั้งคู่ พร้อมกับเข้า Open Chat ค่ายใน Line ดูกำหนดการต่าง ๆ ของค่าย ซึ่งคนที่นอนที่ค่ายจะต้องเตรียมของใช้ส่วนตัว หมอนผ้าห่ม ชุดนอน หน้ากากอนามัย ยาประจำตัว ชุดลำลอง ส่วนคนที่กลับบ้านก็เตรียมมาแค่ชุดลำลองเราไล่ดูชื่อแต่ละคนใน Open Chat เต็มไปด้วยม. 4-5 ม.6 ช่างน้อยนิดมาก และนอกจากเด็กจากโรงเบ็ญฯ แล้วยังมีเด็กจากโรงเรียนอื่น ๆ ภายในจังหวัดและจังหวัดอื่น ๆ ก็มาเข้าร่วมด้วยในวันศุกร์พี่สต๊าฟก็จะส่งฟอร์มตรวจ ATK เข้ามาเพื่อความปลอดภัย ผลออกมาขีดเดียว ผ่านเลย ไปต่อได้! วันที่ 21 มกราคม 2565 วันแรกของการเข้าค่ายวันแรกเราก็ขนสัมภาระต่าง ๆ เดินทางไปสู่โรงเรียนเบ็ญฯ โรงเรียนที่ตัวเองคุ้นเคย เพราะเป็นโรงเรียนที่เราอยู่มาจะ 6 ปีเต็มแล้ว! ตามกำหนดการพี่สต๊าฟนัดเจอกันที่หอประชุมเบ็ญจานุสรณ์ 10:00 น. ใกล้ ๆ เวลาที่นัดเราก็เดินไปที่หอประชุม ได้ยินเสียงพี่สต๊าฟจากด้านบนเรียกให้ขึ้นไปลงทะเบียนได้เลยตอนขึ้นไปเราจะเจอกับพี่สต๊าฟ 3 คนที่ถูกเรียกว่า มาสคอต แล้วพี่สต๊าฟทั้ง 3 ก็ทำท่าทางเหมือนตุ๊กตาลมตามศูนย์รถยนต์ต่าง ๆ หลังจากโรงทะเบียนก็จะได้รับป้ายชื่อ มี # ชั้นเรียนตัวเองอยู่ และด้านหลังป้ายจะเขียนเลขไว้ ซึ่งเป็นเลขที่กำหนดกลุ่มไว้ว่าเราจะได้อยู่กลุ่มไหน มันจะมีอยู่ 5 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งก็มีประมาณ 11-12 คน ซึ่งเราได้กลุ่ม 2 ครับ บางกลุ่มก็จะมีโรงเรียนเดียวกัน แต่ส่วนมากพี่เขาจะจับแยกกัน ให้เราได้พูดคุยทำความรู้จักกับคนอื่น ๆ บ้างช่วงแรกก็จะมีพี่ ๆ ผู้เป็นพิธีกรสันทนาการมีอยู่ 3 คน จะมีพี่ปอย พี่อลิซและพี่โปร จะพาเล่นเกมทวนความจำ ปลุกใจให้พวกเราตื่นจากความง่วง เล่มเกม quizz ทายสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับจุฬาชิงของรางวัล พาเต้นเพลงสันทนาการ บางเพลงเราไม่เคยได้ยินมาก่อนก็มาได้ยินกับค่ายนี้นี่แหละ หลังจากนั้นจะมีพิธีเปิด ผู้ดำเนินการคือพิธีกรเชิงวิชาการ 2 คนคือพี่เจตกับพี่กาแล เปิดค่ายโดยผู้อำนวยการโรงเรียนเบ็ญฯ เพราะเป็นเจ้าภาพสถานที่ ประธานนิสิตเก่าจุฬาฯ อุบลฯ มีบันทึกภาพร่วมกันและร้องเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ตามท้ายหลังจากจบพิธีเปิด พี่ ๆ ก็จะมาแนะนำตัวด้วยเพลงสันทนการเช่นเคย เหมือนประมาณว่า "ทำแล้วสบายใจ ทำท่าอย่างงี้สบายใจ พี่ชื่ออะไร พี่ชื่ออะไร พี่ชื่อ... ชอบทำท่าอย่างงี้ ๆ ชอบทำท่าอย่างงี้ ๆ " เราบอกเลยว่า ฟังจนติดหูและสนุกมาก เพราะพี่ ๆ ที่มาค่ายสานฝันในครั้งนี้มีมากกว่า 30 คนได้เลย มาจากหลากหลายคณะมาก มีทั้งคณะครุศาสตร์ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ อักษรศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี เศรษฐศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ สหเวชศาสตร์ แต่เกือบเกินครึ่งค่ายเป็นครุฯ ศิลป์ฯ ไปแล้วนะครับ 555555555ทำกิจกรรมไปค่อนข้างเยอะ จนถึงเวลาอาหารเที่ยง พี่ ๆ จะปล่อยไปกลุ่ม ให้ไปรับประทานอาหารข้างล่างหอประชุม ก็จะมีให้เลือกอยู่ 3 อย่าง เราก็ไปนั่งทานข้าวกับเพื่อนกัน 2 คน พอทานเสร็จก็มีความรู้สึกว่า พวกเราจะต้องหาเพื่อนในค่ายคุยบ้าง มาค่ายไรแบบนี้ทั้งที จะมาคุยกันแค่ 2 คนก็กะไรอยู่ จนเดินไปนั่งที่ม้านั่งหน้าหอประชุม เจอน้องม.4 2 คน คนหนึ่งเป็นเด็กโรงเรียนเบ็ญฯ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นเด็กโรงเรียนสาธิตมมส. ซึ่งเป็นเด็กโรงเรียนเบ็ญฯ เก่าตอนม.ต้น บอกเลยว่าคุยกันแบบออกปากออกรส สนุกมาก จนเกือบจะเกินเวลาที่พี่เขานัดหมายอีกทีช่วง 13:15 น. เลยทีเดียวเมื่อเริ่มเวลา 13:15 น. พี่พิธีกรก็จะร้องเพลงที่เป็นสัญญาณให้ทำบางสิ่งบางอย่าง นั่นคือเพลงที่เอาไว้ใช้เรียกรวมแถวแล้วนั่งเป็นกลุ่ม เพื่อมาฟังรายละเอียดการเข้าฐานคณะต่าง ๆ โดยฐานแต่ละฐานจะใช้สถานที่อาคารจักรพงษ์ หรือ ตึก 1 และอาคารสิรินธร หรือ ตึก 5 แต่ละกลุ่มก็จะมีพี่ประจำกลุ่มอยู่ 3 คน เราได้พี่จากครุฯ ศิลป์ฯ 2 คนคือพี่เชอรี่กับพี่นิว และวิศวะฯ 1 คนคือพี่เกี๊ยว เดินนำทางประกบกลุ่มไว้ บอกเลยว่าบันเทิงมาก 5555555 และแต่ละฐานจะมีคะแนนให้แต่ละกลุ่มด้วย!สำหรับเรากลุ่ม 2 จะได้เริ่มที่ฐานคณะรัฐศาสตร์กับนิติศาสตร์ ฐานคณะอักษรศาสตร์กับครุศาสตร์ ฐานคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีกับเศรษฐศาสตร์ ฐานคณะสหเวชศาสตร์หรือสายสุขภาพ และฐานคณะวิศวกรรมศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ตามลำดับเลยครับสำหรับรายละเอียดของแต่ละฐาน- ฐานคณะรัฐศาสตร์กับนิติศาสตร์ : พี่ประจำฐานจะให้แบ่งกลุ่มเป็น 2 ทีม ทั้ง 2 ทีมก็จะมีพี่ประจำกลุ่มอยู่ด้วย พี่เขาจะเล่าประวัติคร่าว ๆ ของคณะและระบบการเรียนต่าง ๆ ภายในคณะรัฐฯ และนิติฯ แล้วจะให้เล่นเกมให้ค้นหารูปตามที่พี่เขาได้ขึ้นจอมาไว้ให้ บอกเลยว่าเกมนี้ ใครเร็วใครได้ บางรูปหาง่าย บางรูปหายาก บางรูปที่มีประวัติความเป็นมาพี่เขาก็จะพูดเสริมขึ้นมาเพื่อเป็นความรู้รอบตัวให้กับพวกเราสำหรับเกมนี้ส่วนมากกลุ่มเราค่อนข้างทำคะแนนไม่ค่อยได้ เพราะอีกกลุ่มตาเร็ว มือไวจริง ๆ แต่สุดท้ายก็คือคะแนนรวมของกลุ่มอยู่ดีครับ 555555- ฐานคณะอักษรศาสตร์กับครุศาสตร์ : ฐานนี้ไม่มีแบ่งทีมแล้ว แต่พวกเราจะต้องช่วยกันจัดกลุ่มวิชาที่อยู่ในคณะอักษรฯ ครุฯ และวิชา Gen-ed ซึ่งตัวเลือกที่ให้มาจะไม่มีวิชาไหนที่เรียนเหมือนกันทุกคณะเลย กฎก็คือห้ามใช้โทรศัพท์เปิดหลักสูตรดู อย่างอักษรฯ ตัวเลือกที่ให้มา ถ้าเราพอจำความได้จะมี WEST CIV อารยธรรมตะวันตก, UP INTER GER I ภาษาเยอรมันระดับกลาง, ศิลปการละคร ของครุฯ มี COM GAME เกมคอมพิวเตอร์, FUN ASTROLOGY LECT EDU ดาราศาสตร์เบื้องต้น, หัตถศิลป์สร้างสรรค์ ของวิชา Gen-ed จะมีขั้นตอนของสิ่งมีชีวิต แหะ ๆ เราจำได้แค่นี้แหละหลังจากเล่นเสร็จ พี่ ๆ ก็จะเล่าถึงวิชาต่าง ๆ ในตัวเลือก อธิบายวิชา GEN-ed และให้ถามคำถามสำหรับคนที่สงสัย- ฐานคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีกับเศรษฐศาสตร์ : ฐานของคณะที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข แน่นอนว่าไม่พ้นเกมคำนวณเลข พี่ประจำฐานจะให้จับคู่กัน 2 คน ซึ่งเราได้คู่กับพี่เกี๊ยว ผู้เรียนวิศวะฯ ความหวังของคู่เรามาก!! แต่พี่เขาพูดขัดไว้ก่อนว่า อย่าคาดหวังกับพี่ พี่มันวิศวะฯ เทียม โอ้ยพี่ 55555555 ลักษณะเกม จะคล้ายกับเกม 24 พี่ประจำฐานจะให้เราเลือกหยิบใบตัวเลขมา 4 ใบ แล้วพี่เขาจะสุ่มผลลัพธ์ของเลขมาให้ ทำยังไงก็ได้ ให้เลข 4 ใบที่เราจับมาสามารถคำนวณออกมาตามผลลัพธ์ที่สุ่มให้ จะมีทั้งหมดอยู่ 5 ข้อด้วยกัน ช่วงข้อที่ 4 พี่ประจำฐานบอกว่าสามารถเปลี่ยนเลขกี่ใบก็ได้กับเพื่อนสักคู่ ซึ่งหลังจากที่คู่ไหนคิดได้แล้ว คิดถูกแล้ว ก็สามารถช่วยเพื่อนคู่อื่นได้ทุก ๆ ข้อที่คิดส่วนมากจะมาจากพี่เกี๊ยว เราช่วยคิดนิด ช่วยจำหน่อย แต่พี่เกี๊ยวคิดเร็วจริง นับถือมาก ๆ และเช่นเคยครับ เล่นเสร็จก็เปิดโอกาสให้น้อง ๆ ถามคำถามเกี่ยวกับคณะหรือสิ่งที่สงสัย- ฐานคณะสหเวชศาสตร์หรือสายสุขภาพ : ฐานนี้สายวิทย์หน่อย แต่ไม่ยากอย่างที่คิด เข้ามาในห้องจะให้แบ่งทีมกัน 2 ทีม พี่ประจำฐานจะเปิดวิดีทัศน์ของคณะให้ดู มีทั้งออกค่าย Workshop กิจกรรมและการเรียนการสอนที่มีในคณะ น่าสนุกมาก ๆ เลย สำหรับเกมของฐานนี้ มี 2 เกมเกมที่ 1 พี่ประจำฐานจะให้สุ่มหยิบกระดาษมา 5 ใบ แล้วให้นำคำเหล่านั้นมาแต่งประโยคเพียง 30 พยางค์ และบวกลบได้ไม่เกิน 5 พยางค์ แล้วให้แลกประโยคที่แต่งให้กับอีกทีม จากนั้นให้เข้าแถวเรียงกัน คนแรกจะต้องจำประโยคที่อีกทีมแต่งให้ครบ เพื่อส่งให้คนต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงคนสุดท้าย แล้วให้คนสุดท้ายมาพูดให้พี่ประจำฐานฟังว่า พูดถูกทั้งหมดไหม หรือผิดถูกแค่ไหน ทีมเราส่วนมากเป็นชื่ออาหาร แต่อีกทีมชื่อยา ศัพท์ทางเคมีมาเต็มเลย ยากมาก ๆ แต่ก็ตื่นดีนะครับเกมที่ 2 ในช่วงที่เล่นเกมที่ 1 อยู่ พี่ประจำฐานบางส่วนจะจัดน้ำชา และนม 2 สูตร และขนมแคร็กเกอร์เป็นชุด ๆ ให้ โดยจะให้เราจิบนมฝั่งซ้าย ตามด้วยจิบน้ำชา และตกท้ายด้วยขนมแคร็กเกอร์ ทำแบบนี้ไปจนถึงนมฝั่งขวาสุดแล้วท้ายว่า นมแก้วไหนเป็นสูตรไหน- และมาถึงฐานสุดท้ายของกลุ่มเรา ฐานคณะวิศวกรรมศาสตร์กับวิทยาศาสตร์ : ฐานนี้ไม่ใช่เกมการคำนวณสูตรต่าง ๆ ของวิศวะฯ แต่เป็นที่ต้องคิดวางแผน คิดหากลยุทธ์ เพราะมันคือเกมบิงโก XO พี่ประจำฐานจะให้เราแบ่งทีมเป็น 2 ทีม เพื่อแบ่งเป็นทีม ตัว X ตัว O จากนั้นให้เข้าแถวเรียงกัน เพื่อให้คนแรกวิ่งไปหยิบเบี้ยของทีมตัวเอง ไปใส่ในตาราง 1 คน/เบี้ย 1 ตัว แล้วก็สลับกันวิ่งไปมาจนกว่าจะมีทีมใดทีมหนึ่งบิงโก เล่นไปประมาณ 4 รอบได้ก็จะมีกฎพิเศษ ทางพี่ประจำฐานเรียกว่า ตัวผี เป็นตัวป่วนของเกมได้เลย แทรกกฎใหม่เข้ามาอีก หลังจากคนที่ 3 สามารถเลือกที่จะสลับตำแหน่งทีมตัวเอง ทีมตรงข้าม หรือตัวผีก็ได้ แต่จะต้องเลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้นผลสรุปคือ ทีมเราชนะไปนะครับ เย้!!!หลังจากเข้าฐานครบทุกฐานแล้ว พี่ประจำกลุ่มก็จะพาเดินกลับไปที่หอประชุม รับอาหารว่างทาน พูดคุยกับคนอื่นไปก่อน และมีมุมให้เขียนความในใจถึงพี่ ๆ สต๊าฟด้วยจากนั้นพี่พิธีกรจะเรียกรวม มีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะเลย ทั้งเต้นจับคู่จาก 2 คน กลายเป็น 5 กลายเป็น 10 จนไปถึงจับมือเป็นวงกลมทั้งหอประชุม พี่ ๆ ก็จะพาเต้นเพลงสันทนาการก่อน เพลงเปิดโลกมากคือ เพลงกาต้มน้ำ สนุกมาก ๆ เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย แล้วก็ให้พี่สต๊าฟเข้าไปนั่งแทรกน้อง ๆ ในวงกลม จนนำไปสู่เกมกะหล่ำปลี จะมีการเปิดเพลงแล้วส่งต่อกะหล่ำปลีไปเรื่อย ๆ แล้วกดหยุด ลุ้นมาก ๆ เพราะกระดาษที่เอามาทำกะหล่ำปลี มีเขียนบทลงโทษต่าง ๆ ไว้อยู่ แกล้งคนโดนบ้าง แกล้งพี่สต๊าฟบ้างเมื่อเล่นเสร็จ พี่สต๊าฟจะให้เรานั่งเป็นกลุ่ม ชี้แจงการปฏิบัติช่วงรับประทานอาหารเย็น เปลี่ยนชุดลำลองเพราะมีกิจกรรมกีฬาสี!!อาหารเย็นก็มีให้เลือก 3 อย่างเช่นเคย เราได้ร่วมโต๊ะอาหารกับทั้งเพื่อนใหม่ ทั้งน้องใหม่ ทั้งพี่สต๊าฟ พูดคุยกันอย่างสนุกสนานมาก เพิ่งเคยเจอกันแต่คุยแบบสนิทสนมกันจริง ๆทานอาหารเย็นเสร็จก็ไปเปลี่ยนชุดลำลอง เรากับเพื่อนที่มาด้วยกันก็คุ้นชินกับโรงเรียนเบ็ญฯ อยู่แล้ว ก็มีไปซื้อของกินเพิ่มที่หน้าโรงเรียน ถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศช่วงเวลานี้ไว้18:30 น. เวลานัดหมาย เพื่อนำไปสู่กีฬาสีค่ายสานฝัน ซึ่งพี่ประจำกลุ่ม 3 คน ในนี้จะต้องมี 1 คนไปเป็นแม่สีของกลุ่มด้วย ซึ่งกลุ่มเราคือสีแดง นำโดยพี่เชอรี่ ครุฯ ศิลป์ฯ และจะมีกรรมการให้่คะแนนด้วยพี่พิธีกรจะให้แต่ละกลุ่มนั่งแยก ๆ กันเป็นตัว U กิจกรรมในกีฬาสี ทุกกิจกรรมมีคะแนน รายละเอียดแต่ละกิจกรรมมันยาวมาก เราขอย่อ ๆ เอานะ1. คิดท่าเต้นประจำกลุ่ม แล้วให้ออกมาเต้นอยู่กลางหอประชุมทั้งกลุ่ม (กลุ่มเราเต้นเพลงกิ่งก้านใบ)2. ให้ไปหลบหลังเส้นเทปที่แปะไว้ แล้วให้วิ่งมาอยู่ในช่องที่ทำไว้ จากนั้นจะลดขนาดกรอบลงไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเหลือคนสุดท้าย3. ให้แม่สีปิดตาแต่งหน้า แล้วมาออกเดินโชว์ นำเสนอให้กรรมการดู4. จับมือลอดห่วงฮูลาฮูป 5. คิดท่าตามโจทย์ (ท่าดอกไม้ ท่าสัตว์ ท่าอนุสาวรีย์)6. เกมลากกระสอบ และก็กิจกรรมกีฬาสีก็จบลงในที่สุดครับ บอกเลยว่า ทุกเกม ทุกกิจกรรมใช้พลังงานเยอะมาก สร้างความสามัคคี ความสนุกกันสุด ๆ จากนั้น จะเข้าสู่ช่วงสร้างแรงบันดาลใจกันอย่างแท้จริงแล้วนะครับพี่พิธีกรจะให้พวกเรานั่งกันเป็นครึ่งวงกลมแล้วหลับตาลงนานแปปนึง เพื่อให้พี่ ๆ ได้เตรียมของกันให้พร้อม ผ่านไปสักพัก พี่ ๆ ก็จะให้ลืมตา ภาพที่อยู่ตรงหน้า คือหอประชุมที่ปิดไฟ แสงสว่างมาจากแสงเทียนที่ตั้งอยู่ข้างหน้า และพี่ที่อยู่ข้างหน้่าเราเป๊ะ ๆ เลยก็คือ พี่ป้อนข้าว แม่สีสีเขียวประจำกลุ่ม 3 ข้าง ๆ จะมีพี่พอล พี่เชอรี่ ถือด้ายสีขาว สีชมพูอยู่ด้วยช่วงเวลานี้ พี่ ๆ ก็จะให้พวกเราเดินไปหารุ่นพี่ที่เราอยากให้เขาอวยพร ผูกด้ายที่ข้อมือให้ จะกี่คนก็ได้ในเวลาที่กำหนดทุก ๆ คนที่เราไปหาก็คือถ่ายวิดีโอไว้ทุกคนเลย ด้ายที่รุ่นพี่ผูก คำอวยพรที่พี่ ๆ ให้มานั้นสำหรับมันมีความหมายมาก ๆ สร้างแรงบันดาลใจให้เราสุด ๆ ทุก ๆ คนที่มาค่ายนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะอยากจะเข้าจุฬาฯ บางคนค้นหาตัวเองเจอแล้ว บางคนก็ยังไม่เจอ พี่ ๆ ก็ไม่ติดขัดอะไร ความในใจอะไรต่าง ๆ ที่อยากบอกพี่ ๆ ก็สามารถบอกได้ ช่วงเวลานี้มันทำให้เรามีความสุขและซาบซึ้งมาก ไม่อยากจะให้มันจบลงเลยหลังจากช่วงเวลาการสร้างแรงบันดาลใจจบ ประมาณ 21:30 น. พี่ ๆ ก็จะให้เริ่มเตรียมตัวกลับหรือเข้านอน ใครกลับบ้านก็โทรบอกผู้ปกครองมารับ หรือเอารถมาเองก็บอกป้ายทะเบียน ส่วนใครนอนค้างที่ค่าย พี่สต๊าฟก็จะพาไปซึ่งเราได้นอนค้างที่ตึกมหาราช ผู้ชายจะนอนรวมกันกีบพี่สต๊าฟผู้ชายที่ห้องประชุมชั้นที่ 1 ของตึก ผู้หญิงจะนอนที่ชั้น 3 อาบน้ำที่ห้องน้ำครูเราขนสัมภาระมาเยอะมาก ก.ไก่ล้านตัว พี่นิวพี่ประจำกลุ่มก็ได้มาถือช่วยด้วย 5555555 ซึ่งช่วงเวลานี้ จะมีสต๊าฟแบ่งกลุ่มกัน กลุ่มหนึ่งไปไหว้เจ้าที่ของโรงเรียนเบ็ญฯ ทั้ง 4 ที่ ส่วนอีกกลุ่มจะดูแลน้อง ๆ ที่นอนค้างที่ค่าย เราอาบน้ำเสร็จอะไรเสร็จก็มานั่งคุยเล่นกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ สต๊าฟที่หน้าตึกมหาราช ในโรงเรียนที่ว่าบรรยากาศน่ากลัวก็หายไปเลย พวกเราคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานเมามันส์ออกปากออกรสมาก เป็นอีกช่วงเวลาที่ไม่อยากให้มันผ่านไปเร็วเลย แล้วตามตารางคือต้องเข้านอน 22:00 น. แต่คุยเพลินสุด ๆ จนเลย 23:00 น. ไปนิดหน่อย กลุ่มพี่สต๊าฟที่ไปไหว้เจ้าที่ก็กลับมา พร้อมกับคำถามว่า "น้อง ๆ ยังไม่นอนอีกเหรอคะ" ไปไม่ถูกเลยเรา 5555555หลังจากพี่ ๆ มารวมตัวกันครบแล้วก็จะมีการประชุมสรุปงานที่จัดมาในวันนี้ ที่ห้องประชุมชั้นที่ 1 กว่าจะประชุมเสร็จหรือเราได้นอนจริงก็เลยไปวันใหม่แล้วล่ะครับ วันที่ 22 มกราคม 2565 วันสุดท้ายของค่ายสานฝันจุฬา-อุบลวันนี้เราตื่นเวลา 05.37 น. นอนไปเกือบ 5 ชั่วโมง แถมยังต้องตื่นมาอาบน้ำในสภาพอากาศที่หนาวสุด ๆ พี่สต๊าฟเทคแคร์ดีมาก ทักทายเราบ้าง ถามเราหลับสบายดีไหมบ้าง ฝันเจอเลขอะไรบ้าง 555555 แล้วก็เก็บของสัมภาระต่าง ๆ ไปรับประทานอาหารเช้าที่ใต้หอประชุม ประมาณ 07:10 น. อาหารมีให้เลือกเช่นเคย ได้พูดคุยกับพี่สต๊าฟมากขึ้นด้วย ทานเสร็จก็ให้มานั่งรวมกัน เป็นแถวแต่ละกลุ่ม และตามเดิม ให้เต้นเพลงจับคู่ทีละ 2 ไปจนถึงวงกลมใหญ่ เจอเพลงสันทนาการใหม่ ๆ อีกแล้ว นั่นคือเพลงแมลงวัน ถ้าเราได้นั่งข้างเพื่อน ๆ ร่วมค่ายก็จะแอบเขินตอนเต้นอยู่ แต่ข้างเราเป็นพี่สต๊าฟไปแล้ว 2 คน ความเขินความอายเราหายไปเลย วันสุดท้ายแล้ว เต้น ๆ ไปเถอะ ให้พี่สต๊าฟเขาได้ดีใจว่าเราเอ็นจอยกับกิจกรรมมาก ๆหลังจากนั้นก็จะให้มานั่งเป็นกลุ่มเหมือนเดิม ทีนี้ พี่ ๆ แต่ละคณะก็จะไปนั่งตามจุดต่าง ๆ เพื่อขายคณะตัวเอง หรือให้น้อง ๆ ที่สงสัยในเรื่องใดก็สามารถถามได้ ให้เวลา 1 ชั่วโมงในกิจกรรมนี้ ซึ่งแต่ละคณะมีเวลา 20 นาที แต่เมื่อถึงเวลาจริง มันก็มีคนเปลี่ยนไปคณะอื่นบ้าง อยู่คณะเดิมบ้าง อย่างเราไปคณะอักษรฯ ก่อน อยู่นานนิดนึงแล้วก็ย้ายไปคณะครุฯ จนหมดเวลากิจกรรมนี้ถึงเวลาทำพิธีปิดแบบทางการที่ยังไม่จากลา ปิดโดยผู้อำนวยการโรงเรียนเบ็ญฯ มามอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมค่าย บันทึกภาพร่วมกัน หลังจากนั้นเข้าสู่โหมดซึ้ง ๆ อีกรอบ ด้วยการที่พี่สต๊าฟยืนเป็นวงกลมล้อมพวกเรา เพื่อร้องเพลงมหาจุฬาลงกรณ์และบูมเชียร์พวกเรา และตามด้วยการเปิดวิดีทัศน์กิจกรรมในค่ายเมื่อวาน ซึ่งเป็นวิดีทัศน์ที่ยาวถึง 9 นาทีได้ ปิดท้ายวิดีทัศน์ด้วยคำว่า SEE U AT CU ยอมใจคนตัดวิดีทัศน์นี้จริง ๆ สละเวลานอนเพื่อวิดีทัศน์ดี ๆ ซึ้ง ๆ อย่างนี้ให้พวกเราถึงเวลาล่าของรางวัล พี่พิธีกรจะถามคำถามแล้วให้พวกเราจับที่หูก่อนแล้วจะนับ 1 2 3 ยกมือ ใครเร็วใครได้ สำหรับคำถามก็ไม่ยากมาก เป็นคำถามที่เราตอบได้ แต่ยกมือไม่ทันคนอื่นเขา 55555555 จนมาถึงอีกรางวัล พี่พิธีกรต้องการคนที่มีความกล้าแสดงออกออกมาเต้น 5 คน ซึ่งไปจริง 6 คน แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรในเรื่องของรางวัล ตอนแรกพี่พิธีกรก็ถามแล้วนะว่าอยากจะเต้นเพลงอะไร ใจเราอยากเต้นไม่เพลงกาต้มน้ำก็แมลงวัน แต่ตอบไม่ทัน จนคำถามนั้นมันไปหาพี่มาร์ค พี่สันทนาการและเต้นสาธิตที่เต้นได้แรงเมามันส์ดุเดือดเอนเตอร์เทนสุด ๆ คนหนึ่งเลย พี่มาร์คได้เสนอเพลงนกกระยางให้กับพวกเราทั้ง 6 คนไป เต้นสิครับ รออะไรอยู่หมดช่วงเวลาชิงของรางวัลแล้ว ก็ถึงเวลาที่ทุก ๆ กลุ่มรอ นั่นคือการประกาศผลกีฬาสี!! สรุปผลคือสีแดงได้ที่ 1 นั่นก็คือสีเราเองครับ เย้!!!ค่ายสานฝันใกล้หมดเวลาเข้าทุกที ถึงเวลามาตั้งกล้องด้านหน้า รวมตัวกันเป็นกันวงกลมล้อมพวกเราอีกรอบ จริง ๆ เพลงสันทนาการของพี่ ๆ มันเยอะกว่านี้ แต่ก็ต้องรวบยอด ลดเพลงตัดเพลงไปเพื่อทำเวลาไม่ให้สายไปมากกว่านี้ พี่ ๆ เต้นเต็มที่กันมาก บางคนอาจจะไม่แม่นท่าบางเพลง แต่ก็พยายามเต้นสันทนาการเพื่อพวกเราจริง ๆถึงจุดนี้แล้ว ผู้อ่านคงจะแบบ จบที่ไม่จบสินะ 555555ใกล้จบค่ายนี้จริง ๆ แล้วครับ เพราะอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ชอบคือพี่ ๆ จับคู่จับมือทำซุ้มให้พวกเราทุกคนลอดซุ้มแขนของพี่ ๆลอดซุ้มพี่ ๆ สต๊าฟเสร็จก็ยังพอมีเวลาพูดคุยเล่นกันสักแปปนึง ถ่ายรูปคู่ ถ่ายรูปกลุ่ม แลกช่องทางการติดต่อ ร่ำลากัน และแล้วค่ายสานฝันจุฬา-อุบล ครั้งที่ 24 ก็จบลงในที่สุดจบเรียบร้อยแล้วครับ สำหรับการเล่าประสบการณ์เข้าร่วมค่ายสานฝันจุฬา-อุบล ครั้งที่ 24 เรารู้สึกดีใจแบบบอกไม่ถูกอะ รู้สึกคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ตัดสินใจมาค่ายนี้ ตอนแรกก็กลัวไม่สนุกเพราะไม่มีรุ่นพี่ที่มาจากคณะนิเทศฯ แต่เอาไปเอามา รุ่นพี่จากคณะอื่น ๆ ก็สามารถสร้างความสุข ความสนุกให้กับเราได้เช่นกัน ดีเกินความคาดหมายของเราสุด ๆ ดีใจที่ได้รู้จักพี่ ๆ ได้พูดคุยกับพี่ ๆ เกือบพลาดอะไรดี ๆ อย่างค่ายนี้ไปซะแล้ว ถ้าเป็นไปได้ เราก็หวังว่าจะติดจุฬาฯ มาเป็นสต๊าฟค่ายนี้ให้ได้เลยครับ!ภาพปก จาก Cu-Ubon Sanfun Campภาพ1 จาก Cu-Ubon Sanfun Campภาพ 2-19 โดยผู้เขียนเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !